xs
xsm
sm
md
lg

เยี่ยม "สถานีของเล่นวิทยาศาสตร์" มีทั้งความรู้และความสนุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชวนน้องๆ เที่ยวสถานีของเล่นวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทย์ ใน “ถนนสายวิทยาศาสตร์” เตรียมสนุกกับการไขปริศนาลำดับเลขฟีโบนัคซีที่มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ทำไมรังผึ้งต้องเป็นหกเหลี่ยม การประดิษฐ์หุ่นยนต์ 2 ขา และหุ่นยนต์ 4 ขา วิธีการเรียงกระป๋องมหัศจรรย์ และฝาท่อที่ไม่มีวันตก ฯลฯ นักวิทย์รุ่นจิ๋วยิ้มแก้มปริหลังเที่ยวงาน “ได้ทั้งความรู้คู่ความสนุก” ด้านคุณพ่อมั่นใจระบบรักษาความปลอดภัย เที่ยวได้ไม่กลัวก่อการร้าย

ครื้นเครงทีเดียว สำหรับถนนสายวิทยาศาสตร์ เพื่อต้อนรับวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และหน่วยงานข้างเคียง ที่จะมีเรื่อยไปจนถึงเสาร์ที่ 13 ม.ค.นี้ โดยกิจกรรมที่น่าสนใจชนิดนักวิทย์ตัวน้อยไม่ควรพลาดคือ “สถานีของเล่นวิทยาศาสตร์” กิจกรรมในโครงการปลูกฝังปัญญาเยาว์ บริเวณห้องประชุม 101 อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

ตะลุยแดนของเล่นวิทยาศาสตร์

กิจกรรมสนุกๆ ในสถานีของเล่นวิทยาศาสตร์ที่โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์สําหรับเด็กและเยาวชน (เจเอสทีพี) ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ทีเอ็มซี) ขนมาสร้างความบันเทิงแก่น้องๆ ชนิดลืมเวลา ได้แก่ การประดิษฐ์หุ่นยนต์ทำมือ 2 ขา และ 4 ขา ด้วยวัสดุหาง่าย ราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นลังใส่ถ่าน มอเตอร์รถบังคับ หรือแผ่นกระดาษอาร์ตสีสวยสดใส ที่เมื่อได้แต่งแต้มเติมจินตนาการของนักวิทย์รุ่นเยาว์เข้าด้วยแล้วก็เห็นทีจะน่าเล่นไม่น้อยไปกว่าของเล่นในห้างสรรพสินค้าเลยทีเดียว ทั้งหุ่นยนต์ต่อสู้ 4 ขา หุ่นยนต์ช้าง และหุ่นยนต์นกแก้ว แถมยังเป็นการจุดประกายนักประดิษฐ์รุ่นเยาว์ไปพร้อมๆ กันด้วย

ส่วนของเล่นอีกอย่างที่น่าสนใจในสถานีนี้ ยังได้แก่ การไขรหัสลับธรรมชาติด้วยลำดับเลขฟีโบนัคซี ที่ไม่ว่าจะนำมาจัดแสดงเมื่อไรก็ยังเรียกเสียงฮือฮาจากน้องๆ ได้ไม่เสื่อมคลาย เพราะใครจะรู้ว่าในธรรมชาติรอบตัวเราอย่างกลีบดอกทานตะวัน ตาของผลสับปะรด แฉกของลูกสน เปลือกหอย และหนามของต้นกระบองเพชร จะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและงดงามได้ถึงเพียงนี้ ด้วยลำดับเลขฟีโบนัคซี ซึ่งมีจัดเรียงแบบพิเศษคือ 0 1 1 2 3 5 8 13 21 34 ...

ใกล้เคียงกันนี้ ของเล่นวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่ง ยังช่วยให้น้องๆ ได้ไขปริศนา “ทำไมรังผึ้งต้องเป็นรูป 6 เหลี่ยม” ด้วย โดยน้องๆ จะได้ทดลองตวงลูกปัดลงในภาชนะรูปทรงเลขาคณิตต่างๆ ที่มีเส้นรอบรูปเท่ากัน ซึ่งจะพานักสังเกตตัวจิ๋วไปรู้ว่า รูปทรงที่ยิ่งมีเหลี่ยมมีมุมมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งบรรจุของได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ทำไมผึ้งจึงเลือกที่จะทำรังรูปหกเหลี่ยม โดยไม่ทำรังด้วยรูปทรงที่มีเหลี่ยมมากกว่า 6 ด้านนั้นก็เป็นอีกปริศนาที่ต้องพิสูจน์ผ่านการต่อแบบจำลองรังผึ้ง ซึ่งน้องๆ จะได้พบว่า รูปหกเหลี่ยม เป็นรูปเลขาคณิตที่บรรจุข้าวของได้มากที่สุดที่สามารถเรียงต่อกันได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่เกิดช่องว่างให้เสียเปล่าเลย

เรื่องรูปทรงเลขาคณิตกับวิทยาศาสตร์นี้ ยังได้นำไปสู่กิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง เช่น กิจกรรมเรียงกระป๋องอย่างไรให้ได้มากที่สุดในพื้นที่เท่ากัน ที่น้องๆ อาจต้องประหลาดใจว่า วิธีการเรียงกระป๋องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุดอาจไม่ใช่วิธีการที่เรียงกระป๋องได้มากที่สุด การหารูปร่างของฝาท่อที่ไม่มีวันตกลงไปในท่อด้วยหลักการด้านเท่า (Constant Width) ซึ่งรูปร่างที่มีลักษณะดังกล่าวจะไม่มีทางร่วงหล่นไปอยู่ก้นท่อได้เลย เพราะไม่ว่าจะพลิกฝาท่อไปในทิศทางใดก็ไม่ได้ทำให้ความกว้างหรือความยาวของฝาท่อน้อยไปกว่าปากท่อไม่ว่าในกรณีใดๆ

รวมถึงปริศนา “ทำไมล้อรถต้องเป็นวงกลม” ที่ใช้หลักการด้านเท่ามาอธิบายได้เช่นกัน และการหาพื้นที่ของรูปเลขาคณิตด้วยการสังเกตจุดจากกฎพิกส์ธีโรเร็ม (Pick’s Theorem) ซึ่งมีสูตรว่า “พื้นที่เท่ากับจำนวนจุดรอบรูปหารสอง บวกจำนวนจุดภายใน ลบหนึ่ง” นอกจากนี้ยังมีของเล่นวิทยาศาสตร์อื่นๆ ที่น่าค้นหาไม่แพ้กันอีกหลายอย่างเช่น การตวงของเหลวโดยการสังเกตอัตราส่วนจากเส้นทแยงมุมของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมของคนโบราณ ซึ่งไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ตวงวัดอื่นๆ ให้ยุ่งยาก และการไขปริศนาจุดโฟกัสของวงรีที่เมื่อปล่อยวัตถุให้เคลื่อนที่จากจุดโฟกัสจุดที่หนึ่งไปกระทบเส้นโค้งรูปวงรีจนเกิดการสะท้อนของวัตถุ วัตถุนั้นๆ ก็จะเคลื่อนที่ผ่านจุดโฟกัสอีกจุดหนึ่งด้วย

นักวิทย์จิ๋ว “สนุกและได้ความรู้” - คุณพ่อมั่นใจในความปลอดภัย

เมื่อชมสถานีของเล่นวิทยาศาสตร์จนหนำใจแล้ว “น้องเดียร์” หรือ ด.ญ.บุณยาพร มหากิตติคุณ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเปรมประชาวัฒนา จ.นนทบุรี ซึ่งใฝ่ฝันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์โดยมีดีกรีเป็นนักเรียนในโครงการของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่ตัดสินใจใช้เวลาทั้งวันมาเที่ยวถนนสายวิทยาศาสตร์กับคุณพ่อ “วิสุทธิ์ มหากิตติคุณ” บอกว่ารู้สึกชอบของเล่นวิทยาศาสตร์ที่นำมาแสดงทุกชิ้น เพราะสนุกและได้ความรู้ โดยเฉพาะกิจกรรมรูปร่างฝาท่อที่ไม่มีวันตก และกิจกรรมเรียงกระป๋อง ซึ่งทำให้เห็นว่าการทดลองทางวิทยาศาสตร์ทำให้เราได้รับความรู้ใหม่ๆ ที่จะไม่มีทางรู้ได้เลยหากไม่มีการทดลองเกิดขึ้น

ด้านคุณพ่อของน้องเดียร์ที่มาร่วมสนุกด้วย เล่าว่า ทางครอบครัวก็เป็นอีกแรงหนึ่งที่ได้ส่งเสริมการเรียนรู้ของน้องเดียร์อย่างเต็มที่ เช่น เมื่อน้องเดียร์รบเร้าให้ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ขึ้นที่บ้าน ก็จะได้จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ แต่จะจำกัดเฉพาะกิจกรรมที่ไม่มีอันตรายเท่านั้น เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่น้องเดียร์รบเร้าอยากมาร่วมงานถนนสายวิทยาศาสตร์ตามที่มีการประชาสัมพันธ์กันมาก โดยจะใช้เวลาตลอดทั้งวันเที่ยวชมกิจกรรมของสถานีต่างๆ เช่น การเปิดห้องแล็ปงานวิจัยมาลาเรียของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หินแร่ของกรมทรัพยากรธรณี รวมถึงดูสายการผลิตยาขององค์การเภสัชกรรม

ส่วนความเชื่อมั่นต่อระบบรักษาความปลอดภัยของงาน คุณพ่อน้องเดียร์ บอกว่า รู้สึกมั่นใจในระบบการเฝ้าระวังมาก และไม่กลัวว่าจะมีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นเหมือนช่วงส่งท้ายปีเก่า เพราะเชื่อว่าคนร้ายจะไม่กล้าก่อเหตุได้อีก แต่ที่เขาก่อเหตุร้ายได้เป็นเพราะอาศัยจังหวะที่คนเผลอไม่ทันเฝ้าระวังมาก่อเหตุ ซึ่งเมื่อถึงเวลานี้แล้วประชาชนทุกคนจะไม่ยอมให้เกิดเหตุร้ายดังกล่าวขึ้นอีก



อ่านข่าวอื่นๆ บน "ถนนสายวิทยาศาสตร์"

- รวมโปรแกรมวันเด็ก สไตล์สนุกคิดกับวิทยาศาสตร์
- เยี่ยม "สถานีของเล่นวิทยาศาสตร์" มีทั้งความรู้และความสนุก
- ต่อกล้องสำรวจขั้วโลกใต้ เยาวชนไทยกลุ้มอากาศโลกเข้าขั้นเลวร้าย
- “ภาพนูนต่ำ” ศิลป์บนฐานวิทย์จาก “กระดาษรีไซเคิล”
- แนะเที่ยวถนนสายวิทย์ให้สุขใจ "มาตัวเปล่า-เที่ยวเป็นกลุ่ม"
- วันเด็ก! อย่าปล่อยให้ลูกเหงาพาลัดเลาะไปบน “ถนนสายวิทยาศาสตร์”
- เปิดแล้วมหกรรมสาระบันเทิง “ถนนสายวิทยาศาสตร์” รับวันเด็กปีนี้


คลิกที่ไอคอน Manager Multimedia
เพื่อรับชมภาพ "ถนนสายวิทยาศาสตร์" เพิ่มเติม


ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia








กำลังโหลดความคิดเห็น