xs
xsm
sm
md
lg

จุฬารำลึก "100 ปี อ.แถบ" เรียบง่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานรำลึก 100 ปีครบรอบวันคล้ายวันเกิด ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ ปรมาจารย์วิชาเคมีไทย
จุฬาฉลอง "100 ปี อ.แถบ" ปรมาจารย์เคมีไทยเรียบง่าย จัดบรรยายพิเศษและโปสเตอร์นิทรรศการไม่เอิกเกริก ด้าน "ดร.ยงยุทธ" ศิษย์รุ่นหลานเผยภูมิปัญญาไทยเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์และมีพุทธศาสนาเสริมความมีเหตุผล

มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนิธิ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงานฉลอง "100 ปีวันคล้ายวันเกิดปรมาจารย์วิชาเคมีไทย ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ” ณ ห้องประชุม อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 1 ก.ค.นี้

ภายในงานประกอบด้วยการปาฐกถา ของ ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในหัวข้อ “บทบาทนักวิทยาศาสตร์และนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย” และ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา ผบช.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปาฐกถาในหัวข้อ “บทบาทนักวิทยาศาสตร์ด้านความยุติธรรมและความมั่นคงของประเทศ” พร้อมทั้งจัดนิทรรศการและโปสเตอร์แสดงผลงาน ศ.ดร.แถบ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย

ศ.ดร.ยงยุทธ บรรยายว่า นับจากยุคก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน ภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยก็สามารถจัดเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์เช่นกัน เนื่องจากมีการใช้หลักเหตุผลและปัญญามาประกอบการพิจารณาเป็นหลัก ยิ่งประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นส่วนสำคัญของสังคมด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น

ส่วนวิทยาศาสตร์สมัยใหม่นั้นเริ่มเข้ามาในไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก โดยเมื่อเปรียบเทียบวิทยาการทั้ง 2 เข้าด้วยกันแล้ว จะเห็นได้ว่าวิทยาศาสตร์ดั้งเดิมของไทยและวิทยาศาสตร์ชาติตะวันตกจะยืนอยู่บนหลักการคล้ายคลึงกัน แต่หากจะต่างกันก็เพียงการตีความกันไปคนละอย่างเท่านั้น อาทิ ศาสตร์เกี่ยวกับดวงดาวที่ชาวตะวันตกจะมุ่งเน้นไปทางดาราศาสตร์เป็นหลัก ขณะที่คนไทยยังมีศาสตร์ด้านโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ควบคู่กันไปด้วย

อย่างไรก็ดี แนวทางการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยในปัจจุบัน รัฐบาลได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติ พร้อมๆ กับนำวิทยาศาสตร์มาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ มาตรการการผลักดันการพัฒนาวิทยาศาสตร์ไทยลงในร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 การจัดทำแผนโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา การร่าง พ.ร.บ.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ เนื่องจากเห็นว่าในอนาคต ระบบเศรษฐกิจประเทศไทยจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความรู้และนวัตกรรมเป็นกลจักรสำคัญ

ด้าน พล.ต.ท.อัมพร กล่าวว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์สามารถนำมาช่วยงานด้านการสืบสวนสอบสวนได้มาก โดยเฉพาะงานยุติธรรมและงานความมั่นคงของประเทศ อาทิ การเกิดขึ้นของนิติวิทยาศาสตร์ และการรักษาความสงบในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งใช้ดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ส่วนบุคคลได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ดี บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญดังกล่าวยังมีน้อยเกินไปและไทยยังมีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีที่ยังต้องพัฒนาอีกมาก เพื่อให้ทันต่อผู้กระทำความผิดที่มีความเฉลียวฉลาดมากขึ้น

ภายหลังการปาฐกถา ได้มีพิธีมอบรางวัลบุคคลดีเด่นด้านวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2550 ของมูลนิธิ ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ แก่ รศ.ดร.กำจัด มงคลกุล อดีตคณบดี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และ อดีตนายสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยฯ ผู้ผลักดันให้ทุกวันที่ 18 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เป็นพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย

ส่วนรางวัลองค์กรดีเด่นด้านส่งเสริมวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2550 ให้แก่ บ.ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีผลงานสนับสนุนงานวิจัยของคนไทยเพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ สนับสนุนการประกวดสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนรุ่นใหม่ สนับสนุนการคิดค้นด้านพลังงานทดแทน และส่งเสริมการศึกษาแบบอี-เลิร์นนิ่ง ฯลฯ โดยมี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานในงานเป็นผู้มอบรางวัล

การจัดงานรำลึกถึง ศ.ดร.แถบ ซึ่งจัดมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 40 นี้ยังได้มีพิธีมอบรางวัลยอดเยี่ยมและทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบันรวมทั้งสิ้น 343 คน รวมทั้งนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งสภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท.) ได้ร่วมให้รางวัลเป็นโล่เกียรติยศด้วย

จากนั้นยังมีพิธีเปิดป้ายห้องประชุม “100 ปี ศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนิธิ” ณ ชั้น 11 อาคารมหามกุฏ และชมห้อง “Hall of Fame” ณ ชั้น 3 อาคารเดียวกัน และเพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานวิจัยของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และยังมีการจัดแสดงนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำเสนอโปสเตอร์งานวิจัยในหลายสาขาให้ผู้สนใจได้เข้าชม อาทิ ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา เทคโนโลยีทางภาพถ่าย และอัญมณี ณ ศาลาพระเกี้ยว และอาคารมหามกุฏ

ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวรำลึกถึง ศ.ดร.แถบ ว่า ศ.ดร.แถบ ถือเป็นปูชนียะบุคคลของวงการวิทยาศาสตร์ไทย โดยเป็นผู้เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์สมัยเก่าและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างแท้จริง ซึ่งส่วนตัวมีความเคารพนับถือ ศ.ดร.แถบ มาก แม้จะไม่มีโอกาสได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็ได้ยินชื่อเสียงของ ศ.ดร.แถบ เรื่อยมา โดยนิสิตนักศึกษา และนักวิทยาศาสตร์ในรุ่นปัจจุบันยังสามารถถือ ศ.ดร.แถบ เป็นแบบอย่างบุคคลผู้นำวิทยาศาสตร์ในหลายสาขามาพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี

ทางด้าน รศ.ดร.กำจัด เผยความรู้สึกภายหลังเข้ารับรางวัลว่า รู้สึกขอบคุณและดีใจมากที่ได้รับเกียรติเข้ารับรางวัล ศ.ดร.แถบ ในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองได้ทำงานส่งเสริมวิทยาศาสตร์ของประเทศอยู่เบื้องหลังเรื่อยมา เนื่องจากเป็นงานที่คนไม่เห็นความสำคัญมากเหมือนงานชนิดอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญต่อวิทยาศาสตร์มากขึ้น

โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักในวิทยาศาสตร์ในระดับประชาชน เพื่อให้เขาได้ส่งต่อไปยังตัวแทนในสภาฯ เพื่อให้การส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์ในระดับชาติต่อไป ที่ผ่านมาแล้วเช่น การผลักดันให้เกิดวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติเป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าวเหล่านี้ก็เป็นงานที่อาศัยความร่วมแรงร่วมใจของผู้เกี่ยวข้องหลายราย ลำพังตัวเองย่อมไม่สามารถทำได้” รศ.ดร.กำจัด กล่าว

ทั้งนี้ ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ ถือเป็นผู้บุกเบิกวิทยาศาสตร์สาขาเคมีคนสำคัญของประเทศไทย โดยเป็นผู้ที่ได้ศึกษาต่อในด้านดังกล่าวจนจบปริญญาเอกจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นคนแรกของไทย เมื่อกลับมายังประเทศไทยได้รับราชการเป็นหัวหน้าภาควิชาเคมีคนแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดำรงตำแหน่งคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ในเวลาต่อมา

นอกจากความเชี่ยวชาญในสาขาเคมีแล้ว ศ.ดร.แถบ ยังเป็นผู้บุกเบิกวงการวิทยาศาสตร์สาขาอื่นๆ ด้วย อาทิ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และวัสดุศาสตร์ ตลอดจนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในหลายคณะ โดย ศ.ดร.แถบ เป็นผู้ชี้ให้สังคมไทยเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ต่อการพัฒนาประเทศ ดังคำพูดที่ว่า “ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของประเทศใดประเทศหนึ่งจะเป็นมาตรการอันหนึ่งในการวัดความเจริญก้าวหน้าของประเทศนั้น” ซึ่ง ศ.ดร.แถบ ได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2523 สิริรวมอายุได้ 73 ปี
 รูปถ่าย ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ ขณะที่ท่านยังรับราชการ
รูปหล่อเหมือน ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ
พิธีมอบทุนและรางวัลโดยมี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานในงานเป็นผู้มอบรางวัล
ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายสำรวย พลาวงษ์ ผู้แทน บ.ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และรศ.ดร.กำจัด มงคลกุล อดีตคณบดี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
นิทรรศการชีวประวัติ ศ.ดร.แถบ และนิทรรศการจัดแสดงโปสเตอร์ผลงานวิจัยของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น