คุณครูนักบินได้เปิดห้องเรียนกลางอวกาศ

เอเยนซี -แล้วความมั่งมุ่นปรารถนาของ “บาร์บารา มอร์แกน” นักบินอวกาศหัวใจคุณครู อดีตตัวสำรองในยานชาเลนเจอร์ซึ่งระเบิดกลางอากาศเมื่อ 21 ปีก่อน ก็เป็นความจริงในท้ายที่สุด เมื่อเธอได้มีโอกาสสอนหนังสือแก่เด็กนักเรียนสหรัฐฯ นับร้อยชีวิตเมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา

บาร์บารา มอร์แกน (Barbara Morgan) คุณครูวัย 55 ปี ผู้สวมหมวกนักบินอวกาศในเวลาเดียวกัน เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมสำรองในภารกิจของกระสวยอวกาศชาเลนเจอร์ (Challenger) เมื่อปี พ.ศ.2529 ซึ่งครั้งนั้นหาก “คริสตา แม็คออลิฟฟ์” (Christa McAuliffe) เพื่อนครูอีกคนไม่อาจทำหน้าที่ได้ มอร์แกนก็จะรับหน้าที่ครูสอนหนังสือบนอวกาศคนแรกแทนเธอ และประสบกับโศกนาฏกรรมยานชาเลนเจอร์ระเบิดด้วยตัวเองไปแล้ว

อย่างไรก็ดี ภารกิจในกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ (Endeavour) ที่เธอเป็นตัวจริงครั้งนี้ ได้ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ตามเวลาประเทศไทย ก็เริ่มต้นได้ไม่เลวทีเดียว กับบทเรียนแรกเรื่องสภาพไร้น้ำหนัก (Zero Gravity) เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ส.ค. โดยเธอได้ต่อกล้องจากกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์เพื่อฉายภาพลงมายังพื้นโลก แล้วเปิดห้องเรียนสอนหนังสือแก่เด็กชาวสหรัฐฯ ณ ศูนย์ดิสคัฟเวอรี มลรัฐไอดาโฮ

บทเรียนแรกของเธอใช้เวลานานราว 25 นาที ซึ่งพูดถึง “สภาพไร้น้ำหนัก” ในอวกาศ พร้อมตอบคำถามของวัยซุกซนอย่าง นักบินจะออกกำลังกายหรือดื่มน้ำได้อย่างไร หรือแม้แต่ดวงดาวจะมีหน้าตาอย่างไรเมื่อมองจากนอกโลก ซึ่งคำตอบคือ ดาวจะไม่กระพริบเพราะไม่มีชั้นบรรยากาศมาหักเหแสง แต่คำถามที่น่าจะถูกใจมอร์แกนที่สุดคือคำถามที่ว่า มีความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างการเป็นครูและนักบินอวกาศ

“ไม่ว่าจะเป็นนักบินอวกาศหรือเป็นคุณครู เราก็จะทำในสิ่งๆ เดียวกัน คือ เราสำรวจ เราค้นพบ และเราก็แบ่งปัน แต่สิ่งที่วิเศษสุดเมื่อเป็นคุณครูคือเราจะมีนักเรียนให้ร่วมแบ่งปัน ส่วนสิ่งที่พบจากการเป็นนักบิน เราจะทำสิ่งนั้นเหมือนกันแต่ทำในอวกาศ ซึ่งเป็นงานที่วิเศษมาก” มอร์แกน ตอบสบายๆ

ขณะที่เพื่อนนักบินอีก 6 ชีวิตก็สนใจร่วมสอนหนังสือกับมอร์แกนด้วย โดยพยายามหาข้าวของใกล้มืออย่างลูกซอฟต์บอลและลูกปิงปองมาประกอบการสอนในบรรยากาศที่ครึกครื้น อย่างไรก็ดี มอร์แกน ได้กล่าวไว้อาลัยแก่ คริสตา และลูกเรือชาเลนเจอร์อีก 6 ชีวิตที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อ 21 ปีก่อนด้วย

“ฉันคิดถึงคริสตาและลูกเรือชาเลนเจอร์คนอื่นๆ ทุกวัน ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งฉันก็อยากให้พวกเขารับรู้ว่า พวกเรายังคงเก็บพวกเขาไว้ในใจของพวกเราเสมอ” มอร์แกน กล่าวในที่สุด