xs
xsm
sm
md
lg

นานาสัตว์ “นักบินอวกาศจำเป็น” ถางทางสู่ดวงดาวของมวลมนุษย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กว่าที่มนุษย์คนแรกจะได้ย่างกรายออกสู่อวกาศ “สัตว์” สารพัดชนิด ต่างกลายเป็นหน่วยหน้าถูกส่งไปทดลองผลกระทบของการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก และอาการต้านทานต่อการขึ้นลงผ่านชั้นบรรยากาศ ที่นอกเหนือจากการทดลองในห้องแล็บหนือสถานการณ์จำลอง

นอกเหนือจากหนูแล้ว ลิงวอก, ชิมแปนซี และสุนัข เป็นสิ่งมีชีวิตยอดนิยมในการหยั่งทดสอบชีวิตบนอวกาศ สหรัฐอเมริกาเริ่มทดลองเทคโนโลยีอวกาศกับสัตว์ตั้งแต่ปี 2491 โดยในเดือน มิ.ย. ได้เริ่มโครงการ “อัลเบิร์ต” ส่งสิ่งมีชีวิตติดไปในส่วนปลายของจรวด เพื่อทดสอบปฏิกิริยาขณะจรวดขึ้นลงแตะขอบอวกาศ โดยอัลเบิร์ตที่ 1 ถึง 5 ถูกทยอยส่งขึ้นสู่อวกาศในระยะเวลา 2 ปี อัลเบิร์ตที่ 1 และ 2 เป็นลิงวอก ทั้งคู่ตายระหว่างเดินทาง ส่วนลิงในอัลเบิร์ตที่ 4 รอดชีวิตกลับมาแต่ตกกระแทกพื้นโลกในขากลับ ขณะที่อัลเบิร์ตที่ 3 และ 5 ใช้ “หนูทดลอง” แทนโดยมีกล้องบันทึกภาพไว้ขณะบิน

20 ก.ย.2494 ลิง “ยอริก” และหนูอีก 11 ตัวมีชีวิตรอดกลับมา หลังจากติดไปกับจรวดมิสไซล์แอโรบี ที่ความสูง 72 ก.ม. “ยอริก” กลายเป็นลิงตัวแรกที่มีชีวิตรอดระหว่างการเดินทางสู่อวกาศ

จากนั้น 22 พ.ค.2495 แพทริเซีย และไมค์ 2 ลิงฟิลิปปินส์ ก็ถูกส่งขึ้นไปบ้าง ซึ่งการทดลองครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์มองเห็นผลของการเพิ่มและลดอัตราเร่ง รวมทั้งสภาพไร้น้ำหนักจากกล้องที่ติดไว้ สัตว์ทั้ง 2 ตัวกลับมาอย่างปลอดภัย

ขณะเดียวกันทางฝั่งสหภาพโซเวียตก็สอดแนมการทดลองของสหรัฐฯ พร้อมทั้งส่งหนูแรท, หนูเมาส์ และกระต่ายทดลองเดินทางสู่อวกาศแบบตั๋วเที่ยวเดียว ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือการสร้างห้องโดยสารให้เหมาะกับการเดินทางของมนุษย์

โซเวียตเลือกสุนัขตัวเล็กๆ แทนลิง เพราะเชื่อว่าสุนัขน่าจะอดทนได้มากกว่าลิง ระหว่างปี 2494-2495 สุนัข 9 ตัวได้ร่วมเดินทางไปในจรวดลำเดียว จนแตะขอบอวกาศและกลับมาได้อย่างปลอดภัย

เดือน ส.ค.2494 “เดซิก” และ “ทซีกัน” กลายเป็นสุนัข 2 ตัวแรกที่ได้บินไปแตะวงโคจรต่ำ และสุนัขในกลุ่ม 9 ตัวก็ยังวนเวียนขึ้นลงแตะขอบอวกาศกันอีกหลายเที่ยว

กระทั่ง 3 พ.ย. 2500 “ไลก้า” ก็ได้เป็นที่รู้จักต่อชาวโลกในฐานะ “สิ่งมีชีวิต” ตัวแรกที่โคจรรอบโลก แต่สัญญาณชีพไลก้าก็หมดลงเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังทะยานออกจากชั้นบรรยากาศโลก

หลังจากให้โซเวียตแซงหน้าไปหลายช่วงตัว สหรัฐฯ หันกลับมาทดลองอีกครั้ง ด้วยการส่งลิงขึ้นไปทดลองโคจร ในปี 2501 แต่กลับมาไม่ถึงโลก จากนั้นส่งหนูเมาส์ขึ้นไปอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่ประสบความล้มเหลว

“กอร์ดอน” เป็นลิงตัวแรกของโลกที่สหรัฐฯ ส่งให้อยู่ในสภาพไร้น้ำหนักถึง 8.3 นาที จากนั้น สหรัฐฯ ก็ชิงตำแหน่งส่งสิ่งมีชีวิตตัวที่ 2 และ 3 ออกสู่วงโคจร ซึ่งเป็นลิงชื่อ “เอเบิล” และ “เบเกอร์” ในวันที่ 28 พ.ค.2502

สหรัฐฯ ยิ้มออกอีกครั้ง เมื่อนำ “แซม” ลิงวอกมาทดสอบที่นั่งและชุดอุปกรณ์สำหรับความเร่งสูง คุณและคุณนายแซมต่างปลอดภัยระหว่างการทดลองในปี 2502 และ 2503 ทั้งคู่กลายเป็นลิงที่มีชื่อเสียงในโครงการอวกาศ

สลับกลับมาที่ฝ่ายโซเวียตบ้าง ในช่วงเวลาเดียวกัน แม้จะประสบความสำเร็จกับ “ไลก้า” แล้วก็ยังคงส่งสุนัขทดลองอีกหลายรอบ โดยเฉพาะไปกับยานต้นแบบ “วอสตอก” ที่เป็นพาหนะพามนุษย์คนแรกออกสู่อวกาศ

นอกจากนี้ ยังส่งหนูและหนูตะเภา พร้อมด้วยหุ่นไม้มนุษย์ จากนั้น “ยูริ กาการิน” ถึงได้เป็นนักบินอวกาศคนแรก บินในวันที่ 12 เม.ย.2504

ต้นปี 2504 สหรัฐฯ ก็ส่ง “แฮม” ขึ้นทำสถิติเป็นชิมแปนซีตัวแรกของโลกบินในลักษณะกึ่งโคจร จากนั้นจึงตัดสินใจส่งอลัน เชฟเฟิร์ด เป็นอเมริกันชนคนแรกบนอวกาศ ตามหลังคนของโซเวียตไม่ถึงเดือน

ระหว่างที่สหรัฐฯ ยังคงส่งชิมแปนซีไปทดลองในรูปแบบต่างๆ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสก็สามารถส่ง “แมว” ขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จในวันที่ 18 ต.ค.2506

ถัดมาในปี 2511 สหภาพโซเวียตก็พาอาณาจักรสัตว์ทั้งเต่า แมลง หนอน ต้นไม้ เมล็ดพืช แบคทีเรีย และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ขึ้นไปกับยานสำรวจซูนด์ (Zond) บินวนรอบดวงจันทร์ แต่เครื่องยนต์มีปัญหาขณะกลับสู่โลกจึงทำให้ตัวอย่างบางส่วนปนเปื้อน

ส่วนสัตว์อื่นๆ ที่ได้รับตั๋วให้เดินทางสู่อวกาศมีอีกหลายชนิด อาทิ ลิงกระรอก, ปลาคิลลี่ญี่ปุ่น, หอยนางรม, จิ้งหรีด, แมงมุม, กบ, มด และตัวนิวต์

อย่างไรก็ดี เมื่อเทคโนโลยีทางด้านอวกาศของมนุษย์เริ่มพัฒนาไปไกลมากขึ้น การใช้บริการ “สัตว์” บินก่อนลดน้อยลง ทว่ากว่ามนุษยชาติจะได้ก้าวล้ำออกจากพรมแดนแห่งโลกสีน้ำเงิน จนก้าวไกลไปถึงดวงดาวต่างๆ ก็อย่าลืมนึก “ขอบคุณ” หน่วยหน้าที่ตายแทนไปแล้วหลายต่อหลายชีวิต


กำลังโหลดความคิดเห็น