xs
xsm
sm
md
lg

หมอศิริราชพบ “โปรตีนยับยั้งนิ่วในไต” รับพระราชทานรางวัลมหิดล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มหิดล” ประกาศรางวัลบุคคลดีเด่นปี 49 เข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จพระเทพฯ ได้แก่ แพทย์ศิริราชผู้ค้นพบโปรตีนในฉี่ยังยั้งนิ่วรับรางวัลดีเด่นสาขาการวิจัย ส่วนทันตแพทย์มหิดลได้รางวัลสาขาสิ่งประดิษฐ์ จากผลงานพัฒนาโปรแกรมช่วยจัดฟันฝีมือคนไทย ราคาถูก

ถือได้ว่าเป็นประเพณีประจำปี สำหรับการประกาศผลรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล โดยการประกาศรางวัลปีที่ 32 ประจำปี 2549 จัดขึ้นวันที่ 3 ก.ค. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถ.พระราม 6 กทม. มอบให้แก่บุคลากรของมหาวิทยาลัยใน 5 สาขา คือ สาขาการวิจัย สาขาการประดิษฐ์ สาขาการแต่งตำรา สาขาความเป็นครู และสาขาการบริการ จำนวน 6 คนด้วยกัน

รางวัลสาขาการวิจัย ผู้ได้รางวัลคือ นพ.วิศิษฏ์ ทองบุญเกิด สถานส่งเสริมการวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากผลงานวิจัยเรื่อง การค้นพบโปรตีน “เทร –ฟอยล์ –แฟคเตอร์ -วัน” ในปัสสาวะของคนปกติซึ่งสามารถยับยั้งการโตของผลึกแคลเซียมออกซาเลทที่เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดก้อนนิ่วในไต
 
เจ้าของผลงานเผยว่า เป็นการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ทางด้านโปรตีโอมิกส์ ผสมผสานกับกระบวนทางชีวเคมีแบบดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน ซึ่งในปีที่ผ่านมา นพ.วิสิษฏ์ ยังได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ประจำปี 2549 ของมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย

สาขาการประดิษฐ์ ผู้ได้รับประกาศรางวัลคือ รศ.ทพ.สุรชัย เดชคุณากร รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะทันตแพทยศาสตร์ และทีมวิจัยแห่งภาควิชาทันตกรรมการจัดฟัน จากผลงานการประดิษฐ์ “CephSmile โปรแกรมช่วยในการจัดฟัน” ซึ่งเป็นการพัฒนาโปรแกรมช่วยการจัดฟันฝีมือคนไทยร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เพื่อทดแทนการนำเข้า โดยมีราคาถูกกว่าการนำเข้าถึง 5 เท่า และมีคุณสมบัติที่ดีกว่าการนำเข้าจากต่างชาติในอีกหลายด้าน

เรายังได้ออกแบบโปรแกรมช่วยจัดฟันให้มีความเหมาะสมกับสรีระของโครงสร้างกะโหลกศีรษะของคนไทย พร้อมยังสามารถจำลองภาพการเปลี่ยนแปลงใบหน้าผู้ป่วยหลังการรักษาเปรียบเทียบกับก่อนการรักษาได้ด้วย” รศ.ทพ.สุรชัย กล่าว

สาขาการแต่งตำรา ผู้ได้รับรางวัล มี 2 คน คือ รศ.พญ.ละอองศรี อัชชนียะสกุล ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากการแต่งตำรา “จักษุพันธุศาสตร์” ซึ่งมีประโยชน์ต่อวงการจักษุแพทย์ไทย มีเนื้อหาประกอบด้วยโรคหรือกลุ่มอาการที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งความผิดปกติทางตาเป็นอาการเด่น
 
อาทิ โรคตาบอดในเด็กที่เป็นต้อกระจกแต่กำเนิด โรคตาเหล่ในเด็กที่มากกว่าครึ่งหนึ่งจะตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่แรกเกิดหรือภายในอายุ 6 เดือน โดยการรวบรวมประสบการณ์ของผู้แต่ง ซึ่งยังได้สรุปความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้องในแต่ละโรคไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการรักษา และสามารถนำมาใช้ให้ความรู้อธิบายแก่ผู้ป่วยและญาติได้

ผู้ได้รับรางวัลอีกรายในสาขาการแต่งตำราคือ รศ.นพ.สุทิน ศรีอัษฎาพร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เจ้าของผลงาน “โรคเบาหวาน” ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเกิดจากความร่วมมือของบุคลากรในสหสาขาวิชาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นตำราเฉพาะโรคที่ครอบคลุมทั้งความรู้พื้นฐานและความรู้สมัยใหม่เกี่ยวกับโรคเบาหวาน จึงใช้เป็นแหล่งอ้างอิงค้นคว้าของนักศึกษาแพทย์และแพทย์ให้ประยุกต์ใช้บำบัดรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้เป็นอย่างดี

สาขาความเป็นครู ผู้ได้รับประกาศรางวัลคือ รศ.พญ.พรพิมล พัวประดิษฐ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายการศึกษา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี หนึ่งในผู้ริเริ่มโครงการปลูกถ่ายตับในเด็ก ผู้ริเริ่มโครงการศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหารในเด็ก และมีส่วนพัฒนางานด้านการบริการผู้ป่วยให้ทัดเทียมนานาประเทศ
 
นอกจากนี้ยังเป็นประธานอนุกรรมการประเมินผลการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต และเป็นบุคคลสำคัญในการปรับปรุงหลักสูตรในระดับปรีคลินิกของนักศึกษาแพทย์ให้เป็นแบบผสมผสานโดยอ้างอิงกับปัญญาจริงของผู้ป่วย ซึ่งนักศึกษาแพทย์จะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่การซักประวัติผู้ป่วย การตรวจร่างกาย การวินิจฉัย และการรักษาโรค ฯลฯ

รู้สึกภูมิใจที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่ายังมีผู้เห็นคุณค่าในสิ่งที่ได้ทำมา โดยส่วนตัวแล้วอยากฝากให้ผู้ที่เป็นแพทย์ซึ่งบางท่านก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีงานสอนนักศึกษาแพทย์ด้วย ได้แนะนำให้นักศึกษาแพทย์ได้รู้จักค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตัวเองมากๆ เพราะความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็อยากให้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสกับคนไข้มากๆ ซึ่งเมื่อเขาได้เรียนรู้ทฤษฎีและภาคปฏิบัติไปพร้อมๆ กันแล้วก็จะได้รับประสบการณ์และจดจำบทเรียนไปได้เอง” รศ.พญ.พรพิมล

ขณะที่รางวัลในสาขาสุดท้ายซึ่งเปรียบได้กับแม่บ้านของมหาวิทยาลัยมหิดลคือ สาขาการบริการ ผู้ได้รับประกาศผลรางวัลคือ ผศ.บัวรอง ลิ่วเฉลิมวงศ์ รองคณบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ กิจกรรมพิเศษ และวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จากผลงานผู้มีบทบาทสำคัญในการบริการในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการริเริ่มจัดงานเปิดบ้านวิทยาศาสตร์ขึ้นเป็นครั้งแรกของคณะ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนที่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ได้เติบโตเป็นกำลังสมองของประเทศ

ด้าน ศ.เกียรติคุณ พรชัย มาตังคสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ประธานการประกาศผลรางวัล กล่าวว่า การประกาศผลรางวัลครั้งนี้ถือเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยผู้มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนามหาวิทยาลัย โดยการเสนอชื่อกันเองในมหาวิทยาลัยแล้วผ่านการกลั่นกรองของกรรมการอย่างถี่ถ้วน ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ได้รับการประกาศรางวัลปีนี้โดยมากเป็นคนรุ่นใหม่ของมหาวิทยาลัย รางวัลที่ได้จะเป็นกำลังใจให้เกิดการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นต่อไป

ผมขอแสดงความยินดีให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นความสามารถของแต่ละบุคคล ของทีมงาน กระทั่งการทำงานเป็นเครือข่าย แสดงให้เห็นว่าคนไทยทำงานเป็นกลุ่มได้ดี อย่างไรก็ดีก็อยากฝากให้ผู้ได้รับรางวัลได้ตระหนักเสมอว่ารางวัลไม่ควรเป็นเป้าหมายของการทำงานแต่อยากให้คิดว่าเป็นผลพลอยได้จากการทำงานมากกว่า” ศ.เกียรติคุณ พรชัย ทิ้งท้าย

สำหรับผู้ได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดลทั้ง 6 จะได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลและเงินรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะตัวแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล ในวันที่ 5 ก.ค. ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร



รศ.พญ.ละอองศรี จากการแต่งตำรา “จักษุพันธุศาสตร์”
สาขาความเป็นครู ผู้ได้รับประกาศรางวัลคือ รศ.พญ.พรพิมล


กำลังโหลดความคิดเห็น