xs
xsm
sm
md
lg

ภาพรวม "โอลิมปิกวิชาการ" จีนแชมป์ 11 ทอง ส่วนไทยติดท็อปเท็นเคมี-ชีวะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การมอบเหรียญทองในการแข่งขันเคมีโอลิมปิกประจำปี 2550 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ โดยเวทีนี้จีนคว้าไปได้ 4 เหรียญทองและการแข่งขัน 3 วิชาได้ทั้งหมด 11 เหรียญทอง ขณะที่ยังมีการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกและคอมพิวเตอร์โอลิมปิกรอคอยให้นับเหรียญรางวัลกันอีก
แม้ยังไม่จบฤดูกาลแต่เด็กวิทย์จากจีนแผ่นดินใหญ่ก็คว้ารางวัล 11 เหรียญทองในการแข่งขัน "โอลิมปิกวิชาการ" ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ส่วนเด็กไทยก็โกยกันไป 4 ทอง ขณะที่คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ยังต้องลุ้นกันต่อไป

ช่วงนี้หลายคนอาจจะ "เป็นปลื้ม" กับเด็กไทยที่ไปคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการกันในหลายสาขาวิชา แต่การแข่งขันทางด้านความรู้-ความสามารถเฉพาะทางที่ไม่มีการถ่ายทอดสดให้แฟนๆ ได้ร่วมเชียร์นี้ จึงทำให้หลายคนนึกภาพไม่ค่อยออกว่าหน้าตาของสนามแข่งขันจะเป็นอย่างไร

"ผู้จัดการวิทยาศาสตร์" จึงขันอาสาเผยบางแง่มุมของการแข่งขันที่คุณไม่เคยรู้

หลังจากฤดูกาลฟิสิกส์โอลิมปิกวิชาการได้เริ่มต้นเมื่อกลางเดือน ก.ค. ขณะนี้ก็มีการแข่งขันที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 3 เวทีคือ ฟิสิกส์โอลิมปิก ชีววิทยาโอลิมปิกและเคมีโอลิมปิก ขณะที่การแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกกำลังขับเคี่ยวกันอยู่ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะทราบผลผู้ได้รับเหรียญรางวัลกันปลายเดือนนี้ และต้องรอลุ้นผลคอมพิวเตอร์โอลิมปิกกันอีกในวันที่ 22 ส.ค. เป็นเวทีสุดท้าย

เราทราบกันดีแล้วว่า เด็กไทยได้รับเหรียญกลับบ้านกันทั้งหมดเท่าไหร่ และต่อไปนี้เป็นผลการแข่งขันใน 10 อันดับแรกจาก 3 สาขาวิชา

ผลการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิก 10 อันดับแรก

 ทอง เงิน ทองแดง
จีน 3 1 -
รัสเซีย 3 1 -
สหรัฐอเมริกา 2 3 -
ญี่ปุ่น 2 2 1
อิหร่าน 2 2 1
เกาหลี 2 2 -
เวียดนาม 2 2 -
อินเดีย 2 2 -
สาธารณรัฐเช็ค 2 1 2
ยูเครน 2 - 3


สำหรับไทยนั้นได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทอง (ดูผลการแข่งขันทั้งหมดได้ที่ http://www.ipho2007.ir/Results/Gold.pdf, http://www.ipho2007.ir/Results/Silver.pdf, http://www.ipho2007.ir/Results/Bronze.pdf )

ผลการแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิก 10 อันดับแรก
 ทอง เงิน ทองแดง
สหรัฐอเมริกา 4 - -
จีน 4 - -
เกาหลี 3 1 -
ไทย 2 2 -
สหราชอาณาจักร 2 1 1
ไต้หวัน 2 - 2
อินเดีย 1 3 -
อินโดนีเซีย 1 1 1
สิงคโปร์ - 4 -
ตุรกี - 4 -


(ดูผลการแข่งขันทั้งหมดได้ที่ http://ibo2007.usask.ca/results.html)

ผลการแข่งขันเคมีโอลิมปิก 10 อันดับแรก
 ทอง เงิน ทองแดง
จีน 4 - -
รัสเซีย 4 - -
โปแลนด์ 3 1 -
เกาหลี 3 1 -
ไต้หวัน 2 2 -
เยอรมนี 2 1 1
อินเดีย 2 1 -
ลิทัวเนีย 2 1 -
ไทย 1 2 1
ฮังการี 1 2 1


(ดูผลการแข่งขันทั้งหมดได้ที่ http://www.icho39.chem.msu.ru/downloads/Olympiad_results.pdf)

ถ้าเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคุณทราบแน่ว่าเขาให้เหรียญรางวัลกันอย่างไร แม้ว่าจะไม่คุ้นเคยกับกีฬาบางเภท ไม่ทราบกฎกติกา แต่ก็ทราบล่ะว่าสุดยอดทีมหรือนักกีฬาที่ชิงชัยได้เป็นอันดับ 1, 2 และ 3 จะได้รับเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงตามลำดับ

หากแต่การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเหรียญรางวัลจะถูกแบ่งให้กับผู้เข้าแข่งขันโดยคิดตามคะแนนแบบอิงกลุ่ม คิดง่ายๆ ก็คล้ายกับการ "ตัดเกรด" แบบอิงกลุ่มในชั้นเรียน และแต่ละสาขาวิชาก็จะมีเกณฑ์ในการให้รางวัลที่มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกัน โดยมีเกณฑ์กว้างๆ ที่เหมือนกันคือจำนวนผู้ได้รับเหรียญรางวัลทั้งหมดจะต้องไม่เกิน 50% ของผู้เข้าแข่งขัน

เจนวิทย์ วงศ์บุญสิน นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่เพิ่งไปคว้าเหรียญทองชีววิทยาโอลิมปิกด้วยคะแนนอันดับ 1 ในการแข่งขันที่ประเทศแคนาดา เปิดเผยว่าการให้เหรียญทองนั้นขึ้นอยู่ที่กรรมการว่าจะกำหนดผู้รับรางวัลไว้กี่คน สำหรับปีนี้กรรมการกำหนดไว้ 20 คน และเหรียญเงินก็ให้กับผู้ทำคะแนนได้ 40 อันดับถัดไป ส่วนเหรียญทองแดงก็ให้กับ 60 อันดับถัดไป

"กรรมการจะนำคะแนนดิบของแต่ละส่วนมาคิดน้ำหนัก (ทางสถิติ) ให้เท่ากัน แล้วคิดออกมาเป็นทีสกอร์(T Score) จากนั้นก็เรียงลำดับคะแนน" เจนวิทย์กล่าวถึงกระบวนการคิดคะแนนของกรรมการก่อนมอบเหรียญรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขัน

เหตุผลที่กรรมการต้องให้น้ำหนักคะแนนเพราะมีกรรมการหลายคนที่ค่อยให้คะแนน เช่นเดียวกับการแข่งขัน "ระบำใต้น้ำ" คะแนนที่สูงสุดและต่ำสุดจะถูกตัดออก แล้วนำคะแนนส่วนที่เหลือมาคิดคะแนนที่ผู้เข้าแข่งขันสมควรจะได้รับ

แม้เด็กไทยจะยังไม่เป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ แต่การคว้ารางวัลกลับมาบ้านก็ดูจะทำให้บรรยากาศทางวิชาการของไทยดูคึกคักขึ้นบ้าง และอย่างน้อยเวทีแข่งขันทางสมองนี้ก็ทำให้ใครหลายๆ คนได้ทราบว่า "วิทยาศาสตร์คือคำตอบ" สำหรับอนาคตพวกเขา
บรรยากาศการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกประจำปี 2550 ซึ่งอิหร่านเป็นจ้าภาพ
การสอบภาคปฏิบัติในการแข่งขันเคมีโอลิมปิกปีนี้ ซึ่งอาการของผู้เข้าแข่งขันก็เป็นตัววัดความยากของข้อสอบได้เป็นอย่างดี




กำลังโหลดความคิดเห็น