xs
xsm
sm
md
lg

เต่า “จอร์จ” ผู้โดดเดี่ยวอาจไม่เดียวดายอีกต่อไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บีบีซีนิวส์/ไซน์เดลี/เอเยนซี - เต่า “จอร์จ” ผู้โดดเดี่ยวแห่งเกาะกาลาปากอส อาจไม่ใช่เต่าตัวเดียวในสายพันธุ์ของมันที่รอดชีวิต เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบเต่ายักษ์ลูกผสมที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้เต่า “จอร์จ” ผู้โดดเดี่ยว (Lonesome George) เป็นเต่าเพศผู้ที่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากมันเป็นเต่าตัวเดียวในสายพันธุ์เต่ายักษ์จากเกาะพินตา (Pinta) ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos) แห่งอเมริกาใต้ที่รอดชีวิต โดยถูกค้นพบเมื่อปี 2515 และถูกนำไปไว้ที่สถานีวิจัยชาร์ล ดาร์วิน (Charles Darwin Research Station) และนับแต่ปี 2449 ก็พบเต่าจากเกาะเดียวกับจอร์จเพียง 4 ตัวเท่านั้น

จากนั้นก็มีความพยายามที่จะรักษาสายพันธุ์ของจอร์จไว้ด้วยการเลี้ยงมันไว้ร่วมกับเต่ายักษ์เพศเมีย 2 ตัว จากเกาะอิสเบลา (Isabela) ซึ่งเป็นเกาะภูเขาไฟที่อยู่ใกล้เคียงกับเกาะพินตาและอยู่ในหมู่เกาะกาลาปากอสเช่นเดียวกัน แต่หลังจากใช้เวลาร่วมกับเต่าเพศเมียที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกันเป็นเวลาถึง 35 ปี เต่าอายุเพศผู้กว่า 80 กิโลกรัมตัวนี้ก็ไม่ได้ให้ลูกสืบสายพันธุ์แต่อย่างใดและไม่สนใจการจับคู่กับเพศตรงข้ามเลย แม้ว่าเหล่าวิทยาศาสตร์จะนำเต่าหนุ่มสายพันธุ์เดียวกับเพศเมียมาสาธิตขั้นตอนการจับคู่ให้ดูก็ตาม

“แม้จะผ่านมา 35 ปีแล้ว จอร์จผู้โดดเดี่ยวก็ดูเหมือนจะไม่สนใจที่ส่งผ่านยีนซึ่งเป็นหนึ่งเดียวของเขาเลย และเขาก็ล้มเหลวในการผลิตลูกด้วย” คำพูดของไมเคิล รัสเซลโล (Michael Russello) แห่งมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียโอกานากัน (University of British Columbia Okanagan who) แคนาดา ผู้เริ่มต้นทำงานกับเต่าตั้งแต่เมื่อครั้งทำวิทยานิพนธ์หลังปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) คอนเนคติกัส สหรัฐอเมริกา

“คำร่ำลือเกี่ยวกับการค้นหาคู่เพื่อสืบสายพันธุ์ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องยาวนานได้ทำให้จอร์จกลายเป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์ที่ทรงพลัง ไม่ใช่เพียงเพื่อเกาะกาลาปากอสเท่านั้นแต่เพื่อโลกทั้งมวล” รัสเซลโลกล่าว

ทั้งนี้ทีมวิจัยของรัสเซลโลได้ทำงานอย่างหนักเพื่อตรวจสอบยีนของเต่ากว่า 2,000 ตัวจากเกาะอิสเบลา โดยหวังว่าจะพบเต่าที่มีสายพันธุ์จากเกาะพินตาแท้ๆ เช่นเดียวกับจอร์จซึ่งเป็นเต่าสายพันธุ์ “จีโอคีโลน อะบิงโดนี” (Geochelone abingdoni) และตอนนี้ทีมวิจัยได้จำแนกเต่าซึ่งมียีนครึ่งหนึ่งตรงกับจอร์จ และชัดเจนว่าเป็นเต่าในธรรมชาติรุ่นแรกที่ผสมข้ามพันธุ์ระหว่างเต่าจากเกาะพินตาและเต่าจากเกาะอิสเบลา แต่น่าเศร้าที่เต่าตัวนั้นเป็น “เพศผู้”

“การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนรูปการถ่ายทอดมรดกของจอร์จจากสัญลักษณ์แห่งความอดทนและหายากไปเป็นเรื่องราวของการอนุรักษ์ที่ประสบความสำเร็จ” คำกล่าวของเจฟเฟรย์ โพเวลล์ (Jeffrey Powell) นักชีววิทยาจากเยล

ทั้งนี้ทีมวิจัยใช้คนประมาณ 20 ชีวิตกับเวลาอีกประมาณ 2 เดือนเพื่อเก็บตัวอย่างโดยละเอียด และติดแผ่นติดตามด้วยสัญญาณวิทยุให้กับเต่าบนเกาะภูเขาไฟ และเก็บตัวอย่างเลือดของเต่าเหล่านั้นซึ่งมีน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก จากนั้นก็นำเต่าที่มีศักยภาพที่จะสืบเชื้อสายเต่าแห่งเกาะพินตามาเลี้ยงไว้ ซึ่งผลการศึกษาของพวกเขาจะตีพิมพ์ในวารสาร “เคอเรนต์ ไบโอโลจี” (Current Biology) ฉบับวันที่ 1 พ.ค.นี้

“มันเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเลย ผมและทุกๆ คน รวมทั้งจอร์จด้วยไม่เคยจินนาการว่าจะมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องประหลาดใจที่พบสายพันธุ์ผสมบนเกาะอิสเบลา มันทำให้เกิดคำถามว่ามันอยู่ที่นั่นได้อย่างไร” เฮนรี นิคอลส์ ผู้เขียนหนังสือ “เต่าจอร์จผู้โดดเดี่ยว-ชีวิตและความรักของสัญลักษณ์แห่งการอนุรักษ์” ซึ่งเข้ารอบสุดท้ายรางวัลหนังสือวิทยาศาสตร์ “เอเวนทิส-ไพรส์” (Aventis Prize) กล่าว แต่เขาก็ให้ความเห็นว่าการค้นหาเต่าแห่งเกาะพินตาสายพันธุ์แท้บนเกาะอิสเบลานั้นต้องใช้เงินมหาศาลและกินเวลานาน

ทั้งนี้นักล่าวาฬในศตวรรษที่ 19 เป็นแรงขับที่ทำให้สายพันธุ์ของจอร์จอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากพวกเขาล่าเต่าเพื่อเป็นอาหาร ซึ่งเต่าเพศเมียอยู่ในภาวะที่เสี่ยงมากกว่าเนื่องจากต้องขึ้นบกเพื่อวางไข่ และภายหลังเต่าหายากเหล่านั้นยังต้องเผชิญกับแพะท่าแย่งกินอาหารและเหยียบย่ำทำลายรังไข่ ปัจจุบันมีคนกว่า 50,000 คนมาเยี่ยมจอร์จที่สถานีวิจัย


กำลังโหลดความคิดเห็น