xs
xsm
sm
md
lg

"แถบ นีละนิธิ" ปรมาจารย์แห่งวิชาเคมีไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากลองถามนิสิตแถวสามย่านว่า "อ.แถบ" คือใคร อาจได้คำตอบทำนองว่าเป็นอาจารย์ชื่อเดียวกับตึก แต่ความจริงปูชนียบุคลลผู้นี้เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อวงการเคมีไทยและคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ

สำหรับชาวรั้วจามจุรีแล้ว ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ คือปูชนียบุคคลสำหรับคณะวิทยาศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยอาจารย์เคมีผู้ล่วงลับไปแล้วนี้นับเป็น "ด็อกเตอร์" คนแรกของไทยที่สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย โดยมีตำแหน่งหน้าที่การงานเติบโตจากอาจารย์มหาวิทยาลัยเลื่อนไปเป็นคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย จนถึงคณบดีบัณฑิตศึกษา และแม้จะเกษียณอายุราชการไปเมื่อปี 2510 แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ปีเขาก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นอธิการบดี

ดร.แถบเป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง (King's Scholarship) ไปศึกษาต่อประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 17 ปีจนจบระดับไฮสคูล (High School) จากวิทยาลัยพอร์ทสมัธ มูนิซิพัล (Portsmouth Municipal College) และเข้าศึกษาต่อปริญญาตรีเคมีที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (Liverpool University) จากนั้นได้รับทุนมูลนิธิรอกกี เฟลเลอร์ (Rockefeller Foundation) ศึกษาต่อทางด้านเคมีอินทรีย์ระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University)

"สมัยเด็กๆ ช่วง ม.8 บนตำราเรียนเคมีจะมีชื่อ อ.แถบอยู่บนปกหนังสือ เวลาสอบข้อสอบกระทรวงที่จะสอบกันทั่วประเทศ ข้อสอบที่หินที่สุดคือวิชา "เคมี" ที่อาจารย์เป็นผู้ออกข้อสอบ" วิเทียน นิลดำ รองประธานสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ลูกศิษย์รุ่นท้ายๆ ของ ดร.แถบย้อนความทรงจำ

"เข้าคณะวิทยาศาสตร์จะมีการเตรียมฟอสฟอรัสจากกระดูกซึ่งยากมาก จนเรามีคำพูดติดปากว่า เตรียมฟอสฟอรัสจากกระดูก อ.แถบ แต่ถ้าถามเด็กสมัยนี้จะได้คำตอบว่า อ.แถบคือผู้สร้างตึกแถบ" วิเทียนเล่า พร้อมกล่าวถึงบุคลิกอาจารย์ที่ประทับใจคือภาพเปิดตำราเล่มหนาอย่างช้าๆ ไม่อย่างนั้นกระดาษจะหลุดติดมือออกมาได้ เนื่องจากเป็นตำราที่อาจารย์ใช้ตั้งแต่เรียนจบกลับมา

ส่วน รศ.แม้น อมรสิทธิ์ นักวิเคราะห์เคมีกรมวิทยาศาสตร์เคมีซึ่งเกษียณมาหลายปีและเป็นศิษย์รุ่นที่ 21 ของ ดร.แถบเล่าว่า ทุกวันที่ 1 ก.ค.ของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของอาจารย์ ทางมูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนิธิจะจัดงานฉลองให้กับอาจารย์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวนั้นตั้งขึ้นขณะอาจารย์ยังมีชีวิตอยู่โดยใช้เงินจากการจัดงานวันเกิดเมื่อปี 2511 และปีนี้เป็นปีครบรอบ "100 ปี ศ.ดร.แถบ นีละนิธิ" ด้วย

ส่วน ม.ล.อนงค์ ชุมสาย นิลอุบล ศิษย์เคมีรุ่นที่ 5 ของ ดร.แถบและอดีตหัวหน้าฝ่ายเคมี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กล่าวว่ารู้สึกนับถืออาจารย์เหมือนพี่ชายเพราะอาจารย์เป็นเพื่อนสนิทกับ ม.ล.มานิตย์ ชุมสาย ซึ่งเป็นพี่ชายใหญ่และมักจะไปมาหาสู่ที่บ้านเสมอๆ ทั้งนี้อาจารย์เป็นคนที่สง่า แต่งตัวสวย และมีความสามารถทางภาษาถึง 3 ภาษาคืออังกฤษ เยอรมันและฝรั่งเศส นอกจากนี้ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกายังได้อาจารย์ช่วยเขียนใบรับรองให้ด้วย

"ท่านเป็นคนเงียบ ขรึม เป็นที่เกรงใจของทั้งเด็กๆ และอาจารย์ เราจะกลัวท่านมากเพราะท่านไม่ค่อยยิ้มแย้ม แต่เวลาท่านพูดก็จะมีน้ำเสียงของความกรุณาอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังกลัวท่านอยู่" ความทรงจำที่ต่ออาจารย์ของ ศ.ดร.กำจร มนุญปิจุ ราชบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นที่ 12 ของ ดร.แถบ

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ดร.แถบที่บรรดาคนใกล้ชิดและลูกศิษย์ที่ส่วนมากเลยวัยเกษียณไปแล้วเล่าขานต่อๆ กันมา อย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือความโดดเด่นของอาจารย์เคมีผู้นี้ที่ขับรถ "เก๋งสปอร์ต" สีแดงเข้าไปสอนในมหาวิทยาลัยด้วยความ "โก้เก๋" และแสดงถึงสติปัญญาอันชาญฉลาดเนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรางวัลจากการเรียนดีเมื่อครั้งศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล อังกฤษ

ความเป็นที่สุดของดร.แถบยังถูกบันทึกและเล่าขานกันหลากหลายเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็น คนแรกของไทยที่ตั้งหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิตขึ้นในประเทศไทย คนแรกของไทยที่พัฒนาการเรียน-การสอนเคมีให้เป็นระบบ อาทิ การวิเคราะห์สารเคมีอย่างเป็นระบบ การถ่ายรูปลงจานกระเบื้อง เป็นต้น เป็นนักวิชาการคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเพราะในอดีตตำแหน่งนี้มักเป็นของนักการเมืองเหล่านี้เป็นต้น ซึ่งหลังจากสร้างคุณาปการให้กับวงการเคมีและวิทยาศาสตร์เมืองแล้วเขาก็ถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค.23 สิริรวมอายุได้ 73 ปี




กำลังโหลดความคิดเห็น