บีบีซีนิวส์/เนเจอร์ – “แบบจำลองสภาพอากาศอีก 10 ปีข้างหน้า” ฝีมือนักวิจัยเมืองผู้ดีพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ทำนายส่ภาพอากาศโลกในอนาคตอันใกล้ ใช้มหาสมุทรและบรรยากาศเป็นพื้นฐานการทำนาย หวังช่วยให้มนุษย์รับมือกับปัญหาโลกร้อนที่ตัวเองเป็นผู้ก่อได้ทันท่วงที
ภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศแปรปรวน กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ และมนุษย์เท่านั้นที่จะแก้ไขได้ ซึ่งหลายฝ่ายก็ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่ตามมา โดยล่าสุดกลุ่มนักวิจัยในอังกฤษได้พัฒนาแบบจำลองภูมิอากาศที่ใช้ทำนายสภาพอากาศของโลกในอีก 10 ปีข้างหน้าได้โดยอาศัยสภาวะของมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศในปัจจุบันทำนายแนวโน้มและผลกระทบในอนาคต
ดุก สมิธ (Doug Smith) ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจากศูนย์ฮัดเลย์ (Hadley Center) ของเมทออฟฟิศ (Met Office) ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า แบบจำลองสภาพภูมิอากาศที่ใช้กันทั่วไปมักมีข้อมูลเพียงแค่ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ก้อนเมฆ ฝนตก และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยปราศจากข้อมูลของมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศ
“แบบจำลองที่พัฒนาขึ้นมานั้นเรียกว่า “ดีพรีซิส” (Decadal Climate Prediction System: DePreSys) สำหรับทำนายการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์เตรียมการป้องกันหรือพร้อมรับมือกับปัญหาได้ทันเวลา แทนที่จะทำนายล่วงหน้าเป็นร้อยปี” สมิธ ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการพัฒนาแบบจำลอง กล่าว
ดีพรีซิส ใช้หลักการเดียวกับแบบจำลองที่มีอยู่ก่อน เพียงแต่เพิ่มข้อมูลของมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศที่ได้จากการสังเกตด้วยดาวเทียมเข้าไปด้วย เช่น ปรากฏการณ์เอล นีโญ (El Niño) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นควันที่เกิดจากภูเขาไฟ การเผาไม้ของเชื้อเพลิง และกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก และช่วยให้ทำนายผลกระทบที่จะเกิดได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นจากข้อมูลที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน
ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้ทดลองใช้ดีพรีซิสทำนายการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาแล้วในช่วงปี 2525-2544 โดยใช้เพียงข้อมูลสภาพอากาศของปีแรกๆ และการเปลี่ยนแปลงของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ พบว่าให้ผลถูกต้องตรงกับที่เกิดขึ้นจริงและแม่นยำกว่าแบบจำลองอื่นๆถึง 50% และได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าในปี 2557 อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะสูงขึ้นจากปี 2547 ราว 0.3 องศาเซลเซียส ขณะที่คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ได้ทำนายไว้ว่าปลายศตวรรษนี้โลกจะร้อนขึ้น 1.8-4.0 องศาเซลเซียส
“กิจกรรมของมนุษย์และกระแสน้ำทะเลมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากพอๆกัน การเก็บข้อมูลของธรรมชาติอย่างต่อเนื่องช่วยให้นักภูมิอากาศเข้าใจและคาดการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำมากขึ้น และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชากรโลกได้อย่างครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจดำเนินการต่อไป” สมิธ กล่าว
