xs
xsm
sm
md
lg

9 จุดผิดใน "An Inconvenient Truth"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เทเลกราฟ/บีบีซีนิวส์ - ต้องขอแสดงความยินดีกับ "อัล กอร์" ที่ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพประจำปีนี้ ที่ต้นปีก็เพิ่งพา "An Inconvenient Truth" คว้าออสการ์จากวงการภาพยนตร์ แม้จะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ แต่แผ่นฟิล์มของอดีตรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ก็ถูกท้วงติงว่ามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ผิดพลาดถึง 9 จุด พร้อมทั้งข้อความเอนเอียงทางการเมือง อันเป็นเหตุให้รัฐบาลอังกฤษต้องแนบ "คำแนะนำ" เมื่อส่งให้โรงเรียนต่างๆ เปิดชม

เหตุแห่งการจับผิดภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ สจ๊วต ดิมมอก (Stewart Dimmock) คณะกรรมการศึกษาคนหนึ่งของเมืองเคนท์ (Kent) สหราชอาณาจักร เรียกร้องให้สั่งห้ามฉายภาพยนตร์สารคดี "แอนอินคอนเวเนียน ทรูธ" (An Inconvenient Truth) ตามโรงเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งรัฐบาลอังกฤษส่งเป็นสื่อเพื่อการศึกษาให้โรงเรียนกว่า 3,500 แห่งทั่วทั้งเกาะอังกฤษ เพราะมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ผิดพลาด รวมทั้งยังฉวยโอกาสโฆษณาทางการเมืองอีกด้วย

เมื่อนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาในศาล ที่สุดแล้วไมเคิล เบอร์ตัน (Michael Burton) ผู้พิพากษาศาลสูงแห่ง ก็ตัดสินว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถนำฉายได้ตามโรงเรียนต่างๆ แต่จะต้องมีการเพิ่มข้อมูลที่ถูกต้องในส่วนที่เป็นปัญหาเท่านั้น หากไม่ทำเช่นนั้นจะถือว่าละเมิดรัฐบัญญัติการศึกษาฉบับปี 2539

ทั้งนี้ ปัญหาของภาพยนตร์ที่อำนวยการสร้างโดยอัล กอร์ (Al Gore) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น นอกจากจะเต็มไปด้วยข้อความโฆษณาทางการเมืองเพียงฝ่ายเดียวแล้ว ในส่วนของข้อมูลต่างๆ ยังมุ่งเน้นให้ตื่นเต้นใหญ่โต เพื่อให้ผู้ชมคล้อยตามไปกับสมมติฐานของเขา ซึ่งภาพยนตร์สารคดีที่ได้รับรางวัลออสการ์เรื่องนี้มี 9 จุดที่ไม่สอดคล้องกับมติของวิทยาศาสตร์กระแสหลัก ได้แก่

1. ในภาพยนตร์กล่าวว่าภายในอนาคตอันใกล้นี้ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 6 เมตร เพราะน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาตะวันตกหรือกรีนแลนด์ละลาย ซึ่งศาลกล่าวว่าเป็นการเตือนแบบ "ตื่นตูม" (distinctly alarmist) และนับเป็นความรู้พื้นฐานว่า หากกรีนแลนด์ละลายจนทำให้เกิดน้ำปริมาณมหาศาลตามที่อ้างได้จริง แต่ต้องอาศัยเวลานับพันปี

2. ภาพยนตร์ของกอร์อ้างว่าเกาะขนาดเล็กที่เกิดจากหินปะการังในมหาสมุทรแปซิฟิกจะจมน้ำ เพราะภาวะโลกร้อนที่เกิดจากมนุษย์ แต่ศาลกล่าวว่ายังไม่มีหลักฐานการถดถอยของจำนวนกาะเกิดขึ้น

3. ในเรื่องระบุว่าโลกร้อนจะหยุด "สายพานของกระแสน้ำในมหาสมุทร" (Ocean Conveyor) ซึ่งเป็นกระบวนการทำให้เกิดการไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทร จากแอตแลนติกเหนือไปยังยุโรปฝั่งตะวันตก แต่ศาลกล่าวว่าคำอ้างดังกล่าวแตกต่างจากคำกล่าวของไอพีซีซีที่ระบุถึงสายพานของกระแสน้ำในมหาสมุทรจะไม่หยุดลงในอนาคตแม้ว่าจะไหลเวียนช้าลงก็ตาม

4. กอร์อ้างถึงกราฟ 2 เส้น ที่แสดงถึงปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์กับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในช่วง 650,000 ปีแสดงถึงความสอดคล้องอย่างพอดี แต่ศาลกล่าวว่าแม้ทางวิทยาศาสตร์จะมีความเห็นว่าคาร์บอนไดออกไซด์และอุณหภูมิมีความเกี่ยวเนื่องกัน แต่กราฟทั้งสองก็ไม่ใช่หลักฐานในสิ่งที่กอร์กล่าวถึง

5. ภาพยนตร์ของกอร์กล่าวว่าหิมะบนภูเขาคีรีมันจาโร (Kilimanjaro) ในแอฟริกาตะวันออกที่หายไปนั้น แสดงถึงผลสืบเนื่องจากโลกร้อน ซึ่งศาลได้รับรู้ในความสอดคล้องทางวิทยาศาสตร์ดังกล่าว แต่ว่าไม่สามารถประเมินการลดลงของหิมะว่ามีสาเหตุหลักมาจากมนุษย์

6. ภาพยนตร์ของกอร์กล่าวอีกว่าทะเลสาบชาด (Chad) ที่แห้งคอด เป็นตัวอย่างที่สำคัญของหายนะที่เกิดจากภาวะโลกร้อน แต่ศาลกล่าวว่าการพิจารณาดังกล่าวไม่ได้นำปัจจัยอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วย อย่างการเพิ่มขึ้นของประชากร การทำปศุสัตว์ที่มากเกิน และความหลากหลายของสภาพอากาศในท้องถิ่น

7. กอร์ ฟันธงอย่างชัดเจนในภาพยนตร์ว่า "เฮอร์ริเคนแคทรินา" (Hurricane Katrina) ที่กวาดล้างมลรัฐนิวออร์ลีนส์ สหรัฐฯ นั้นเกิดจากภาวะโลกร้อน แต่ศาลกล่าวว่ายังขาดหลักฐานที่เพียงพอที่จะแสดงเช่นนั้น

8. กอร์อ้างว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแสดงเป็นครั้งแรกถึงการพบหมีขั้วโลกจมน้ำตายจากการว่ายน้ำเป็นระยะทางไกลกว่า 90 กิโลเมตรเพื่อหาก้อนน้ำแข็งขึ้นไปเกาะอาศัย แต่ศาลกล่าวว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์อีกด้านเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้มีหมีขั้วโลก 4 ตัวจมน้ำตายจากพายุ ซึ่งไม่อาจกล่าวได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้นการตายเพราะจมน้ำของหมีขั้วโลก อาจเกี่ยวไม่ได้เกี่ยวกับปริมาณน้ำแข็งที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้สนับสนุนคำบรรยายของกอร์เลย

9. กอร์กล่าวว่าแนวปะการังทั่วโลกกำลังฟอกขาว เพราะผลจากโลกร้อนและปัจจัยอื่น แต่ตามคำอ้างของไอพีซีซีอีกเช่นเคย ศาลกล่าวว่าหากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสอาจทำให้ปะการังฟอกขาวและตายเพิ่มมากขึ้น เว้นเสียแต่ว่าปะการังจะปรับตัวได้ อย่างไรก็ดีศาลชี้ว่าการแยกผลกระทบเกิดภาวะโลกร้อนออกจากปัจจัยอื่นๆ อย่างการทำประมงเกินพอดีและปัจจัยจากมลพิษอันมีผลต่อปะการังนั้นเป็นเรื่องยาก




-- อ่านรายงานสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงโดย IPCC ---

- รายงานฉบับ 3 "โลกร้อนแก้ได้" แต่ต้องจริงจังและทำภายใน 20-30 ปีนี้
- รายงานฉบับสอง "ไอพีซีซี" ระบุมนุษย์หลายพันล้านต้องเผชิญผล "โลกร้อน"
- เปิดรายงาน "โลกร้อน" มนุษย์คือตัวการและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


** คลิกที่นี่ **
ติดตามการประกาศผลรางวัลโนเบลประจำปี 2007





กำลังโหลดความคิดเห็น