xs
xsm
sm
md
lg

10 ปี คปก.น่าพอใจ เดินหน้าผลิต “คน” สาขาขาดแคลน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.ดร.นักสิทธิ์ คูวัฒนาชัย ผอ.คปก.
เวทีแถลงผลงาน 10 ปีทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก สกว.เผย ได้ผลน่าพอใจ ผลิตดุษฎีบัณฑิตแล้ว 800 คน และผลงานสิทธิบัตร 37 ชิ้น ชี้บัณฑิต 92% มีงานทำ กว่าครึ่งเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย บางส่วนเป็นนักวิจัยในหน่วยวิจัยของรัฐและเอกชน พร้อมปรับยุทธศาสตร์แก้ปัญหาขาดแคลนอาจารย์มหาวิทยาลัยในหลายสาขา คู่ขนานการตั้งหัวข้อวิจัยแก้ปัญหาเอกชนในสาขาที่ไทยมีจุดแข็ง เชื่ออีก 5 ปี ผลิตบัณฑิตสู่ตลาดอีกราว 1,400 คน

การผลิตกำลังคนและงานวิจัยถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาชาติ โดยระหว่างวันที่ 20 –21 เม.ย. โครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้จัดงาน “เวทีเสวนา คปก. – สื่อมวลชน” ขึ้น ณ โรงแรมจอมเทียน ปาล์มบีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อเผยแพร่ผลงานที่สำคัญของ คปก.ในรอบปีให้สาธารณชนได้รับทราบ

ศ.ดร.นักสิทธิ์ คูวัฒนาชัย ผอ.โครงการ คปก. กล่าวในหัวข้อ “10 ปี คปก.อดีต ปัจจุบัน อนาคต” ว่า คปก.ประสบความสำเร็จในการผลิตบุคลากรวิจัยระดับปริญญาเอกเพื่อพัฒนางานวิจัยและสร้างสรรค์เทคโนโลยีคุณภาพให้แก่ประเทศตลอดเวลาดำเนินการที่ผ่านมา ซึ่งตอบสนองเป้าหมายหลักของการก่อตั้งโครงการที่หวังเพิ่มจำนวนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ทำงานวิจัยเก่งให้มีมากขึ้นกว่าในอดีตที่ยังมีน้อยเกินไป พร้อมกันนั้นยังมีผลพลอยได้คือผลงานวิจัยระดับปริญญาเอกซึ่งมุ่งตรงไปยังการวิจัยแก้โจทย์ปัญหาของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ

ปัจจุบัน คปก.ได้ผลิตบัณฑิตระดับปริญญาเอกไปแล้ว 800 คน มีผลงานนักศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ 1,711 ชิ้น ในจำนวนนี้มีสิทธิบัตรแล้ว 37 ชิ้น บัณฑิตปริญญาเอก คปก.มีงานทำแล้ว 92% แบ่งเป็นอาชีพอาจารย์ในมหาวิทยาลัยราว 50% เป็นนักวิจัยในหน่วยวิจัยของราชการ 20% เป็นนักวิจัยในหน่วยวิจัยเอกชน 10% และกำลังทำวิจัยต่อในระดับหลังปริญญาเอกในต่างประเทศอีก 10% โดยเวลานี้ยังมีนักศึกษาที่กำลังทำวิจัยในโครงการอีก 1,900 คน

อย่างไรก็ดี ยังพบว่าการดำเนินการของ คปก.ยังมีจุดด้อยอยู่บางส่วน โดยเฉพาะความไม่สมดุลกันของการผลิตบัณฑิตในสาขาต่างๆ ที่เน้นหนักไปที่สาขาที่ไทยมีความถนัดค่อนข้างมากคือ สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ จนส่งผลให้การผลิตบัณฑิตในสาขาอื่นๆ ที่ไทยขาดความชำนาญต้องประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร เช่น สาขาวิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ไอที คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีด้านอาหาร

นอกจากนั้น ยังมีปัญหาอีกคือ ผลงานวิจัยของนักศึกษาในโครงการยังเน้นไปที่การตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติและการจดสิทธิบัตรมากกว่าการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

“เราจึงเห็นควรว่า คปก.ต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การดำเนินงานในหลายด้านด้วยกันคือ 1.การเพิ่มจำนวนนักศึกษาในโครงการเพื่อให้เกิดการผลิตผลงานที่มีผลกระทบต่อสังคมกว้างขวางขึ้น จากเดิมที่มีการให้ทุนประมาณ 250 ทุน/ปี แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ คปก.ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้วย ที่ผ่านมา คปก.ได้รับงบประมาณเฉลี่ย 400 ล้านบาท/ ปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยหากจะให้พอก็ต้องเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้อีกราวเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ คปก.จึงพยายามหาแหล่งทุนอื่นๆ มาเสริมด้วย คือทั้งจากภาครัฐ เอกชน รวมถึงให้มหาวิทยาลัยที่ได้รับการสนับสนุนการวิจัยมาช่วยทุนด้านค่าใช้จ่ายด้วย” ผอ.โครงการ คปก.กล่าว

ส่วนยุทธศาสตร์อื่นๆ ได้แก่ 2.การเน้นประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้อาจารย์และนักศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลนเข้ามารับทุนวิจัยมากขึ้นเพื่อจบไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และ 3.การส่งเสริมให้นักวิจัยทำงานวิจัยเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักวิจัยในสาขาที่ไทยมีความถนัดและมีบุคลากรมากในระดับหนึ่งแล้ว อย่างสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มปะสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น จากเวลานี้ที่ยังมีเอกชนที่มีศักยภาพรับผลงานวิจัยไปใช้น้อยราย

“จำนวนนักวิจัยเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดระดับการพัฒนาประเทศ คปก.จึงมุ่งที่จะผลิตบัณฑิตปริญญาเอกออกมามากขึ้น โดยไม่ได้ผลิตนักศึกษาเอง แต่มีกลไกและเงื่อนไขร่วมกับมหาวิทยาลัยเพื่อสนับสนุนทุนวิจัยให้กับอาจารย์และนักศึกษา เชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เราจะผลิตบัณฑิตได้เพิ่มอีก 1,400 คน ซึ่งรวมกับ 800 คนที่ผลิตออกมาแล้ว ก็จะได้จำนวนบุคลากรวิจัยรวมเป็น 2,200 คนตลอด 15 ปีของโครงการ” ศ.ดร.นักสิทธิ์ กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น