ครม.ผ่าน ร่าง พ.ร.ฎ.ตั้งสถาบันดาราศาสตร์ฯ เป็นองค์การมหาชน

ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.จัดตั้งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์เป็นองค์การมหาชนแล้ว ด้าน ผอ.สถาบันฯ เผยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา เชื่อปลายปีนี้จะเป็นองค์การมหาชนเต็มตัวแน่นอน ระบุเป็นก้าวกระโดดสำคัญของวิทยาศาสตร์ชาติ

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ต.ค.50 ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) จัดตั้งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เป็นองค์การมหาชน พร้อมมอบข้อเสนอแนะบางประการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ตันสังกัดนำไปพิจารณา

รศ.ดร.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สดร.เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สดร.ได้เตรียมความพร้อมจัดตั้งเป็นองค์การมหาชนแล้ว เพื่อให้เป็นองค์กรที่มีความอิสระและคล่องตัวมากขึ้น ดึงดูดให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมงานมากขึ้น อีกทั้งแบ่งเบาภาระด้านงบประมาณจากรัฐ โดยได้เตรียมตัวทั้งในส่วนของการวางโครงสร้างพื้นฐานของสถาบัน เช่น หอดูดาวแห่งชาติ ณ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร

ขณะเดียวกันยังได้เตรียมพร้อมแผนดำเนินการตามยุทธศาสตร์อย่างชัดเจนด้วย คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนางานวิจัยสู่ความเป็นเลิศและเป็นศูนย์กลางด้านดาราศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การบริการชุมชน การสนับสนุนการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนดาราศาสตร์ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงอุดมศึกษาของประเทศ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายการวิจัยกับหน่วยงานทั้งในและนอกประเทศ

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สดร.ได้ลงนามสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และหอดูดาวมณฑลยูนนาน ประเทศจีนแล้ว โดย ผอ.สดร. เผยว่า ในปี 2551 สดร.ยังจะมีการลงนามเพิ่มเติมกับมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล จอห์นมัวรส์ ประเทศอังกฤษ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์เกาหลีอีก 2 แห่ง และมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียด้วย

“ในการประชุม ครม.ครั้งนี้ ผมได้เข้าร่วมชี้แจงในที่ประชุมด้วย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ (ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์) นำเสนอต่อที่ประชุม โดยอาจารย์ไพบูลย์ (ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี) ได้แนะนำในส่วนของงบประมาณว่าต้องขึ้นอยู่กับผลลัพธ์และผลผลิต การพิจารณาความคุ้มทุน และใช้งบประมาณให้คุ้มค่า” รศ.ดร.บุญรักษาเผย

ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร สดร. ยังไม่ได้จัดทำในขั้นตอนนี้ เนื่องจากต้องรอให้ พ.ร.ฎ. จัดตั้งสถาบันฯ ประกาศใช้ก่อน โดยเชื่อว่าจะได้ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ส่วนคณะกรรมการอื่นๆ ประกอบด้วยปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และ ผอ.สดร.ดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ รวมถึงมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นๆ อีก 7 คน

สำหรับขั้นตอนการจัดตั้งเป็นองค์การมหาชนที่เหลือ ผอ.สดร. ว่า ได้มีการนำเรื่องส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว โดยเชื่อว่าขั้นตอนต่างๆ จะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้แน่นอน ซึ่งส่งผลถึงการเป็นองค์การมหาชนไปในเวลาเดียวกัน

“เรามีความมั่นใจเมื่อเราเป็นองค์การมหาชนแล้ว เราก็จะมีความพร้อมด้านบุคลากรมากขึ้น มีผลงานวิจัย ความร่วมมือกับต่างประเทศ และมีการฝึกอบรมบุคลากรมากขึ้น เชื่อว่าต่อไปดาราศาสตร์ของไทยจะเทียบได้กับสากล เป็นก้าวกระโดดสำคัญของวิทยาศาสตร์ไทย” ผอ.สดร.ทิ้งท้าย