xs
xsm
sm
md
lg

เตะลูกโทษอย่างฉลาด-วิทยาศาสตร์กีฬาแนะ “บิดสะโพก-ใช้ลูกแป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แนะเทคนิคเตะลูกโทษจากผลงานวิจัยวิทยาศาสตร์การกีฬา ยิงให้แม่น “ใช้ลูกแป-บิดสะโพก” เผยทีมฟุตบอลเยาวชนคว้าชัยจากบรูไนโดยอาศัยการฝึกซ้อมตามผลงานวิจัย

ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา เผยถึง งานวิจัยเรื่องการวิเคราะห์ทางชีวกลศาสตร์ของการเตะลูกโทษ ณ จุดโทษในกีฬาฟุตบอลว่า ได้ทดลองเก็บข้อมูลการเตะลูกโทษของนักกีฬาฟุตบอลชายระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 20 คน โดยใช้กล้องดิจิทัล 6 ตัวบันทึกภาพการเตะลูกโทษ ซึ่งนักเตะแต่ละคนจะติดตัวระบุตำแหน่ง (Reflexive marker) ไว้ที่หัวไหล่ ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อเท่าและเท้าซ้าย-ขวา ทั้งนี้กล้องจะบันทึกการเคลื่อนไหวโดยจับแสงสะท้อนจากตัวระบุตำแหน่ง

ภาพที่บันทึกได้นำไปวิเคราะห์โดยโปรแกรมวิเคราะห์ผลสำเร็จรูป ซึ่ง ดร.สุวัตรเผยถึงผลการวิจัยว่า ตำแหน่งมุมล่างสุดของประตูเป็นพื้นที่ซึ่งมีโอกาสเตะลูกเข้าประตูได้สูง ทั้งการเตะลูกออกมาด้วยความเร็วสูงก็มีแนวโน้มที่ลูกจะเข้าประตูมากขึ้นเช่นกัน นอกจากยังพบอีกว่าหากนักเตะบิดสะโพกหรือข้อไหล่เพิ่มขึ้นประมาณ 4 องศาจะช่วยให้ความเร็วของลูกบอลเพิ่มขึ้น 1 เมตร/วินาที หรือประมาณ 3.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อีกทั้งตำแหน่งของเท้าที่ใช้เตะยังมีผลต่อความแม่นยำในการยิง โดย ดร.สุวัตรอธิบายหากเตะด้วยหลังเท้า (in step) จะให้ความเร็วสูงเพราะใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าเท้า แต่มีพื้นที่กระทบลูกบอลน้อยจึงมีความผิดพลาดสูง แต่หากเตะด้วยหน้าเท้าด้านใน (in foot) หรือลูกแปจะมีความเร็วน้อยกว่าการเตะแบบแรก แต่มีความแม่นยำกว่าเพราะมีพื้นที่กระทบลูกมากกว่า อย่างไรก็ตามหากต้องการเพิ่มความเร็วในการเตะลูกแบบหลังนี้ให้บิดสะโพกและหัวไหล่เล็กน้อยจะช่วยเพิ่มความเร็วในการเตะได้

สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ใช้เวลาทดลอง 3 เดือน โดยปัญหาและอุปสรรคที่พบนั้น ดร.สุวัตรเผยว่าเป็นเรื่องความเข้มแสงในสนามกลางแจ้งที่ไม่สามารถควบคุมได้ หากแสงมีความไม่สม่ำเสมอก็จะทำให้ข้อมูลที่เก็บนั้นมีสัญญาณรบกวนมาก ซึ่งเก็บข้อมูลได้ดีที่สุดช่วงเวลา 6.00 น.ที่แสงมีความสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายปัจจัยที่มีผลต่อการยิงลูกโทษ โดย ผอ.วิทยาศาสตร์การกีฬาเผยว่าหากผู้รักษาประตูพุ่งตัวก่อนที่นักเตะจะยิงลูกก็มีโอกาสป้องกันประตูได้สูงหากพุ่งตรงไปยังมุมที่นักเตะเล็งไว้ ทั้งนี้หากต้องการความแม่นยำให้เล็งตำแหน่งที่ห่างผู้รักษาประตู 1 ช่วงไหล่ เพราะการยิงใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่การพุ่งตัวรวมกับการใช้เวลาประมวลผลเลือกซ้าย-ขวาของผู้รักษาประตูนั้นใช้เวลามากกว่า

ทางด้าน นายกวิน คเชนทร์ ศึกษานิเทศก์กองส่งเสริมวิชาการสถาบันการพลศึกษา และที่ปรึกษาทีมฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทย อายุไม่เกิน 19 ปี กล่าวว่างานวิจัยนี้เป็นแนวทางสำคัญของการยิงลูกโทษให้สำเร็จ โดยทีมเยาวชนได้ที่ได้ชัยชนะจากการแข่งขันฟุตบอลที่บรูไนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานั้นสามารถเอาชนะคู่แข่งด้วยประตู 5 ต่อ 4 โดยอาศัยการฝึกซ้อมตามคำแนะนำของการวิจัย

ส่วน ดร.เสกสรร นาควงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ กล่าวว่านอกจากวิทยาศาสตร์การกีฬาจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาความเป็นเลิศทางด้านกีฬาแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับกิจกรรมของประชาชนทั่วไป โดยได้ยกตัวอย่างงานวิจัยเรื่องการลงจากรถประจำทาง ณ ป้ายจอดโดยใช้แรงช่วยป้องกันการบาดเจ็บซึ่งเป็นอีกงานวิจัยของ ดร.สุวัตร ก็เป็นงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ประยุกต์ใช้กับกิกรรมของมวลชนได้ด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น