J. L. David เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2291 (รัชสมัยพระเจ้าบรมโกศ) ที่กรุงปารีส ในประเทศฝรั่งเศส และเป็นญาติห่างๆ ของ Francois Boucher ผู้เป็นจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ เมื่ออายุ 18 ปี Boucher ได้จัดให้ David ไปเรียนศิลปะกับ Joseph - Marie Vien และ David เริ่มประสบความสำเร็จเมื่อได้รับรางวัล Prix de Rome หลังจากที่พลาดรางวัลนี้ถึง 3 ครั้ง และก็ได้ใช้เงินรางวัลที่ได้รับนี้ไปศึกษาประติมากรรมกับจิตรกรรมในอิตาลี กับ Vien และได้รู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นภาพวาดของ Nicolas Poussin กับจิตรกรยุค Renaissance
เมื่อ David อายุ 36 ปี เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกของ Royal Academy of Painting และอีก 2 ปีต่อมาก็ได้เดินทางไปโรม เพื่อวาดภาพ The Oath of the Haratii ซึ่งภาพนี้ทำให้ชาวโรมันตื่นเต้นมาก และเมื่อภาพถูกนำออกแสดงในงานศิลป์ (Salon) ที่กรุงปารีส ชาวปารีสได้พากันแห่แหนมาดูอย่างชื่นชม แม้แต่ Goethe เองก็กล่าวยกย่องว่า ภาพที่ David วาดภาพนี้ได้ทำให้ทุกคนยอมรับในความยิ่งใหญ่ของจิตรกรฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง ในภาพเราจะเห็นฝาแฝด 3 คนพี่น้องกล่าวคำสาบานต่อหน้าบิดาว่าจะซื่อสัตย์ และยอมตายในสงครามเพื่อชาติ เหล่าสตรีที่นั่งร้องไห้ คนหนึ่ง คือ มารดาและน้องสาวซึ่งเป็นคู่หมั้นของศัตรูที่ 3 ฝาแฝดนั้นจะต้องฆ่า และอีกคนคือน้องสาวของศัตรูที่แต่งงานกับ 1 ใน 3 ฝาแฝดนั้น ภาพ The Oath นี้จึงสื่อความหมายให้ประชาชนทุกคนจงรักภักดีต่อชาติยิ่งกว่าบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะ และ David ก็ได้กล่าวว่า ภาพนี้มีส่วนปลุกเร้าชาวฝรั่งเศสให้ปฏิวัติใหญ่ในอีก 4 ปีต่อมา
เพราะ David ไม่ชอบพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เลย ดังนั้น เขาจึงได้เข้าร่วมเป็นผู้นำคนหนึ่งในคณะปฏิวัติที่ได้ออกเสียงสนับสนุนให้มีการประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ด้วยกิโยตีน อีกทั้งได้วาดภาพพระนาง Marie - Antoinette ขณะเสด็จเดินสู่ลานประหารด้วย ซึ่งภาพนี้แสดงความเกลียดชังที่ David มีต่อระบบกษัตริย์อย่างออกหน้าออกตา ตัว David เองศรัทธาและเลื่อมใสใน Robespierre ซึ่งเป็นผู้นำอีกคนหนึ่งมาก ดังนั้น เมื่อ Robespierre ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ชะตาชีวิตของ David ก็ตกตาม แต่เมื่อได้เข้าเฝ้า Napoleon ในปี 2341 และ Napoleon ทรงโปรดให้ David เป็นจิตรกรแห่งราชสำนักเพื่อให้วาดภาพของพระองค์เป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงและพระบารมี เช่นให้วาดภาพการเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี 2348 เป็นต้น การได้รับการยอมรับเช่นนี้ ทำให้ David เป็นจิตรกรผู้มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศสยุคนั้น และมีลูกศิษย์ลูกหามาเรียนด้วยหลายคน เช่น Ingres, Gros, Gerard, Gericault และ Girodet เป็นต้น
และเมื่อ Napoleon แพ้สงครามที่ Waterloo ในปี 2358 พระองค์ทรงถูกเนรเทศไปสิ้นพระชนม์ที่เกาะ St. Helena และในเวลาต่อมาพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 แห่งราชวงศ์ Bourbon ได้ทรงกลับมามีอำนาจอีก David จึงต้องหลบหนีลี้ภัยไป Brussels เพราะถูกกล่าวหาว่า ฆ่ากษัตริย์ และได้เสียชีวิตที่นั่น เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2368 ขณะอายุ 78 ปี
ปีนี้เป็นปีที่ผลงานชื่อ The Coronation of Napoleon ที่ David วาด มีอายุครบ 2 ศตวรรษ เพื่อเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ในการราชาภิเษกเป็นจักรพรรดิ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2347 ที่มหาวิหาร Notre Dame ซึ่งในช่วงเวลาหลังการปฏิวัติใหญ่ในปี 2332 นั้น ตัวมหาวิหารได้ทรุดโทรมไปมาก สถาปนิกจึงได้จัดให้มีม่านมาบังกั้นเสาและผนัง ไม่ให้เห็นความผุพังและสภาพเก่าของอาคาร
David ได้ใช้เวลาวาดภาพนี้ 3 ปี เพราะภาพมีพื้นที่ใหญ่ประมาณ 240 ตารางฟุต ในภาพเราจะเห็นองค์จักรพรรดิประทับยืนตรงกลาง พระองค์ทรงสวมเสื้อขนตัว ermine และกำลังทรงยกมงกุฎทองคำสวมที่ศีรษะของ Josephine พระมเหสี และที่ศีรษะของพระองค์มีช่อใบไม้ (laurel) ที่ทำด้วยทองคำสวมอยู่
จักรพรรดิ Napoleon ขณะนั้นมีพระชนมายุ 35 พระชันษา ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์เพราะมีผลงานชนะศึกสงครามหลายครั้ง และทรงมีไหวพริบด้านการเมืองที่หลักแหลม เพราะขณะนั้นเป็นเวลาหลังการปฏิวัตินองเลือดครั้งยิ่งใหญ่ และประเทศฝรั่งเศสกำลังอ่อนแอ จึงถูกต่างชาติคุกคาม ดังนั้น การที่ฝรั่งเศสได้หนุ่มชาวเกาะ Corsica ร่างเล็ก บึกบึน แต่มีความทะเยอทะยานสูงมาปกครอง จนทำให้ฝรั่งเศสสงบอย่างสันติ และกองทัพต่างชาติถอยหนี เช่น รัฐบาลออสเตรีย และอังกฤษ ในปี 2344 และ 2345 ได้ลงนามในสัญญาสันติภาพกับฝรั่งเศสตามลำดับ ความสำเร็จนี้ได้ทำให้บรรดาลูกพรรค Republican และ Royalist ของฝรั่งเศสเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อ Napoleon เหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนทั่วไปพอใจ ว่าประเทศกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นระเบียบ ดังจะเห็นได้จากการทำประชามติในประเด็นว่า Napoleon สมควรเป็นจักรพรรดิหรือไม่ ประชาชน 3,572,329 คน คิดว่าสมควร ในขณะที่เสียงค้านมีเพียง 3,000 คนเท่านั้นเอง
สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท