วท.- กระทรวงวิทย์จัดถนนสายวิทยาศาสตร์รับวันผู้สูงอายุไทย ขนสารพัดเทคโนโลยีมาโชว์ อาทิ รากฟันเทียม แว่นขยายช่วยอ่าน และเครื่องช่วยการฟัง พร้อมนานาสารพัดกิจกรรมและอีกหลากหลายหัวข้อเสวนาด้านสุขภาพ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เชื่อจะช่วยรีชาร์จไฟในตัวผู้สูงอายุ พร้อมมุ่งมั่นถ่ายทอด "ขิงแก่" สู่สังคม ชี้ใช้โอกาสเดียวกันเปิดตัวเว็บไซต์ "บางแคร์ด็อดเน็ต" เว็บไซต์ที่มีไว้เพื่อเทคแคร์ผู้สูงอายุ
ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เผยว่า ระหว่าง 5-8 เม.ย. นี้ ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะได้จัดกิจกรรมงานถนนสายวิทยาศาสตร์ครั้งที่ 2 ขึ้นต่อเนื่องจากการจัดงานถนนสายวิทยาศาสตร์เมื่อครั้งงานวันเด็กแห่งชาติ “13 ม.ค.2550” ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเป็นกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน แต่ในงานถนนสายวิทยาศาสตร์ครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุไทย “13 เม.ย.2550” โดยเป็นผลงานหนึ่งในโครงการบำรุงเฝ้าปัญญายืน
ทั้งนี้ โครงการบำรุงเฝ้าปัญญายืน เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้สูงอายุ เช่น คนในวัยเกษียณอายุได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ใกล้ตัวแล้วนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย การพักผ่อนหย่อนใจ และการติดตามข่าวสารใหม่ๆ ของสังคม ผ่านสื่อสมัยใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว กลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มนี้จะสามารถเผยแพร่ความรู้ต่างๆ ที่ตัวเองมีอยู่ถ่ายทอดให้แก่สังคมได้เรียนรู้ตามผ่านการเป็นอาสาสมัครของชุมชน เช่น การเป็นไกด์นำเที่ยวในชุมชนของตัวเองในลักษณะการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-Guide) เป็นต้น
“กิจกรรมที่น่าสนใจในงานถนนสายวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงอายุมีมากมาย เพื่อมอบให้แก่ผู้สูงอายุที่อยู่ในโลกไฮเทคและไซเบอร์ เช่น การนำเสนอเทคโนโลยีไฮเทคสำหรับผู้สูงอายุของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เช่น รากฟันเทียม หรือเครื่องมือที่ช่วยให้การรับรู้ทำได้สะดวกยิ่งขึ้นอย่างแว่นตา หรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการอ่านซึ่งจะเป็นเหมือนแว่นขยาย” ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวและว่า
นอกจากนั้น ภายในงานยังมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถอ่านข้อความออกมาเป็นเสียงให้ฟังโดยผู้สูงอายุไม่ต้องอ่านเอง เครื่องช่วยการรับฟัง หรือแม้แต่เทคโนโลยีที่ช่วยในการติดตามและเฝ้าระวังผู้สูงอายุในบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยเหลือในการเคลื่อนไหว และเทคโนโลยีโซลาร์เซลส์ หรือ “เซลส์แสงอาทิตย์” เพื่อผู้สูงอายุ เป็นต้น
พร้อมๆ กันนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังจะได้เปิดตัวเว็บไซต์ “บางแคร์ดอทเน็ต” (www.bangcare.net) ซึ่งจะเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ผู้สูงอายุในประเทศไทยสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งการได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่าของแต่ละท่านให้เป็นแหล่งความรู้สำหรับคนรุ่นหลังหรือแม้แต่รุ่นเดียวกันได้นำแนวคิดต่างๆไปใช้ประโยชน์ต่อไปด้วย
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ภายในงาน ได้แก่ การเสวนาและกิจกรรมเวที ในหลายหัวข้อ เช่น สมุนไพรไทยกับสุขภาพผู้สูงวัย, สุขภาพดี ชีวียั่งยืน, บ้านปลอดภัยวัยเกษียณ, การเรียนและการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างง่ายๆ ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมบริการ เช่น บริการนวดฝ่าเท้า ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย บริการตรวจสุขภาพ และกิจกรรมฝึกอบรมต่างๆ อาทิ การเรียนและการใช้คอมพิวเตอร์อย่างง่าย การนวดแผนไทย การผลิตภาพนูนต่ำด้วยกระดาษใช้แล้ว การทำเครื่องปั้นดินเผา การทำขนมและอาหารไทย การทำลูกประคบ การทำขี้ผึ้งสมุนไพร การทำดอกไม้ประดิษฐ์ การทำโอ่งบุหงา การทำกล่องสวยจากใจ และการทำถุงสวยด้วยลายผ้า เป็นต้น
"งานลักษณะนี้จะเป็นการช่วยจุดประกาย และเป็นเวทีให้ผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไป ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาความเป็นอยู่ประจำวัน สร้างคุณภาพชีวิต ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เพื่อชีวิตที่พอเพียง อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาสถานที่ในหน่วยงานของรัฐทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้งานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันจะเป็นการสร้างความคุ้นเคย และใช้ประโยชน์จากสถานที่ราชการที่เป็นสมบัติของประชาชนทุกคนให้คุ้มค่าในด้านสังคมมากขึ้นต่อไป" รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวทิ้งท้าย