เอเจนซี – มาเลเซียเตรียมส่งแพทย์วัย 34 ปีขึ้นแท่นเป็นนักบินอวกาศคนแรกของประเทศที่เดินทางไปกับ “โซยุซ” สู่สถานีอวกาศนานาชาติ ในเดือนกันยายนปีหน้า พร้อมโชว์ลีลาชง “ชาชัก” เครื่องดื่มพื้นเมืองเสือเหลืองเลื่องชื่อบนอวกาศ เพื่อทดสอบทางทฤษฎีฟิสิกส์ และโปรโมตวัฒนธรรมไปในตัว
วันนี้ (4 ก.ย.) อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้ประกาศให้ชีคห์ มุสซาฟาร์ ชูคอร์ (Sheikh Muszaphar Shukor) แพทย์วัย 34 ปี เป็นผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักบินอวกาศคนแรกของประเทศท่ามกลางผู้สมัครหลายหมื่นคน โดยมีฟาอิซ คาลีด (Faiz Khaleed) ทันตแพทย์วัย 26 ปีได้รับเลือกให้เป็นนักบินอวกาศสำรอง ซึ่งนายบันดาวีได้อวยพรให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงของมาเลเซีย ให้ปรากฏในเวทีระหว่างประเทศ
"ผมภาคภูมิใจมาก ที่ผ่านมาภาวนาให้ได้รับคัดเลือก เพราะเป็นความฝันตั้งแต่ 10 ขวบที่จะได้ออกไปท่องอวกาศตามตัวละครเรื่องโปรดอย่างสตาร์เทร็กและสตาร์วอร์ส" ว่าที่นักบินอวกาศคนแรกของมาเลเซียกล่าวอย่างตื่นเต้น ส่วนพ่อของเขาก็เผยว่า แม้การเดินทางครั้งนี้จะเสียงอันตราย แต่ก็ยินดีที่ที่ลูกชายได้ทำตามที่ฝัน
ทั้งชีคห์ มุสซาฟาร์ และฟาอิซ จะเข้าเก็บตัวฝึกเป็นเวลา 1 ปี ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เพื่อเตรียมการปฏฺบัติตัวบนอวกาศ และฝึกซ้อมการทดลองต่างๆ ซึ่ง กำหนดการเดินทางไปกับยานโซยุซ จะมีขึ้นในวันที่ 2 กันยายนปีหน้า เป็นช่วงที่มาเลเซียจะฉลองเอกราชครบ 50 ปี พร้อมกับการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างมาเลเซียและรัสเซียครบ 40 ปี
นอกจากว่าที่นักบินอวกาศคนแรกของประเทศจะต้องเตรียมตัวแล้ว ฮานิฟฟ โอมาร์ (Haniff Omar) หัวหน้าโครงการคัดเลือกนักบินอวกาศของมาเลเซีย เปิดเผยว่า เขาจะต้องฝึกซ้อมชง “ชาชัก” หรือ เตห์ ตาเระ (teh tarik) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มขึ้นชื่อของมาเลย์ เพื่อไปชงบนห้วงอวกาศนับเป็นการทดลองทางด้านฟิสิกส์อย่างหนึ่ง
การชงชาชักนั้นไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ เพราะวิธีการถ้าไม่มีเทคนิคดีพออาจจะถูกน้ำร้อนลวกได้ โดยเสน่ห์ของชาชักคือการเทน้ำชานมร้อนๆ สลับไปสลับมาระหว่างถ้วย 2 ใบ ยิ่งสามารถเทชาให้ห่างกันเป็นสายยาวๆ ได้ยิ่งเป็นลีลาที่ล้ำเลิศ ขนาดบนโลกมีแรงดึงดูดยังอาจเกิดอันตรายกับมือใหม่ที่ไม่คล่องได้ แล้วยิ่งถ้าสภาพไร้น้ำหนักบนอวกาศจะควบคุมทิศทางน้ำร้อนเหล่านั้นได้อย่างไร ซึ่งเป็นโจทย์ที่ว่าที่นักบินอวกาศคนแรกของมาเลเซียต้องจัดการ
“เตห์ ตาเระเป็นสัญลักษณ์ของมาเลเซีย เป็นความคิดที่ดีที่จะนำขึ้นไปชงขณะอยู่ที่สถานีอวกาศ ทั่วโลกจะได้รู้จักวัฒนธรรมของเรา และแน่นอนว่าวิธีการชงชาในที่แบบนั้นจะทำให้ทุกคนจับตามอง” ฟาอิซนักบินสำรองกล่าว
มาเลเซียได้ยื่นข้อเสนอแก่รัสเซียเมื่อ 3 ปีก่อน ในระหว่างการซื้อขายเครื่องบินขับไล่มูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยนอกจากรัฐบาลมาเลเซียจะจ่ายเงินเพื่อให้ได้เครื่องบินขับไล่แล้ว ยังขอให้รัสเซียส่งชาวมาเลย์ขึ้นไปสัมผัสกับสถานีอวกาศนานาชาติสักครั้งหนึ่ง
จากนั้นชาวมาเลย์เกือบ 12,000 รายแห่กันสมัครเข้าร่วมโครงการ มีทั้งชายและหญิง 894 คนที่ผ่านการคัดเลือกในขั้นแรก และคัดต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งชีคห์ มุสซาฟาร์ แพทย์และอาจารย์ฝึกสอนในมหาวิทยาลัยแห่งชาติ (National University of Malaysia) ได้รับการคัดเลือก และชื่อของเขาจะบันทึกลงในประวัติศาสตร์มาเลเซียอีก 1 ปีข้างหน้าในฐานะนักบินอวกาศคนแรกของชาติ