xs
xsm
sm
md
lg

เปิดไอเดียเด็กรุ่นใหม่ แปลงน้ำมันพืชใช้แล้ว เป็น“สารกำจัดคราบอเนกประสงค์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นาทีนี้ ใครเผลอคิดว่าจะมีแต่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมละก็คิดผิดแน่ๆ เพราะเด็กรุ่นใหม่ก็มีแนวคิดนี้ได้เหมือนกัน แถมยังทำให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ด้วย เช่นในโครงงานวิทยาศาสตร์ของเด็กๆ กลุ่มหนึ่ง ที่คิดเปลี่ยนน้ำมันพืชใช้แล้วให้เป็นสารกำจัดคราบอเนกประสงค์ได้ในบัดดล

ด.ช.อาสา กล่อมจิตร์ ด.ญ.นวลเนตร แก้วชมพู และ ด.ญ.กนกวรรณ ชะมินชัย นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนศรัทธาสมุทร จ.สมุทรสงคราม เจ้าของผลงาน “สารกำจัดคราบอเนกประสงค์” 1 ในโครงงานวิทยาศาสตร์ของมือน้อยๆ จากทั่วประเทศที่นำมาประชันกันในมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ณ ไบเทค กรุงเทพฯ เล่าว่า แรงบันดาลใจที่เริ่มทำโครงงานนี้ก็เพราะความห่วงใยในสิ่งแวดล้อมนั่นเอง

ใกล้ๆ บ้านผมที่ จ.สมุทรสงคราม จะมีร้านค้าขายอาหารตามสั่งและของทอดอยู่ แต่ละวันจะมีน้ำมันพืชใช้แล้วเหลือจากการทำอาหารมาก บ้างก็เททิ้งลงแม่น้ำลำคลองทำให้น้ำเน่าเสีย ขณะที่บางคนก็เททิ้งลงดินเป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมได้เหมือนกัน ทำให้ผมคิดว่าถ้าเราใช้ประโยชน์จากมันได้ ก็จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ทางหนึ่ง” ด.ช.อาสา เล่า

กรรมวิธีทำสารกำจัดคราบอเนกประสงค์ของเด็กๆ กลุ่มนี้คือ การนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาทำความสะอาดด้วยการกรองด้วยผ้าขาวบาง นำไปต้มกับน้ำในอัตราส่วน 4: 1 โดยหั่นใช้หัวไช้เท้าและมันสำปะหลังผสมลงไปเล็กน้อย ทิ้งข้ามคืนก่อนใช้ถ่านดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกและกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นจึงนำน้ำมันพืชใช้แล้วที่ได้ไปผสมกับสารโปแทสเซียมไฮดรอกไซด์ หรือ “ด่างคลี” ซึ่งเป็นสารที่ใช้ทำสบู่เหลวในภาคอุตสาหกรรม มาผสมในอัตรา 1: 1 แล้วตุ๋นแบบไม่สัมผัสความร้อนโดยตรงในหม้อตุ๋น 2 ชั้นที่มีน้ำต้มอยู่เป็นเวลา 5 ชั่วโมงก็จะทำให้ได้สารคล้ายสบู่เหลวออกมา

ต่อมาพวกผมก็ใช้สารที่เป็นกรดอ่อนๆ มาผสม โดยทดลองใช้สาร 3 ชนิดคือ ยาแอสไพรินซึ่งผมอ่านเจอในหนังสือว่ามีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ น้ำมะนาว และน้ำมะกรูด” ด.ช.อาสา เล่าต่อ ซึ่งผลปรากฏว่าสารกำจัดคราบที่ผสมแอสไพรินในอัตราส่วน 4 เม็ดต่อสารกำจัดคราบ 50 ลบ.ซม.จะมีประสิทธิภาพกำจัดสิ่งสกปรกสูงสุด คือทั้งคราบเลือด น้ำมัน สีผสมอาหาร รอยปากกา คราบฝุ่น และคราบแกง

ขณะเดียวกัน นักวิจัยรุ่นจิ๋วเหล่านี้ยังได้ผสมกลีเซอรีนลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความลื่นให้แก่สารกำจัดคราบ รวมถึงแต่งกลิ่นหอมของดอกลิลลีลงไปให้น่าใช้มากขึ้นด้วย โดยมีต้นทุนการผลิตเพียง 500 บาทก็ทำให้ได้สารกำจัดคราบอเนกประสงค์จำนวนหลายลิตรทีเดียว

เราได้เทียบประสิทธิภาพการกำจัดคราบและต้นทุนผลิตแล้ว โดยสุ่มตัวอย่างครู นักเรียน และคนทั่วไป 100 คนพบว่าสารนี้จะมีประสิทธิภาพพอๆ กับสบู่เหลวล้างมือในท้องตลาด คือล้างคราบสกปรกได้ดี และไม่ทิ้งสารตกค้างบนผิวหนัง ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นผงซักฟอกกำจัดคราาบเลือดหรือคราบแกงบนเสื้อผ้าได้ดี หรือแม้แต่ใช้ทดแทนน้ำยาล้างจานกลิ่นมะนาวในท้องตลาดได้ด้วย” ด.ช.อาสา แจกแจง

ส่วนความน่าจะเป็นในการนำไปใช้งานต่อไป สมาชิกในกลุ่มบอกว่า ตอนนี้มีอาจารย์หลายคนในโรงเรียนแนะนำว่าน่าจะทำมาใช้ในโรงเรียนได้ เช่น ใช้ล้างจาน หรือใช้แทนน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีราคาแพง คิดว่าน่าจะทำได้ดี เป็นการนำของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาใช้ให้เกิดคุณค่าได้ แถมยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี



อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมวิทย์ฯ เพิ่มเติม

- 3 ม.ตั้งสถานีตรวจนิวตรอนสิรินธร วัดรังสีคอสมิกเตือนภัยล่วงหน้า
- นาซาชวนคนไทยรู้จักปีสุริยะฟิสิกส์
- เปิดตัวนิทานดาวเวอร์ชันใหม่ “ดวงอาทิตย์ที่รัก”
- ตะลุยป่าฝนจำลอง "ฮาลา-บาลา" พบไม้เถามหัศจรรย์ที่เดียวในโลก
- หยุดยาววันแรกมหกรรมวิทย์คนบางตา-ตจว.พ้ออย่ารวมศูนย์แต่ กทม.
- "หุ่นยนต์ต้อนรับ" ฝีมือคนไทย
- สมเด็จพระเทพเสด็จฯ เปิดมหกรรมวิทย์ ทรงแนะใช้วิทยาศาสตร์แก้วิกฤติโลก
- "มูราตะ" และกองทัพหุ่นยนต์ญี่ปุ่นถึงสัปดาห์วิทย์แล้ว
- นำเที่ยว "มหกรรมวิทย์ 50"
- “มหกรรมวิทย์ 50” เปิดประตูเข้าชมงานแล้ว
- ชวนชมหุ่นยนต์ปั่นจักรยานในงานสัปดาห์วิทย์ 50
- สมาคมวิทย์ฯ จัดเวทีหาเด็กเก่งวิทย์เขตภาคกลางในสัปดาห์วิทย์ปี 50
- สัปดาห์วิทย์ปี 50 ชู “โลกร้อน” ผ่านโรงหนัง “4 มิติ”
- ชวนน้องๆ "จิตรลดา" เล่น "ว่าวไทย" ชิมลางสัปดาห์วิทย์ 50


กำลังโหลดความคิดเห็น