กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เดินหน้าเตรียมเปิดงานถนนสายวิทยาศาสตร์ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 50 หวังเอาใจอนาคตของชาติ จับมือ 4 พันธมิตรเพื่อนบ้านโชว์ 43 สถานี กว่า 100 กิจกรรม อาทิ เกมวิทยาศาสตร์ ห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ประดิษฐ์ของเล่น วิธีการผลิตยา หินแร่สำคัญของไทย และนานสารพัดงานวิจัยวิทยาศาสตร์
ในวันเสาร์ที่ 13 ม.ค.ก็จะถึงวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2550 แล้ว หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และห้างร้านเอกชนต่างๆ ก็คงเตรียมจัดงานมอบสาระและความบันเทิงแก่น้องๆ เยาวชน “อนาคตของชาติ” กันอย่างขมีขมัน เช่นเดียวกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ที่วันนี้ (5 ม.ค.) ได้แถลงข่าว “ถนนสายวิทยาศาสตร์” เพื่อต้อนรับวันเด็กแห่งชาติขึ้น ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ เป็นประธานแถลงข่าวร่วมกับตัวแทนหน่วยงานร่วมจัดงานอื่นๆ ได้แก่ กรมทรัพยากรธรณี องค์การเภสัชกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า กิจกรรม "ถนนสายวิทยาศาสตร์" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 ม.ค.โดยใช้พื้นที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และหน่วยงานที่ร่วมจัดงานอีก 4 หน่วย คือ กรมทรัพยากรธรณี องค์การเภสัชกรรม กรมส่งเสริมอุตสากรรม และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในละแวกซอยโยธี ถนนพระราม 6 ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ โดยเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยซุ้มนิทรรศการ 43 สถานี รวมกว่า 100 กิจกรรม ได้แก่ สถานีเกมวิทยาศาสตร์ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การจำลองการโคลนนิงแกะดอลลี่ การฉายภาพยนตร์สารคดี การประดิษฐ์ของเล่นวิทยาศาสตร์ การชมภาพถ่ายดาวเทียมงานราชพฤกษ์ 2549 การสาธิตการผลิตยาขององค์การเภสัชกรรม การแจกตัวอย่างหินแร่ของกรมธรณีวิทยา การศึกษาเส้นทางธรรมชาติและโพรงนกเงือก สวนสุขภาพการกีฬา และการเผยแพร่ผลงานวิจัยในหลากหลายสาขาของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ด้านการรักษาความปลอดภัยภายในงาน รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เผยว่า องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ในฐานะฝ่ายจัดงานได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหาร และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ให้มาช่วยดูแลรักษาความสงบภายในงานแล้ว ซึ่งพื้นที่การจัดงานส่วนใหญ่จะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการในตัวอาคารที่มีรั้วรอบขอบชิด มีการนำถังขยะโปร่งใสและถุงพลาสติกใสมาใช้ทดแทนถังขยะทึบแสง
รวมถึงจะมีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามจุดสำคัญต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่การจัดงานโดยเป็นเทคโนโลยีพิเศษที่พัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ซึ่งทำให้มั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยได้ อีกทั้งยังได้ประสานไปยังโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลรามาธิบดี มาให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้มาร่วมงานด้วย
สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับ ศ.ดร.ยงยุทธ บอกว่า การจัดงานในครั้งนี้น่าจะทำให้ประชาชนได้เข้าใจในความสำคัญระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อการดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้น และเยาวชนยังจะได้เห็นถึงศักยภาพและความเชื่อมโยงของงานด้านวิทยาศาสตร์กับการพัฒนาประเทศ อีกทั้งภายในงานจะมีการแนะแนวทางสำหรับเยาวชนที่สนใจเป็นนักวิทยาศาสตร์ให้ได้รู้จักเส้นทางสู่อาชีพโดยมีนักวิทยาศาสตร์จริงๆ มาให้ความรู้และคอยตอบข้อซักถาม โดยผู้สนใจร่วมงานอาจสอบถามรายละเอียดการจัดงานเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการร่วมวิทยาศาสตร์ หมายเลขโทรศัพท์ 1313 ได้ตามวันและเวลาราชการ