xs
xsm
sm
md
lg

นับฝนดาวตกที่ปากช่อง : ผิดหวังกับ "ลีโอนิดส์" แต่ยังดีได้ใกล้ชิดดาวเสาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์เดินทางร่วมกับสมาคมดาราศาสตร์ฯ ไปนับฝนดาวตก "ลีโอนิดส์" เหนือฟ้า อ.ปากช่อง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 พ.ย. ได้เห็นดวงแสงดาวตก 8 ดวง เป็น "ลูกไฟ" 1 ดวง แม้เห็นไม่มากแต่ได้สัมผัสช่วงดาวเสาร์เข้าใกล้ดาวหัวใจสิงห์เป็นฉากหลังของการเกิดฝนดาวตก แถมโชคดีได้เห็น "ทอริดส์" ฝนดาวตกนอกสายตาอีก 10 ดวง พร้อมบันทึกภาพกระจุกดาวลูกไก่-คนคู่ และดวงอาทิตย์

หลังจากให้ข่าวและปล่อยให้ประชาชนได้สังเกตปรากฏการณ์ฝนดาวตก "ลีโอนิดส์" ล่วงหน้าไปก่อน 1 วัน ในคืนวันที่ 17 พ.ย.ซึ่งก็มีหลายคนที่ผิดหวังเพราะจำนวนดาวตกไม่มากอย่างที่คิด ทางสมาคมดาราศาสตร์ไทยจึงเก็บอุปกรณ์เพื่อเดินทางไปสังเกตด้วยตัวเอง และเพื่อบันทึกภาพ “เทห์ฟ้าห้วงลึก” (Deep Space) หรือวัตถุที่อยู่ไกลในห้วงอวกาศ โดยมีทีมงานผู้จัดการวิทยาศาสตร์ติดสอยห้อยตามไปถึง วัดมกุฎคีรีวัน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในคืนวันที่ 18 พ.ย.ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 19 พ.ย.

ระหว่างเดินทางจากรุงเทพฯ สู่ อ.ปากช่องนั้น เกิดฝนตกเล็กน้อย และเมฆจากความกดอากาศเริ่มก่อตัว ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนเริ่มวิตกกังวล แต่เมื่อถึงจุดหมายเวลา 21.30 น.ท้องฟ้าก็โปร่งใส แม้จะมีแสงรบกวนจากบ้านเรือนและรีสอร์ทจากบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ จนทำให้ท้องฟ้าไม่มืดสนิทก็ตาม

ทั้งนี้สมาคมฯ ได้ปักหลักบริเวณลานก่อสร้างพระมหาเจดีย์มกุฎคีรีวันซึ่งเป็นเนินเขาสูง ขณะเดียวกันก็มีนักศึกษาจากชมรมดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กว่า 100 คน ได้จัดกิจกรรมดูฝนดาวตกอีกบริเวณหนึ่งของวัดมกุฎคีรีวัน โดยจัดค่ายและตั้งกล้องโทรทรรศน์เพื่อดูดาวระหว่างวันที่ 17-18 พ.ย.

การสังเกตฝนดาวตกเริ่มต้นเมื่อเวลา 22.00 น. ซึ่งได้เห็นดาวตกพเนจร 2-3 ดวง และยังได้เห็นฝนดาวตกทอริดส์ (Taurids) ซึ่งเป็นฝนดาวตกจากกลุ่มดาววัวที่เห็นได้ในช่วงนี้เช่นเดียวกันลีโอนิดส์ แต่ไม่เป็นที่ไม่รู้จักกันมากนัก จนกระทั่งฟ้าปิดคือมีเมฆปกคลุมเวลา 02.30 น. ทำให้ไม่สามารถสังเกตปรากฏการณ์ฝนดาวตกต่อได้จนกระทั่งรุ่งสาง แต่ยังบันทึกภาพดาวอื่นๆ ได้

ผลจากการสังเกตเท่าที่สภาพอากาศอำนวยนั้น ปรากฏฝนดาวตกลีโอนิดส์ ประมาณ 8 ดวง และฝนดาวตกทอริดส์ประมาณ 10 ดวง แต่ลีโอนิดส์ให้ดาวตกที่มีความชัดเจนกว่าและมี "ลูกไฟ" (Fireball) ที่มีสว่างจ้าและทิ้งฝุ่นชั่วขณะอีก 1 ดวง

ต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว นายพรชัย อมรศรีจิรทร กรรมการสมาคมดาราศาสตร์ฯ ซึ่งตั้งใจถ่ายภาพดาวให้ความเห็นว่า จริงๆ แล้วลีโอนิดส์เป็นฝนดาวตกที่ไม่น่าดูเลยหากไม่ใช่ช่วงที่เกิด “พายุฝนดาวตก” (Storm) เช่นในช่วงปี 2544 เพราะมีจำนวนดาวตกต่อชั่วโมงน้อย

ฝนดาวตกที่น่าดู คือ “เปอร์เซอิดส์” (Perseids) ซึ่งหากไม่มีเมฆฝน จะเห็นดาวตกที่ใหญ่และเสียงดัง ส่วน "เจมินิดส์" (Geminids) ก็เป็นฝนดาวตกที่น่าดูเพราะมีจำนวนต่อชั่วโมงเป็นร้อย แต่จริงๆ แล้วฝนดาวตกก็มีให้ดูทุกเดือน แต่บางชุดมีจำนวนต่อชั่วโมงน้อยมากเท่านั้นเอง

ขณะเดียวกันนายพรชัยก็ได้บันทึกภาพกระจุกดาวลูกไก่และกระจุกดาวคนคนคู่ ซึ่งเป็นเทห์ฟ้าห้วงลึก โดยแต่ละกระจุกดาวนั้นต้องใช้เวลาบันทึกประมาณ 2-3 ชั่วโมง และในช่วงเช้ายังได้ภาพของดวงอาทิตย์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ด้วย สำหรับดาวลูกไก่ที่มองเห็นว่ามีดาวอยู่ 7 ดวงนั้น จริงๆ แล้วประกอบไปด้วยดาวกว่า 1,500 ดวง และยังมี “เนบิวลา” (Nebula) ซึ่งเป็นเศษซากที่เหลือจากการสร้างดาวอีกด้วย

นายปณัฐพงศ์ จันทรวัฒนาวณิช สมาชิกสมาคมดาราศาสตร์ และนักศึกษาวิศวกรรมอวกาศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดรสเดน (Technische Universitat Dresden) ประเทศเยอรมนี อธิบายถึงเนบิวลาในดาวลูกไก่ว่า เป็นกลุ่มก๊าซที่เหลือน้อยเกินกว่าจะสร้างดาวดวงใหม่ๆ และไม่ควรจะมองเห็น แต่ดาวฤกษ์ในกระจุกดาวลูกไก่นั้นใหญ่และร้อนมาก จนทำให้เนบิวลาสว่างขึ้นมา

นอกจากนี้ปณัฐพงศ์ยังกล่าวถึงลีโอนิดส์ว่า ปัจจุบันการคำนวณการเกิดฝนดาวตกมีความแม่นยำขึ้นจากเดิมมาก หลังจากมีการใช้สายธารดาวหางมาคำนวณ ซึ่งเมื่อก่อนมีความเข้าใจจะเห็นฝนดาวตกได้ต้องรอให้ดาวหาง (55พี เทมเพล-ทัตเทิล) มาเยือนทุก 33 ปี ทั้งนี้สามารถบอกได้ว่าแต่ละปีจะมีฝนดาวตกกี่ดวง และตกเมื่อไหร่

อย่างไรก็ดีแม้จะเห็นดาวตกไม่มาก แต่ท้องฟ้าที่ค่อนข้างปลอดโปร่งก่อนฟ้าปิดนั้น ทำให้พวกเรามองเห็นดาวเสาร์ที่อยู่ใกล้กับดาวหัวใจสิงห์ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวสิงโตได้อย่างชัดเจน โดยอยู่ห่างประมาณ 5 องศาเท่านั้น โอกาสนี้สมาคมฯ ได้ตั้งกล้องโทรทรรศน์เพื่อขยายภาพดาวเสาร์จนเห็นทั้งชั้นบรรยากาศและวงแหวนได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเห็น “สามเหลี่ยมหน้าหนาว” ซึ่งประกอบด้วย ดาวเบทเทลลุส (ส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวนายพราน) ดาวซิรีอุส (ส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวสุนัขใหญ่) และดาวโพรซีออน (ส่วนหนึ่งของดาวสุนัขเล็ก) ได้ชัดเจน

แม้หลายๆ คนอาจจะผิดหวังกับการชมฝนดาวตกลีโอนิดส์ครั้งนี้ ก็ยังมีฝนดาวตกส่งท้ายปีอีกครั้งในคืนวันที่ 13 และ 14 ธ.ค. เป็นฝนดาวตกจากซากดาวเคราะห์น้อย แต่ที่มีฉากหลังเป็นกลุ่มดาวคนคู่ จึงเรียกว่าฝนดาวตกคนคู่ หรือเจมินิดส์ ซึ่งจากการคำนวณของต่างประเทศระบุว่าจะมีประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง ในส่วนของไทยดูได้ตั้งแต่หัวค่ำเวลา 21.00-02.00 น.เพราะหลังจากนั้นดวงจันทร์ข้างขึ้นจะมีแสงสว่างรบกวนมองไม่เห็น


คลิกที่ไอคอน Manager Multimedia
เพื่อรับชมภาพเพิ่มเติม


ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia






กำลังโหลดความคิดเห็น