xs
xsm
sm
md
lg

พบภาพ The Scream ที่ถูกโจรกรรม

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

ภาพเหมือนของ Munch
ในสมัยก่อน เวลาใครต้องการเงินมาก ๆ ในเวลาที่รวดเร็ว เขาใช้วิธีปล้นธนาคาร เพราะนั่นเป็นสถานที่ ๆ ใคร ๆ นำเงินไปเก็บ แต่ในสมัยนี้โจร (บางคน) ใช้วิธีปล้นพิพิธภัณฑ์แทน เพราะนี่เป็นสถานที่เก็บวัตถุที่ประมาณค่ามิได้ และบางชิ้นก็มีขนาดเล็กพอที่นำซุกซ่อนในกระเป๋า แล้วเดินหนีออกไปได้ ดังนั้น เมื่อพิพิธภัณฑ์ศิลปะมีภาพวาดของจิตรกรชื่อดัง เช่น Picasso, da Vinci หรือ Van Gogh ซึ่งมีมูลค่าพอ ๆ กับเครื่องบินจัมโบ 747 การรักษาความปลอดภัยของภาพ จึงเป็นเรื่องจำเป็นสุด ๆ เพราะภาพเหล่านี้ถูกนำออกแสดงให้ผู้ที่มาเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ดู

ด้วยเหตุนี้ คนทั้งโลกจึงไม่รู้สึกแปลกใจมากเมื่อโจรสองคน ซึ่งสวมถุงคลุมศีรษะได้บุกเข้าปล้นพิพิธภัณฑ์ Munch ในกรุง Oslo ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ขณะเวลา 11.10 น. โดยได้กระชากภาพ “The Scream” และภาพ “Madonna” ของ Munch หลบหนีไปอย่างอุกอาจ หลังจากที่พิพิธภัณฑ์เปิดทำการได้ชั่วโมงเศษ ๆ

การสูญเสียภาพ “The Scream” ที่ยิ่งใหญ่มูลค่า 3,800 ล้านบาท และเป็นภาพที่ผู้คนรู้จักดีที่สุดภาพหนึ่งของโลก ทำให้ทุกคนในวงการศิลปะรู้สึกเจ็บปวด จนอยากหวีด กรีดร้องออกมาเหมือนคนในภาพที่ Munch บรรจงวาด

ผลการโจรกรรมครั้งนั้นทำให้พิพิธภัณฑ์ Munch ต้องปิดทำการ 9 เดือน เพื่อติดตั้งระบบความปลอดภัยใหม่ และเมื่อภาพทั้งสองนี้ไม่มีประกันการโจรกรรม (เพราะต้องเสียค่าประกันแพง) ชาวนอร์เวย์ทั้งประเทศจึงรู้สึกเสียดาย และเสียใจกับการสูญเสียภาพของ Munch ผู้เป็นจิตรกร Impressionism ที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์

Edvard Munch เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2406 ที่เมือง Loyten ในนอร์เวย์ตอนใต้ เมื่ออายุ 5 ขวบ Munch ได้สูญเสียมารดา และได้เสียพี่สาวในอีก 9 ปีต่อมา ในวัยเด็ก Munch มีสุขภาพไม่แข็งแรง ล้มป่วยบ่อย ชีวิตของ Munch จึงมีแต่การสูญเสีย และความเจ็บปวด และนี่ก็คือ แรงกดดันที่ทำให้ Munch วาดภาพที่มีแต่ความทุกข์ และความเศร้าในเวลาต่อมา นอกจากจะสูญเสียแม่แล้ว บิดาของ Munch ก็มีส่วนในการกดดันชีวิตของ Munch ด้วย เพราะเป็นคนมีอารมณ์ปรวนแปร และคลั่งศาสนา

เมื่ออายุได้ 17 ปี Munch ได้ไปเรียนศิลปะที่ Oslo School of Art and Handicraft หลังจากเรียนที่นั่นได้ 2 ปี Munch ได้งานทำในสตูดิโอของ Christian Krohg ผู้วาดภาพตามสไตล์ของ Gustave Courbet และ Edouard Manet

เมื่อ Munch อายุ 20 ปี ณ เวลานั้น จิตรกรนอร์เวย์เริ่มรู้จักศิลปะประเภท Impressionism ของจิตรกรฝรั่งเศสที่ถือว่า ความรู้สึกประทับใจครั้งแรก มีค่า ดังนั้น จิตรกรต้องแสดงความรู้สึกนั้น ๆ ให้ได้ โดยอาจต้องพึ่งพา แสง และเงา ที่ตาเห็น ดังนั้น Munch วัย 23 ปี จึงเดินทางไปปารีส เพื่อฝึกงาน และเมื่อได้รับทุนการศึกษา เขาก็ได้ศึกษาภาพวาดของ van Gogh, Gauguin, และ Toulouse - Lautrec และได้เดินทางท่องเที่ยวอิตาลีกับเยอรมนีด้วย

ในปี 2435 Munch ได้รับเชิญให้นำผลงาน 50 ชิ้นไปแสดงที่ Kunstler - verein ในกรุง Berlin ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกไม่พอใจเพราะคิดว่า ภาพที่นำออกแสดงเป็นภาพสาธารณะ จนงานแสดงต้องปิดฉากในช่วงเวลานั้น Munch ได้เริ่มสนใจปรัชญา “Frieze of Life” ซึ่งเป็นบทนิพนธ์ที่เกี่ยวกับชีวิตความรัก และความตาย จนทำให้ Munch มีความคิดว่า จิตรกรและนักประพันธ์ที่สร้างสรรค์ผลงานต่างก็มีแนวคิดที่คล้ายกัน คือ มุ่งแสดงความขัดแย้งระหว่างเพศ และปัญหาเพศ โดย Munch ได้ใช้ภาพวาดแสดงความไร้พลังในการต่อสู้ของบุคคลยามเผชิญความรัก และความตายด้วยสีเข้ม และลายเส้นที่แสดงอารมณ์รุนแรง

เมื่ออายุได้ 45 ปี Munch มีอาการโรคประสาทเพราะติดสุรา และมีปัญหาด้านความรักร่วมเพศ จนต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโรคจิตในฝรั่งเศส แต่ก็ยังวาดภาพต่อไป และนำภาพออกแสดงที่กรุง Oslo ซึ่งทำให้ประสบความสำเร็จมาก จน Munch เป็นจิตรกรชาวนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียงที่สุด

เมื่อโลกรู้จักสิ่งประดิษฐ์ ที่เรียกว่า ภาพยนตร์ Munch รู้สึกสนใจภาพที่มีการเคลื่อนไหว เขาจึงทุ่มเทความพยายามวาดภาพให้มีการเคลื่อนไหวในตัว โดยการสเกตช์เร็วๆ และในบั้นปลายชีวิต Munch หมกมุ่นกับความขัดแย้งระหว่างความชรากับความเยาว์วัย ซึ่งเขาก็ได้แสดงออกด้วยภาพ Between the Clock and the Bed, และภาพ Self Portrait เป็นต้น

Munch จากโลกไปในเดือนมกราคม 2487 ขณะอายุ 80 ปี และถึงวันนี้โลกรู้จัก Munch ในฐานะจิตรกรผู้วาดภาพที่แสดงอารมณ์รุนแรง อารมณ์เครียด หรืออาการประสาทที่เกิดจากความกดดัน หรือการทรมานได้ดีที่สุดคนหนึ่ง ดังจะเห็นได้ชัดจากภาพ “The Scream” ที่ท้องฟ้ามีสีแดงเลือด และคนที่ยืนหวีดร้องอย่างโหยหวน เพราะความตึงเครียด จนสามารถบีบคั้นความรู้สึกของคนดูภาพได้อย่างประทับใจไม่รู้ลืม

ทุกวันนี้ผลงานของ Munch มีอิทธิพลต่อจิตรกรชาว Scandinavia และเยอรมัน จนทำให้ Munch เป็นจิตรกร Impressionist ที่ยิ่งใหญ่ขนาดน้องๆ van Gogh

และเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมานี้ กรมตำรวจแห่งชาติของนอร์เวย์ได้ออกแถลงการณ์ว่า ได้พบภาพ “The Scream” และ “Madonna” แล้ว โดยยืนยันเพียงว่า ไม่ได้จ่ายเงินใด ๆ แต่ประการใดเลย

ถึงสังคมนอร์เวย์จะไม่กระจ่างในเหตุการณ์หวนกลับคืนรังของ The Scream ก็ตาม แต่ทุกคนก็ยินดีที่ภาพวาดทั้งสองอยู่ในสภาพค่อนข้างดีมาก โดยมีรอยบอบช้ำเล็กน้อย ซึ่งต้องได้รับการบูรณะให้คุ้มกับราคา 6,000 ล้านบาทของภาพครับ
The Scream
Madonna
The Night Wanderer
Despair
Girls on the Bridge
กำลังโหลดความคิดเห็น