เด็กโคราชพัฒนา “ตู้ยาอัจฉริยะ” เจ้าตัวนักประดิษฐ์รุ่นเยาว์เผยสถิติผู้สูงอายุไทยเพิ่มขึ้น ทานยาหลายชนิดในมื้อเดียวกัน อาจหลงลืมไม่ทานยา ทานไม่ครบ หรือทานยาผิด ส่งผลเสียต่อร่างกาย ระบุตู้ยาดังกล่าวจะช่วยเตือนให้ผู้สูงอายุทานยาตรงเวลา ทานครบ และไม่พลาด ไม่ต้องหาคนคอยดูแล ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น
เคยบ้างไหม? ที่จะลืมทานยาที่หมอสั่ง ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีอายุสักหน่อยแล้ว ก็อาจจะหลงลืมทานยาตามเวลาได้ง่าย หรือบางทีก็อาจทานยาไม่ครบและทานยาผิด ทำให้รักษาโรคไม่หายขาด หรือบางทีก็มีอาการแย่ลงกว่าเดิม จะดีไหม? ถ้าเราจะมีคนคอยเตือนเราให้รับประทานยาได้ไม่ขาด ไม่เกิน และไม่พลาด !!?
ด้วยความห่วงใยนี้ นายสรุจเทพ เผื่อนงูเหลือม หรือ “ป่าน” นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จึงประดิษฐ์ “ตู้ยาอัจฉริยะ” ขึ้น ด้วยทักษะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมชุดอุปกรณ์เก็บยา ภายใต้การให้คำแนะนำของอาจารย์นิพนธ์ สมัครค้า
ล่าสุด โครงงานชิ้นดังกล่าวได้รับรางวัลที่ 3 การประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ของสถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ปีล่าสุดมาได้ ถือเป็นกำลังใจก้าวแรกของการเดินทางไปสู่นักประดิษฐ์มืออาชีพในอนาคต
ป่าน บอกว่า สาเหตุที่ต้องพัฒนาตู้ยาอัจฉริยะขึ้นมาก็เพราะว่า นับวันตัวเลขผู้สูงอายุในบ้านเราก็ยิ่งจะเพิ่มสูงขึ้น บางคนป่วยหลายโรค ต้องทานยาหลายชนิด บางทีอาจทานยาไม่ตรงเวลา ไม่ครบ หรือผิดพลาด ทำให้มีผลเสียตามมา เขาจึงสร้างตู้ยานี้ขึ้นโดยใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์มาทำเป็นระบบอัตโนมัติ ตู้ยาอัจฉริยะจึงมีประโยชน์ที่ช่วยป้องกันปัญหาข้างต้นได้ อีกทั้งไม่ต้องให้คนอื่นมาคอยดูแลการทานยา จึงสะดวกสบายมากขึ้น
ทั้งนี้ หากมองแวบแรก รูปร่างหน้าตาของตู้ยาอัจฉริยะอาจดูไม่สะดุดตาเท่าไรนัก เพราะดูเหมือนกับตู้ยาทั่วไป กระนั้นมันก็แฝงไปด้วยความพิเศษในตัวมันเอง ด้วยการติดตั้งแผงวงจรควบคุมการทำงาน 3 ชุด ด้วยกันคือ 1.แผงวงจรควบคุมไมโครคอนโทรลเลอร์ ใช้ในการตรวจจับการหยิบขวดยา 2. แผงวงจรควบคุมวงจร ใช้บันทึกเสียงเตือนทานยาและเตือนหากหยิบยาผิด และ 3.แผงวงจรควบคุมเวลา ใช้บันทึกเวลาที่ผู้ใช้ตั้งและบันทึกเวลาในปัจจุบัน
จากแผงวงจรทั้ง 3 นี่เอง ที่ทำให้ตู้ยาอัจฉริยะที่ใช้เวลาพัฒนา 2 เดือนกับเงินสนับสนุนอีก 5,000 บาท สามารถเตือนให้ผู้ใช้ ซึ่งน่าจะเป็นผู้สูงอายุ ได้รับประทานยาตรงเวลา ครบจำนวน และไม่ใช้ยาผิดได้ โดยแบ่งยาออกเป็นมื้อๆ 3 มื้อต่อวัน คือ เช้า กลางวัน และเย็น รวมถึงก่อนเข้านอน หากถึงเวลามื้อไหนที่ต้องทานยาแล้ว ตู้ยาอัจฉริยะก็จะส่งเสียงเตือน (เป็นเสียงของผู้ใช้เองหรือคนใกล้ชิด) เพื่อเตือนให้ทานยาในขวดพลาสติกบรรจุยาที่ตรงกับมื้อยานั้นๆ ที่ตอนนี้จะเก็บได้เฉพาะยาเม็ดเท่านั้น จึงมีปัญหาเมื่อต้องเก็บยาน้ำอยู่บ้างสักหน่อย
อย่างไรก็ดี หากผู้ใช้หยิบขวดยาถูกต้องตามมื้อ ตู้ยาอัจฉริยะก็จะบอกว่าหยิบขวดยาได้ถูกต้องแล้ว แต่หากหยิบขวดยาผิด มันก็จะส่งเสียงเตือนอีกว่าหยิบขวดยาผิด ทำให้ผู้ใช้ไม่หลงทานยาผิด นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังสามารถตั้งเวลาการทานยาได้ตามต้องการ ทั้งแบบเช้า-กลางวัน-เย็น-ก่อนนอน หรือแบบข้ามมื้อ เช้า-ก่อนนอน ได้ด้วย
เมื่อต้องการใช้งาน ผู้ใช้งานต้องเสียบปลั๊กตู้ยาอัจฉริยะเข้ากับไฟบ้าน ซึ่งแปลงลงมาให้เหลือเพียง 12 โวลท์ ไว้ตลอดเวลา จนกว่าจะทานยาชุดนั้นๆ จนหมด เฉลี่ยกินไฟวันละ 1 บาท หรือ 30 บาทต่อเดือน ซึ่งก็คุ้มค่ากับสุขภาพที่ดีของผู้ใหญ่ในครอบครัวที่ได้รับกลับมา
ทว่า ป่าน ก็ยอมรับว่า ตู้ยาอัจฉริยะนี้ยังอาจไม่ใช่ผลงานที่สมบูรณ์แบบนัก ยังต้องพัฒนาแก้ไขต่อไปเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น สมกับคำแนะนำและแรงเชียร์ให้พัฒนาต่อไปของผู้ใหญ่หลายท่าน เช่น ข้อแนะนำที่ว่าควรพัฒนาต่อไปให้สามารถเตือนทานยาให้กับผู้ใช้ได้มากกว่า 1 คนที่ทานยาต่างชนิดกัน, สามารถเตือนให้ทานยาแยกเป็นก่อนและหลังอาหารได้, สามารถบรรจุยาน้ำได้สะดวก หรือแม้แต่การแก้ปัญหาไฟฟ้าดับที่พลอยจะทำให้ตู้ยาอัจฉริยะใช้การไม่ได้ด้วย
ป่าน บอกว่า จากคำแนะนำดังกล่าว เขาเองก็จะน้อมรับไปปรับปรุงผลงานต่อไป รวมทั้งตัวเขาเองยังอยากพัฒนาให้ตู้ยาอัจฉริยะสามารถส่งข้อมูลให้ลูกหลานของผู้ใช้ได้ทราบผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยว่า ผู้ใหญ่ในบ้านได้ทานยาตรงเวลา ครบ หรือถูกต้องแล้วหรือไม่ด้วย
“ตู้ยาอัจฉริยะ” ผลงานของป่าน เด็กหนุ่มวัยละอ่อนรายนี้ จึงเป็นอีกชิ้นงานสร้างสรรค์ที่ดูมีอนาคตและน่าติดตามดูพัฒนาการกันต่อไป เพราะนอกจากจะเป็นผลงานที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงแล้ว หากมีการส่งเสริมและสนับสนุนที่ดีก็ยังสามารถผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย
