xs
xsm
sm
md
lg

วท.จับมือ สธ.นำทันตกรรมชั้นสูงขยายผลโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงวิทย์จรดปากกาความร่วมมือเทคโนโลยีทันตกรรมขั้นสูงกับกระทรวงสาธารณสุข ขยายผลใช้ในโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา
กระทรวงวิทย์จรดปากกาความร่วมมือเทคโนโลยีทันตกรรมขั้นสูงกับกระทรวงสาธารณสุข เป้าหมายทดแทนการนำเข้ารากฟันเทียมราคาสูงลิบจากต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของไทย รองปลัดสาธารณสุขเผย จะนำเทคโนโลยีทันตกรรมของกระทรวงวิทย์ไปขยายผลในโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา ลดการนำเข้ารากฟันเทียมกว่า 2,400 ล้านบาท ช่วยแก้ปัญหาช่องปากให้แก่ผู้สูงอายุ 10,000 ราย

แน่นอนว่าการทำงานแบบ “สองหัว” ย่อมดีกว่าการทำงานแบบ “หัวเดียว” อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ได้มีบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) "การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทันตกรรมชั้นสูงกรอบระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี" ขึ้นเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า เทคโนโลยีทันตกรรมเป็นเทคโนโลยีแขนงหนึ่งที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้ความสำคัญ โดยการวิจัยพัฒนาของศูนย์เทคโนโลยีทางทันตกรรมขั้นสูง (แอดเทค: ADTEC) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สังกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อทดแทนการนำเข้าเทคโนโลยีทันตกรรมต่างประเทศที่มีราคาแพง ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะผู้สูงอายุจำนวนมากได้เข้าถึงบริการทันตกรรมมากขึ้น จึงช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียความสามารถในการรับประทานอาหารและการสื่อสารกับคนรอบข้างได้มาก

ความก้าวหน้าด้านทันตกรรมที่สำคัญของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คือ การจัดทำชุดโครงการทันตกรรมรากฟันเทียมแบบครบวงจรมาตรฐานสากล ครอบคลุมระยะเวลาวิจัยพัฒนาตั้งแต่ปี 2548-2550 ด้วยงบประมาณกว่า 22 ล้านบาท ซึ่งแอดเทคจะรับหน้าที่ให้บริการรักษารากฟันเทียมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมาช่วยวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งทำหน้าที่ผู้ประสานงานด้านข้อมูลก่อนการออกแบบทดลองใช้รากฟันเทียม การให้ข้อมูลหลังการใช้ และการเผยแพร่ผลงานนวัตกรรม ส่วนเอ็มเทคมีบทบาทรับผิดชอบด้านการวิจัยและพัฒนาวัสดุผลิตรากฟันเทียมด้วยต้นทุนต่ำ มีคุณภาพสูง และลดค่าใช้จ่ายลง 2-3 เท่า เพื่อใช้ในประเทศ

ทั้งนี้ นพ.สมยศ เจริญศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการวิจัยพัฒนาของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงสอดรับพอดีกับโครงการสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข คือ โครงการรากฟันเทียมเพื่อผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา “5 ธ.ค.2550” ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 และทำต่อเนื่องถึงปลายปี 2552 โดยมีสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ใช้งบประมาณรวม 134.5 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ ดังกล่าว ปีนี้ได้เดินหน้าทำรากฟันเทียมพร้อมติดตามผลให้กับผู้สูงอายุที่ผ่านการคัดเลือก 10,000 คนๆ ละ 2 ราก รวม 20,000 รากโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นำร่องในสถานบริการ 6 แห่ง คือ 1.สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ 2.รพ.เลิดสิน 3.รพ.ประจำจังหวัดชลบุรี 4.รพ.มหาราช จ.นครศรีธรรมราช 5.รพ.ประจำจังหวัดลำปาง และ 6.รพ.หาดใหญ่ โดยจะทำให้ประเทศไทยลดการสูญเสียจากการนำเข้ารากฟันเทียมได้ถึง 2,400 ล้านบาท

สำหรับความร่วมมือด้านทันตกรรมชั้นสูง เป็นหนึ่งในความร่วมมือที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และกระทรวงสาธารณสุข จะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากรระหว่างกัน นอกเหนือจากความร่วมมือด้านการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้หวัดนก รวมถึงการประยุกต์ใช้วิศวกรรมทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งจะดึงนักวิจัยไทยในต่างประเทศกลับมาใช้ความรู้และประสบการณ์พัฒนาประเทศร่วมกับภาคเอกชน ตามโครงการสมองไหลกลับของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
นพ.สมยศ เจริญศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น