xs
xsm
sm
md
lg

ตำนานแอปเปิล

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

แอปเปิลพันธุ์ Golden Delicious
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงแอปเปิลว่า เป็นผลไม้ต้องห้าม ที่ Eve เชื้อชวนให้ Adam กิน และผลที่เกิดตามมาจากการเชื้อเชิญครั้งนั้น คือ มนุษย์เริ่มรู้จักทำบาป และนี่ก็คือ เหตุผลที่แอปเปิลในภาษาละตินตรงกับคำว่า malus ซึ่งแปลว่า ชั่วร้าย ถึงกระนั้น ภาษาอังกฤษก็มีสำนวนว่า the apple of your eye ซึ่งหมายถึง สิ่งนั้นมีค่ามากในสายตาคุณ

เทพนิยายกรีกโบราณก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับแอปเปิลว่า กษัตริย์ Eurystheus ทรงมีบัญชาให้ Hercules นำผลแอปเปิลทองคำที่อยู่ในสวนของ Hesperides มาถวายพระองค์ และหลังจากที่ได้เดินทางรอนแรมหลายเดือน Hercules ก็มาถึงสวนแต่ก่อนจะเข้าสวนได้ เขาต้องฆ่ามังกรเฝ้าสวนก่อน และก็ทำได้สำเร็จ จึงหยิบแอปเปิลนำไปถวาย Eurystheus แล้วพระองค์ก็ ทรงมอบต่อให้มเหสีเพื่อนำไปคืนกลับให้ Hesperides อีก

ส่วน Eris ผู้เป็นเทพธิดาแห่งความขัดแย้ง เมื่อได้รับเชิญไปงานมงคลอภิเษกสมรสระหว่าง Peleus กับ Thetis นางจึงนำแอปเปิลทองคำที่มีคำจารึกว่า สำหรับคนที่สวยที่สุด ไปในงาน เหตุการณ์นี้ทำให้เทพธิดา Hera, Athena และ Aphrodite ซึ่งต่างก็อ้างว่าตนสวย ต้องให้เจ้าชาย Paris แห่ง Troy ตัดสิน และเทพธิดาทั้งสามต่างก็ให้สินบนแก่ Paris เพื่อให้ตนได้เป็นผู้ชนะ และสินบนจาก Aphrodite คือ Helen แห่งกรุง Sparta เป็นแปะเจี๊ยะที่ถูกใจ Paris ที่สุด Paris จึงให้แอปเปิลทองคำแก่ Aphrodite แล้วสงครามแห่ง Troy จึงเกิดตามมา

Atalanta เป็นเทพธิดาพระองค์หนึ่งที่ไม่ชอบแต่งงานกับชายใด นางจึงใช้วิธีวิ่งแข่งขัน โดยตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าชายคนนั้นวิ่งชนะกายนาง เขาก็จะชนะใจนางด้วย Hippomenes จึงใช้อุบายโยนแอปเปิลทองคำล่อ Atalanta ทำให้นางชะงักวิ่ง โดยก้มลงเก็บผลแอปเปิล Hippomenes จึงได้นางเป็นภรรยา

ตำนานสวิสก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับแอปเปิลเช่นกันว่า William Tell ใช้ธนูยิงผลแอปเปิลที่วางอยู่บนศีรษะลูกชายได้อย่างแม่นยำ เพื่อเอาชนะเจ้าผู้ครองเมืองที่ทารุณโหดร้าย และเมื่อเขาทำได้สำเร็จ ชาวเมืองก็ happily ever after

คนเดนมาร์กโบราณเชื่อว่า เวลาแอปเปิลอยู่ใกล้คนที่นอกใจคนรัก แอปเปิลจะเหี่ยว

ส่วนคนอังกฤษถือว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันแอปเปิล เพราะครูอังกฤษส่วนใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 - 18 มีรายได้ต่ำ ดังนั้น บิดามารดาของนักเรียนที่ครูคนนั้นสอน จึงมักนำผลแอปเปิลจัดลงในตะกร้า เพื่อนำไปให้ครูเป็นของขวัญ แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเงินเดือนครูสูงขึ้น นักเรียนจะนำแอปเปิลผลเดียวไปให้ครูเพื่อแสดงความขอบคุณ

คนกรีกในสมัยโบราณเชื่อว่า เวลาชายใดโยนแอปเปิลให้หญิง นั่นหมายถึง เขากำลังขอเธอแต่งงาน และถ้าเธอรับได้ นั่นหมายความว่า yes

ในอเมริกาก็มีตำนานเกี่ยวกับแอปเปิลเช่นกัน คือ John Chapman ผู้เป็นนักผจญภัย และนักสอนศาสนาในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ขณะเดินทางผ่านรัฐ Ohio, Indiana และ Illinois ได้โยนเมล็ดแอปเปิลลงดิน และปลูกต้นแอปเปิลในทุกหนแห่งที่เขาไปเยือน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีชื่อเรียกเล่นว่า Johny Appleseed

ในวงการวิทยาศาสตร์เราก็มีตำนานเกี่ยวกับแอปเปิลเช่นกันว่า เมื่อ Isaac Newton เห็นผลแอปเปิลตกจากกิ่งลงสู่พื้น เหตุการณ์นี้ทำให้ Newton พบแรงโน้มถ่วง

ทุกวันนี้เราสามารถพบเห็นต้นแอปเปิลได้แทบทั่วโลก ทั้งในยุโรปและเอเชีย เช่น รัสเซีย ไซบีเรีย จีน เกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงอเมริกาเหนือและใต้ สถิติการปลูกแอปเปิลในปี 2548 แสดงให้เห็นว่าโลกผลิตแอปเปิลได้ 48 ล้านตัน มูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ โดยจีนปลูกมากประมาณ 50% อาร์เจนตินา 15% และอเมริกา 7.5% ประเทศอื่นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี แอฟริกาใต้ และชิลี เป็นต้น โดยคนมักบริโภคแอปเปิลหลายรูปแบบ เช่น ทำแอปเปิลกระป๋อง น้ำแอปเปิล เหล้าแอปเปิล พายแอปเปิล ซอสแอปเปิล เนยแอปเปิล เยลลี่แอปเปิล และในสภาพผลไม้สด เป็นต้น

เพราะแอปเปิลนอกจากจะมีคุณค่าอาหาร เช่น ในแอปเปิล 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 13.8 กรัม น้ำตาล 10.4 กรัม เส้นใย 2.4 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 0.3 กรัม แล้วยังมีแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสังกะสีด้วย นักโภชนาการยังพบอีกว่า แอปเปิล สามารถลดโอกาสการเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด ได้ เพราะมีวิตามิน C และมีตัว antioxidant ที่สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้ด้วย นอกจากนี้แอปเปิลยังคุ้มครองสมองให้ปลอดจากโรค Alzheimer และโรค Parkinson ด้วย และในส่วนของโทษก็มี เช่น กรด malic ที่มีในแอปเปิล ถ้าเราบริโภคมากก็จะทำลายเคลือบฟัน หรือเมล็ดแอปเปิลก็มีสาร amygdalin ซึ่งมีพิษเล็กน้อย และตามปกติในการบริโภคแอปเปิล เราควรล้างเปลือกให้สะอาด เพราะเปลือกอาจมียาฆ่าแมลงเคลือบอยู่

แอปเปิลเป็นไม้ยืนต้นที่ผลัดใบ นักชีววิทยาได้จัดให้แอปเปิลอยู่ในชั้น Magnoliopsida อันดับ Rosales วงศ์ Rosaceae สกุล Malus และชนิด M. domestica โดยมีต้นสูงตั้งแต่ 5 - 12 เมตร ใบรี ปลายแหลม ขอบใบหยัก ใบมีความยาวตั้งแต่ 5 - 12 เซนติเมตร และกว้าง 3 - 6 เซนติเมตร ออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ ดอกมีสีขาวแกมชมพูเล็กน้อย กลีบดอกมี 5 กลีบ

ในการปลูกแอปเปิล ชาวสวนอาจใช้วิธีตอนกิ่ง หรือปลูกด้วยเมล็ดก็ได้ ต้นแอปเปิลจะออกผลใน 3 - 4 ปี และขึ้นได้ดีในทุกสภาพดินที่น้ำไม่ท่วมขัง และชาวสวนต้องคอยพรวนดินเสมอ อีกทั้งลมต้องไม่พัดแรง

เวลาแอปเปิลออกดอก มันต้องอาศัยผึ้งและแมลงช่วยในการผสมเกสร และถ้าการผสมไม่ดี ผลก็จะไม่ติดหรือลูกอาจมีขนาดเล็ก บิดเบี้ยว หรือสุกช้า และมีเมล็ดน้อย แต่ถ้าการผสมพันธุ์ดี ผลอาจมีเมล็ดตั้งแต่ 7 - 10 เมล็ด ดังนั้น ผึ้งหรือแมลงอาจจะต้องช่วยในการผสมเกสรของดอกแอปเปิลหลายครั้ง จึงจะได้ผลแอปเปิลที่สมบูรณ์

ปริศนาหนึ่งที่ค้างคาใจคนรักแอปเปิล คือ ต้นแอปเปิลต้นแรกของโลกถือกำเนิดที่ใด (ห้ามตอบว่าสวน Eden)

ถึงแม้ประวัติศาสตร์จะได้บันทึกว่า นักประพันธ์กรีกชื่อ Theophrastus กล่าวถึง การปลูกแอปเปิลในกรีซ ตั้งแต่ พ.ศ. 100 แต่นักชีววิทยามีหลักฐานมากมายที่แสดงให้เห็นว่า ถิ่นกำเนิดของแอปเปิลคือแคว้น Tian Shan ในจีน

ในวารสาร American Scientist ฉบับที่ 95 ประจำเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ปีนี้ Barrie E. Juniper แห่งมหาวิทยาลัย Oxford ได้ศึกษาพันธุกรรมของแอปเปิลโดยการวิเคราะห์ mitochondria DNA ของมันจนพบว่า แอปเปิลเป็นพืชที่ชอบผสมพันธุ์ข้ามต้น ดังนั้น ต้นลูกจะมีลักษณะรูปร่างไม่เหมือนต้นพ่อแม่ ด้วยเหตุนี้แอปเปิลปัจจุบันจึงมีกว่า 20,000 สายพันธุ์ จะอย่างไรก็ตาม การศึกษาสายพันธุ์แอปเปิลในที่ต่างๆ ทั่วโลก เขาได้พบว่า แอปเปิล ต้นแรกของโลกต้องอยู่ที่ Tian Shan ในจีน แล้วแพร่พันธุ์สู่หุบเขา Fergana ใน Uzbekistan จากนั้นก็เข้าสู่ Mesopotamia แล้วไป Persia จนทำให้มันมีความสำคัญเทียบเท่ามะเดื่อ อินทผลัม และองุ่น แล้วแอปเปิลก็เข้าสู่ยุโรป และแพร่หลายไปทั่วโลกครับ

สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท
Atalanta กับ Hippomenes
ต้นแอปเปิลที่บ้านของ Newton ที่ Lincolnshire
กำลังโหลดความคิดเห็น