ย้ำอีกทีว่า "โลกร้อน"

หากกระแส "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" ที่ภาวะ "โลกร้อน" กลายเป็นที่กล่าวขานไปทั่วเมืองยังไม่ทำให้คุณรู้สะดุ้ง-สะเทือน นิทรรศการในมหกรรมวิทย์ของ "ก.วิทย์-ก.ทรัพฯ" จะผนึกกำลังให้คุณได้ตระหนักถึงอุณหภูมิระอุที่พุ่งสูงขึ้นทุกขณะ

ควันโขมงสื่อถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก ตามด้วยไอร้อนที่วูบเข้ามาปะทะปลายประสาท และมวลน้ำเอ่อท่วมผู้ชมในโรงภาพยนต์ 4 มิติ คือสถานการณ์จำลองที่จะบอกให้ทุกคนได้รับรู้ถึงปัญหาภาวะ "โลกร้อน" และผลกระทบที่จะตามมา เป็นนิทรรศการที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชูให้เป็น "ไฮไลท์" ของงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2550 เนื่องใน "สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ" ซึ่งเปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 8-19 ส.ค.นี้ ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

หากคุณยังจำได้ถึงบรรยากาศในนิทรรศการภัยพิบัติของงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้คุณเปียกปอนจากน้ำฝนอันนำไปสู่อุทกภัย นิทรรศการครั้งใหม่ก็รังสรรค์ความเปียกปอนกลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้สิ่งที่ทุกคนต้องทำก่อนเข้าชมภาพยนต์ความยาว 5 นาทีคือ "เปลี่ยนรองเท้า" เพื่อเตรียมสัมผัสกับปริมาณน้ำมหาศาลที่จะไหลมาท่วมข้อเท้า

หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าการกินของเรานั้นเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนได้อย่างไร นิทรรศการหน้าโลกภาพยนตร์จะชี้ให้เห็นถึงต้นเหตุผ่าน "วัวกระป๋องผายลม" ที่ปล่อยทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนอันเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวฉกาจ

แค่อยากกินแฮมเบอร์เกอร์สักอัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่านายทุนต้องบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นการลดพื้นที่ดูดซับก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาล เพื่อเลี้ยงปศุสัตว์สำหรับรองรับการบริโภคของเรา ส่วนปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจนที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม จะทำให้เกิดก๊าซไนตรัสออกไซด์ซึ่งเป็นตัวการเพิ่มโลกร้อนอีกปัจจัย การบริโภคที่มากขึ้นจึงทำให้เกิดการผลิตที่มากขึ้นและทำให้คาร์บอนหลุดสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น

ฟังเรื่องเครียดๆ แล้วปวดหัว หลายคนก็อาจจะหาทางออก ด้วยการนอนอยู่บ้านเปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วดูซีรีส์เกาหลีเพื่อผ่อนคลาย แต่กลับกลายเป็นวิธีที่ทำร้ายโลกมากขึ้น เพราะพลังงานหลักของประเทศมาจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ

แต่ถ้าคิดจะหนีปัญหาด้วยการขับรถตะลอนทั่วเมือง ก็เป็นวิธีคิดที่ผิดเต็มประตู เพราะการเผาไหม้ของน้ำมันทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเต็มท้องถนน

การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ และการขุดเจาะน้ำมันก็ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเช่นกัน โดยขณะขุดเจาะน้ำมันนั้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนต่างๆ ก็หลุดสู่ชั้นบรรยากาศได้ นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังเกิดจากสาเหตุโดยธรรมชาติได้ อาทิ การระเบิดของภูเขาไฟซึ่งปลดปล่อยก๊าซและฝุ่นควันจำนวนมาก อย่างไรก็ดีสาเหตุมากมายนั้นล้วนมีคนเราเป็นต้นเหตุหลัก

ถัดจากนิทรรศการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นนิทรรศการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งร่วมแจงปัญหาโลกร้อนอีกแรง โดยยกเอาข้อสรุปของนักวิทยาศาสตร์ในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (IPCC) มาแปะบอร์ดบอกให้ทุกคนได้ทราบถึงตัวการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 31% มาจากอาคารสำนักงาน 22% มาจากการขนส่งทางบก-ทางอากาศและภาคเกษตรกรรม 4% และยกน้ำแข็งก้อนโตมาให้เห็นกับตาว่าโลกร้อนจนน้ำแข็งละลายจริงๆ

จะลดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร ทั้ง 2 กระทรวงชี้นำว่าให้ลดพฤติกรรมอันเป็นต้นตอของปัญหา อีกตัวอย่างที่กระทรวงทรัพยากรฯ ยกมาบอกคือการสร้างบ้านประหยัดพลังงานที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้ 40-50% โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบบ้านจนถึงการเลือกใช้วัสดุ อาทิ ใช้กระจกที่ให้แสงผ่านเข้าบ้านได้มากแต่ความร้อนเข้าได้น้อยเพื่อลดพลังงานผลิตแสงสว่างและพลังงานลดความร้อน เรื่องใช้เฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุตกแต่งบ้านที่ไม่สะสมความร้อนเพื่อลดพลังงานในช่วงเริ่มต้นขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

เหล่านี้เป็นนิทรรศการที่หน่วยงานรัฐพยายามตอกย้ำให้เห็นถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความร้อนระอุสูงขึ้นทุกขณะ แต่กระแสน้ำในนิทรรศการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และความรู้บนบอร์ดของกระทรวงทรัพยากรฯ จะชักพาความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน

ติดตามความรู้ในนิทรรศการเหล่านี้ได้ตั้งแต่ 8.00-20.00 น. ระหว่างวันที่ 8-19 ส.ค. ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ปีนี้ โดยสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีอ่อนนุช ซึ่งจะมีรถรับ-ส่งสีชมพูที่ติดป้ายงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ นำเข้าชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทุกๆ 30 นาที ตั้งแต่ 7.30-18.00 น.