xs
xsm
sm
md
lg

สกว.ดึงครูไทยวิจัยวิทย์ท้องถิ่น รับคอนเซ็ปต์ดีแต่ไม่มีใครร่วมวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สกว.ระดมปัญญาหาแนวร่วมดึงครูไทยทำวิจัยท้องถิ่น ดึงวิทยาศาสตร์มาเขื่อมโยงชีวิตประจำวัน เสนอการเรียนการสอนแบบโครงการ ดึงครูทำวิจัยก่อนถ่ายทอดให้เด็กได้ร่วมศึกษา ชี้ครูวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ไทยมีน้อย และยังยึดติดกรอบมากเกินไป ฝ่ายผู้บริหารด้านการศึกษาโดดรับแนวคิดแต่ยังไม่กล้ารับไปปฏิบัติ ด้าน ผู้บริหาร สกว.เผยก้มหน้าทำใจ เชื่อสักวันหนึ่งจะดีขึ้นเอง

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้จัดการประชุม “วิทยาศาสตร์ท้องถิ่น...เส้นทางสู่ครูผู้สร้าง ประจำปี 2549” ขึ้น ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพฯ มีครูวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศมาร่วมงานมากกว่า 500 คน โดยวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเป็นการเผยแพร่และแสดงผลงานของโครงการวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นของ สกว.ที่จะส่งเสริมให้ครูวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาตัวเองไปสู่การทำงานวิจัยระดับท้องถิ่น ก่อนถ่ายทอดสู่นักเรียนในที่สุด

ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อ “ครูไทย” ก้าวสู่บันได “ครูมืออาชีพ” ด้วยงานวิจัยได้อย่างไร ? มีผู้ร่วมเสวนาคือ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผศ.ดร.ปัญญา การพานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี อ.ไพรรุ่ง งามสมพรพงศ์ โรงเรียนปรินส์รอแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ รศ.สุชาตา ชินะจิตร ผอ.ฝ่ายสวัสดิภาพสาธารณะ สกว. ผศ.ดร.สมชาย ธนสินชยกุล ผู้ประสานงานโครงการวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น สกว. และดำเนินรายการโดยนายภัทร จึงกานต์กุล

เมื่อเริ่มการเสวนา ดร.ชินภัทร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์และครูคณิตศาสตร์มาก และจำเป็นที่จะต้องหาครูที่มีความกระตือรือร้นมาทำงาน ซึ่งงานวิจัยที่ทำโดยครูในโครงการวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นที่ สกว.ให้การสนับสนุน ก็ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะนำไปสู่ปัญญาได้ สำหรับเวลา 1 ปีของรัฐบาลจะต้องมีการผลักดันนโยบายครูให้ได้เป็นรูปธรรม และจะมีการพิจารณาให้งานวิจัยท้องถิ่นของครูสามารถใช้ประกอบการพิจารณาวิทยฐานะเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพครูได้ด้วย แต่ในที่สุด ครูจะผ่านการประเมินหรือไม่นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเรียนเป็นหลักว่า เมื่อครูใช้กระบวนการวิจัยมาใช้ในงานสอนแล้ว นักเรียนจะเกิดเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์และมีการเรียนที่ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งถือเป็นตัวประเมินครูที่สำคัญ

จากนั้น รศ.สุชาตา กล่าวถึงปัญหาที่เห็นชัดของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของครูวิทยาศาสตร์ไทยว่า คือ การยึดติดกรอบเดิมๆ มากเกินไป จนเมื่อปล่อยให้คิดได้อย่างอิสระก็จะคิดอะไรไม่ออก แต่เมื่อครูได้เข้าร่วมโครงการวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ทางโครงการจะปล่อยให้ครูได้ลองหยิบเรื่องราวในท้องถิ่นซึ่งครูสนใจอยากรู้อยากทำขึ้นมาทำเป็นงานวิจัยก่อน เมื่อได้ความรู้แล้วจึงนำไปถ่ายทอดให้นักเรียนของตัวเอง โดยทางโครงการจะช่วยเติมเต็มข้อมูลหรือความรู้ด้านการวิจัยให้ ซึ่งจะต่างจากการเรียนการสอนแบบเดิมที่ครูจะเน้นการท่องจำเนื้อหาในบทเรียนมาสอน แต่ด้วยวิธีนี้ครูจะมีความเข้าใจเรื่องที่สอนมากขึ้น เมื่อสอนก็จะสอนได้อย่างเข้าใจ นอกจากนั้นยังทำให้เกิดการปลูกฝังจิตสำนึกรักท้องถิ่นแก่ผู้เรียนไปในตัวด้วย

ต่อประเด็นดังกล่าว ผศ.ดร.ปัญญา กล่าวว่า รู้สึกเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการกล่าวถึงปัญหาการเรียนการสอนแบบยึดติดกรอบ ซึ่งครูเป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ยกตัวอย่างเช่น การสอนเกี่ยวกับส่วนประกอบของดอกไม้ ที่ในหลักสูตรจะใช้ดอกชบาเป็นต้นแบบ ทำให้ครูสอนแต่ดอกชบา โดยมองข้ามดอกไม้ในท้องถิ่นไป เมื่อให้นักเรียนวิเคราะห์ส่วนประกอบของดอกไม้ในท้องถิ่น นักเรียนก็ทำไม่ได้ การศึกษาด้วยวิธีแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจึงทำให้นักเรียนมองว่าเนื้อหาที่เรียนเป็นเรื่องไกลตัว จนเกิดการละทิ้งถิ่น อาชีพของพ่อแม่ และความเป็นไทยไป แล้วกลับเห่อเหิมกับของที่มาจากต่างประเทศ

ขณะที่อีกปัญหาหนึ่งคือ แม้ว่ามหาวิทยาลัยราชภัฎที่กระจายอยู่ทั่วประเทศจะมีอุปกรณ์การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์อยู่มากมาย แต่ก็ไม่มีการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่ลงทุนไป เนื่องจากเยาวชนไทยไม่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ และการขาดการประชาสัมพันธ์ที่มากพอ มหาวิทยาลัยราชภัฎบางแห่งเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยผู้เชี่ยวชาญก็มีนักศึกษามาลงทะเบียนน้อยเกินไป ทางออกคือการสร้างวัฒนธรรมการวิจัยขึ้นในสถานศึกษาต่างๆ และมีการทำงานควบคุ่กันไปทั้งตัวผู้สอนและตัวผู้เรียน พร้อมๆ ไปกับการสร้างเครือข่ายกัลยาณมิตรที่ทำงานร่วมกันได้

ส่วน อ.ไพรรุ่ง ให้ความคิดเห็นว่า การที่ครูจะทำงานวิจัยได้ จะต้องถอดตัวเองออกมานอกกรอบก่อน มองการเรียนการสอนให้กว้างกว่าในหลักสูตร และมองอย่างวิเคราะห์ เมื่อมองก่อน คิดก่อน และรู้ก่อนแล้ว จึงจะถ่ายทอดสู่นักเรียนให้คิดเป็น วิเคราะห์เป็น และสร้างสรรค์ได้ ครูอาจมีส่วนช่วยในการเลือกสื่อที่นักเรียนสนใจมาช่วยสอนได้ เช่น การสื่อสารในรูปแบบการ์ตูน การประดิษฐ์ของเล่น ซึ่งแม้จะกินเวลามาก แต่ก็เรียนเสริมนอกเวลาทดแทนได้

แต่ปัญหาสำคัญคือ ผู้ปกครองที่เป็นห่วงลูกว่าไม่ได้มุ่งที่เนื้อหาวิชาการ ไม่ได้ใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไปเรียนกวดวิชา จึงเกรงจะเรียนไม่ทันลูกของคนอื่น ซึ่งต้องมีการสร้างความเข้าใจกันต่อไป ขณะที่ตัวครูเองต้องไม่ปิดกั้นตัวเอง และไม่คิดว่าเรื่องวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของครูวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพราะครูวิชาอื่นๆ ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้เช่นกัน

ด้าน ผศ.ดร.สมชาย แนะว่า การเข้ามาเป็นครูนักวิจัยได้นั้น ประการที่สำคัญที่สุดคือ “ตัวครูเอง” ว่ามีความพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กับลูกศิษย์หรือไม่ ซึ่งกระบวนการเรียนการสอนที่ดี การสอนให้นักเรียนได้เข้าใจก่อนที่จะเน้นให้เขาได้จำ การใช้กระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นจึงเหมาะสมกับกระบวนการเรียนการสอนดังกล่าวมาก

ท้ายที่สุด ดร.ชินภัทร เสนอว่า เนื่องจากในการเรียนการสอนแนวใหม่ หรือการเรียนการสอนแบบโครงการ เช่นที่โครงการวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นได้ทำอยู่นี้ จะทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติไปในเวลาเดียวกัน หากผู้บริหารและครูพิจารณาให้เกิดการเรียนการสอนและบูรณาการวิชาต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก และช่วยลดภาระงานที่ครูจะสั่งให้นักเรียนได้ นักเรียนจึงมีเวลามากพอที่จะเรียนรู้เนื้อหาทางวิชาการได้มากขึ้น ซึ่งโรงเรียนอาจจัดกวดวิชาให้นักเรียนเพื่อให้ไม่ต้องไปเรียนเพิ่มเติมจากโรงเรียนกวดวิชาอีก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเสวนา ได้มีการประชุมเพื่อหาแนวร่วมในโครงการระหว่างผู้บริหารโครงการวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น และผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ทั้งระดับกระทรวง ทบวง กรม มหาวิทยาลัย และโรงเรียน พบว่า โดยมากเห็นด้วยกับกรอบแนวคิดของโครงการว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม ทว่าไม่มีตัวแทนจากหน่วยงานใดที่ให้คำมั่นสัญญาอย่างชัดเจนได้ว่าจะช่วยผลักดันเรื่องดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติได้

ผู้บริหารจาก สกว. เปิดเผยว่า การประชุมผู้บริหารดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อหาแรงสนับสนุนจากผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาต่างๆ ซึ่งในส่วนของการทำวิจัยเป็นเรื่องที่ครูน้อยเป็นผู้ลงมือทำ ผู้บริหารเป็นเพียงผู้ให้การสนับสนุนเท่านั้น แต่ก็ยังไม่มีผู้บริหารรายใดที่ให้คำมั่นจริงจังได้ สกว.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ก็ถือว่าได้ทำอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว หากไม่มีหน่วยงานใดมาเชื่อมโยงการทำงานด้วย สกว.ก็จะยังคงทำงานของตัวเองต่อไป เชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อรากฐานแน่นแล้ว ดอกผลน่าจะปรากฏให้เห็นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น