“ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” สะท้อนความผูกพันของข้าวกับสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ข้าวอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด โดยเฉพาะข้าวกล้องซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่อยู่คู่มื้ออาหารแบบไทยๆ แล้ว ในจมูกข้าวที่กำลังงอกยังเนืองแน่นไปด้วย “สารกาบ้า” กรดอะมิโนที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ดี จนเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพในไต้หวันและญี่ปุ่นมานานกว่า 40 ปี
นายชาญวิทย์ รัตนาศรี ผู้จัดการโครงการข้าวกล้องงอก “กาบ้า -ไรซ์” (GABA-Rice) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เล่าว่า เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในด้านการผลิตข้าวมาอย่างยาวนาน และเห็นเป็นช่องทางที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากข้าวได้มาก ซึ่งคุณสมบัติของสารกาบ้า นอกจากจะเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์แล้ว มันยังช่วยรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ และโรคลมชักได้ด้วย
ธุรกิจนวัตกรรมข้าวกล้องหอมมะลิงอกเป็นรูปเป็นร่างขึ้นผ่านโครงการแปลงเทคโนโลยีเป็นทุนแก่บริษัทผู้ค้าข้าวของไทย 3 รายคือ บ.ปทุมไรซ์มิลล์ แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) บ.เจียเม้ง จำกัด และ บ.ธวัชชัย อินเตอร์ไรซ์ จำกัด ด้วยการขยายผลงานวิจัยในห้องปฏิบัติการของ อ.พัชรี ตั้งตระกูล โดยมีโรงงานนำร่องอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน หลังจากธุรกิจข้าวกล้องงอกประสบความสำเร็จมาแล้วกับข้าวเมล็ดอ้วนสั้นในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับงานวิจัยของ อ.พัชรี นักวิจัยจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการวิจัยเรื่องข้าวกล้องงอกร่วมกับนักวิจัยจากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์การเกษตรนานาชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan International Research Center for Agriculture Sciences) โดยได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อทำการศึกษาใน 4 เรื่องคือ การสรรหาพันธุ์ข้าวไทยที่ให้สารกาบ้าสูง การหาเงื่อนไขการผลิตที่เหมาะสม การวิจัยอายุการเก็บรักษา และการวิจัยคุณประโยชน์ของข้าวกล้องอกในระดับเซลล์
"การวิจัยเบื้องต้นของ อ.พัชรี สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง คือหาพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมและสภาพการผลิตข้าวกล้องงอกที่มีประสิทธิภาพได้แล้ว ซึ่งข้าวหอมมะลิ 105 จะให้ข้าวกล้องงอกที่มีสารกาบ้ามากที่สุด ส่วนสภาวะที่จะทำให้ข้าวกล้องงอกได้ดีคือ ต้องนำข้าวกล้องหอมมะลิไปแช่น้ำราว 48 -72 ชั่วโมงในหม้อแช่ โดยมีการควบคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนน้ำ ความดัน และความเป็นกรดด่างของน้ำ เพื่อให้ความชื้นจากน้ำไปกระตุ้นให้เมล็ดข้าวงอกและเปลี่ยนกรดกลูตามิกไปเป็นสารกาบ้าอันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ต่อมาเมื่อได้ข้าวกล้องงอกในขั้นตอนนี้แล้ว ก็ต้องทำให้ข้าวกล้องงอกหยุดการงอกต่อไป โดยอบแห้งให้มีความชื้นต่ำกว่า 14% ในหม้ออบแห้ง จากนั้นจึงบรรจุลงในถุงสุญญากาศพร้อมขายเป็นลำดับสุดท้าย” นายชาญวิทย์ กล่าว
ขั้นตอนวิจัยที่เหลือของ อ.พัชรี จึงเป็นการวิจัยหาอายุการเก็บรักษาและการศึกษาถึงประโยชน์ของสารกาบ้าในระดับเซลล์ แม้ว่าวิธีการผลิตดังกล่าวจะมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าข้าวกล้องหอมมะลิธรรมดาราว 3 เท่าจาก 17,200 บาทไปเป็น 69,000 บาท/ตัน แต่มันก็ช่วยเพิ่มมูลค่าเมื่อส่งขายได้มากถึง 10 เท่าทีเดียว คือจากราคาขายข้าวกล้องหอมมะลิธรรมดา 30,000 บาท/ตัน ไปเป็น 300,000 บาท/ตัน โดยภายในเดือน ก.ค.นี้ ทั้ง 3 บริษัทข้างต้นยังจะได้ร่วมกันเปิดตัวบริษัทค้าข้าวกล้องงอกขึ้นเพื่อทำหน้าที่ขายข้าวดังกล่าวด้วย
ด้านนายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.ปทุมไรซ์มิลล์ฯ เผยว่า หลังจากได้ทำงานร่วมกันแล้วก็ทำให้ขณะนี้ที่โรงงานต้นแบบมีการพัฒนาเครื่องจักรการผลิตแล้วจำนวน 2 ชุด ทั้งในส่วนที่เป็นหม้อแช่ข้าวและหม้ออบแห้งข้าว มีกำลังการผลิตรวม 500 กก./วัน โดยจากการเก็บข้อมูลตลอด 6 เดือนที่ผ่านมายังไม่พบว่าข้าวกล้องงอกมีปัญหาเหม็นหืนเกิดขึ้นแต่อย่างใด ในทางกลับกันข้าวกล้องงอกที่ได้กลับมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่มกว่าข้าวกล้องทั่วไป จึงง่ายแก่การหุงรับประทานได้โดยไม่ต้องผสมกับข้าวขาวตามความนิยมของผู้บริโภค
ขณะที่วิธีการหุง คุณค่าทางอาหาร ความหอม ความนุ่ม และรสอร่อยของข้าวกล้องหอมมะลิยังมีอยู่เหมือนเดิม ผู้บริโภคจึงวางใจได้ที่จะรับประทานข้าวกล้องงอกแทนข้าวกล้องธรรมดา โดยผลการวิจัยความพึงพอใจกับกลุ่มบริโภคเป้าหมายในตลาดของกลุ่มผู้รักสุขภาพประมาณ 50 คน พบว่าได้ผลตอบรับดีมาก สอดรับกับแนวโน้มของตลาดข้าวกล้องภายในประเทศที่กำลังขยายตัวขึ้น โดยในปีนี้ตลาดข้าวกล้องไทยเพิ่มขึ้นจากปี 49 ถึง 50%
"ส่วนตลาดต่างประเทศของข้าวกล้องงอกต้องถือว่าอยู่ในตลาดบนทั่วโลก โดยเฉพาะสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา หากโครงการข้าวกล้องงอกได้ผลน่าพอใจก็เชื่อว่าภายในปีหน้าก็จะร่วมกันสกัดสารกาบ้าบริสุทธิ์ซึ่งมีราคา กก.ละนับหมื่นบาทเพื่อส่งขายให้กับอุตสาหกรรมอาหารเสริมสุขภาพต่อไปด้วย” นายสมเกียรติ เล่าโดยทิ้งท้ายถึงอุตสาหกรรมอาหารเสริมสุขภาพและของขบเคี้ยวที่เคลือบสารกาบ้า ซึ่งในญี่ปุ่นได้มีการนำสารกาบ้าไปผสมกับขนมเคลือบช็อกโกแลตออกวางตลาดบ้างแล้ว