"เมษา" เดือนที่ได้รับการขนานนามว่าร้อนที่สุดของปีก็มาถึง เมื่อท้องว่างขึ้นมาครั้งใด หลายคนก็คงจะคิดถึงผลไม้หวานๆ เย็นๆ มาทานกันให้ชื่นใจได้ไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นแตงโมสีแดงแจ๋ มะละกอสุกๆ สักชิ้น หรือแม้แต่ผลไม้สีสันสดใสน่ารักน่าทานอย่าง “แก้วมังกร” ซึ่งวันนี้นอกจากจะทานดับร้อนกันได้ไม่ต้องเกรงใจใครแล้ว ยังได้แปรสภาพเปลือกผลแก้วมังกรมาเป็นสารให้ “สี” เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพและความงามได้อีกด้วย
น้องเมย์ “กนกเนตร สุภาศรี” ม.5 ร.ร.ดาราวิทยาลัย เชียงใหม่ เยาวชนในโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (เจเอสทีพี) รุ่น 9 เจ้าของโครงงานวิทยาศาสตร์แปรเปลือกแก้วมังกรเป็นสีเล่าว่า เริ่มจากที่ครอบครัวของตัวน้องเมย์เอง มีคุณลุงเป็นเจ้าของสวนแก้วมังกรอยู่ที่ จ.เชียงใหม่
สาวน้อยรายนี้จึงตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับผลแก้วมังกรว่า นอกจากจะมีรูปร่างแปลกตา มีรสอร่อย และแก้วมังกรยังเป็นผลไม้ที่คนไทยนิยมทานกันเฉลี่ย 6,000 ตัน/ปี โดยมีส่วนเปลือกเหลือทิ้งอยู่ถึง 180 ตันแล้ว ภายใต้เปลือกที่ดูสวยงามของแก้วมังกรนี้ก็น่าจะสารที่มีสรรพคุณทางยาแฝงอยู่ด้วย
น้องเมย์ ก็ไม่ผิดหวังเลยเพราะได้ศึกษาค้นคว้าจนทราบว่า ภายในเปลือกของผลแก้วมังกรที่เรามักจะเหลือทิ้งนั้นมีสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายด้วยกัน หนำซ้ำยังอาจเรียกได้ว่ามีคุณค่าทางอาหารและทางยามากกว่าเนื้อในของผลแก้วมังกรด้วยซ้ำ !!?
เริ่มตั้งแต่สารเหนียวในเปลือกหุ้มผลแก้วมังกรที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลเชิงซ้อน (complex polysaccharides) มากมาย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดไขมันจำพวกกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นต่ำ (แอลดีแอล) ในกระแสโลหิตได้ ขณะเดียวกันยังมีส่วนผสมของวิตามินซี ฟอสฟอรัส โปรตีน และแคลเซียมที่กระตุ้นการทำงานของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง มีไฟเบอร์มาก กากใยสูง แถมยังลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ โดยตัวเปลือกของผลแก้วมังกรเองยังสามารถนำไปหั่นฝอยและตากแห้งใช้ชงต่างใบชาสมุนไพรรสหวานนิดๆ เพื่อดื่มได้ด้วย
ทั้งนี้ ด้วยสรรพคุณในเปลือกผลแก้วมังกรที่มีมากจนตัดใจทิ้งลงตะกร้าไม่ลงนี่เอง น้องเมย์จึงได้ทดลองสกัดสารมีประโยชน์จากเปลือกผลแก้วมังกรมาใช้ให้เกิดคุณค่ามากที่สุด โดยหวังว่าจะทำให้ได้ทั้งสีสวยของเปลือกผลแก้วมังกรและสารเคมีที่มีประโยชน์มาใช้งาน
ภายใต้การให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างอบอุ่นของ รศ.ดร.ดวงพร เหลี่ยวไชยพันธุ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ทำหน้าที่เป็นนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยง โดยน้องเมย์ได้ทดลองสกัดสารสีด้วยวิธีต่างๆ มากมาย จนได้กรรมวิธีที่สกัดสารสีได้ดีที่สุดเพียงวิธีเดียว ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและแทบไม่ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรเลย ทว่าทำให้ได้ผลสีจากเปลือกผลแก้วมังกรมาใช้งานได้อย่างน่าพอใจ
“หลังจากที่พูดคุยกับพี่ๆ ที่กลุ่มแม่บ้านดอยสะเก็ดแล้วก็ทำให้ได้วิธีที่จะใช้สกัดสีแดงอมชมพูจากเปลือกผลแก้วมังกรมาใช้ได้ คือใช้การหมักเปลือกด้วยน้ำเปล่าทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง ก็จะทำให้ได้น้ำสีออกมา จากนั้นจึงเอาไปกวนกับแป้งมันให้ได้แป้งเป็นก้อน แล้วนำไปตากแดดจนแห้งเพื่อบดเป็นผง ซึ่งก็เป็นวิธีที่ง่าย และทำให้ได้ผงแป้งสีแดงอมชมพูมาใช้ ซึ่งผงสีที่ได้มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ทันที” สาวน้อยจากโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและยาวชนรายนี้เล่า
สำหรับผงสีที่ได้ยังสามารถนำไปใช้ได้หลายด้านด้วยกัน เช่นนำมาใช้ทดแทนสีผสมอาหารโดยไม่ทำให้กลิ่น รสชาติ หรือคุณค่าทางอาหารเปลี่ยน ที่สำคัญไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ได้แก่ ขนมปุยฝ้าย ทับทิมกรอบ วุ้น ซาหริ่ม ขนมชั้น โดยสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน 1-2 เดือน
นอกจากนั้นยังสามารถนำไปผสมกับแป้งฝุ่นผัดหน้าให้ดูสวยงามน่าใช้ และต่อไปยังอาจใช้ให้สีแก่เครื่องสำอางอย่างที่ปัดแก้ม (บรัชออน) และลิปสติก ขณะเดียวกัน
สีที่สกัดได้ก็ยังอาจนำไปใช้ในงานทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ได้อีกด้วย คือ ใช้ทดแทนสีย้อมเซลล์ในการทดลองวิทยาศาสตร์ ที่น้องเมย์ได้ทดลองกับการย้อมเซลล์พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่มาแล้วจนได้ผลน่าพอใจ ซึ่งหากเป็นไปได้ยังอาจนำไปใช้ในงานย้อมอวัยวะภายในร่างกายเพื่อการวินิจฉัยโรคทดแทนการใช้สารเคมีนำเข้าจากต่างประเทศได้อีกประการหนึ่งด้วย
ส่วนสิ่งที่น้องเมย์บอกว่าจะได้พัฒนาต่อไปต่อจากการสกัดสารสีได้แล้วคือ การศึกษาสรรพคุณทางยาในผงสีที่ได้ว่าจะยังคงคุณค่าของเปลือกผลแก้วมังกรไว้อยู่หรือไม่ เพราะในขั้นตอนการตากแดดจะมีความร้อนและออกซิเจนในอากาศมาเกี่ยวข้อง อาจทำให้สารเคมีที่มีประโยชน์สูญสลายไปได้
นอกจากนั้น น้องเมย์ยังจะได้ค้นหาสารที่ทำให้สีมีความคงตัวมากขึ้นในสภาวะกรดและด่าง การผสมสีลงไปในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำ หรือน้ำมันมาก ซึ่งจะทำให้สีแดงอมชมพูของสารสีซีดจางหรือเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองซีดที่ไม่สวย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสามารถนำสารให้สีที่ได้ไปขยายผลใช้กับผลิตภัณฑ์สบู่ เจลอาบน้ำ แชมพู ลิปสติก และครีมบำรุงผิวได้…
จากความสามารถและบุคลิกที่ทั้งเก่งและสดใสน่ารักนี่เอง เมื่อมีผู้ถามถึงเรื่องส่วนตัวว่ามีหนุ่มๆ มาหมายตาน้องเมย์บ้างแล้วหรือยัง น้องเมย์ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “หัวใจยังว่าง รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่โครงงานค่ะ”