"พี่มอส-บัวชมพู" ชวนเที่ยวสัปดาห์วิทย์ อยากให้น้องเป็นนักวิทยาศาสตร์กันเยอะๆ

ดร.ประวิช รัตนเพียร รักษาการ รมว.วิทยาศาสตร์ (ซ้าย) นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทย์ มอส และบัวชมพู กำลังแถลงถึงการจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งนักวิทยาศาสตร์เด็กน้อย โดยมีหุ่นยนต์ต้อนรับ วากามารุ สีเหลืองยืนอยู่เบื้องหน้า

"พี่มอส" ชวนน้องๆ เที่ยวสัปดาห์วิทย์ อยากให้เด็กเป็นนักวิทยาศาสตร์เยอะๆ และอยากเห็นเด็กพัฒนาหลายๆ ด้าน ส่วน "บัวชมพู" อยากผู้ใหญ่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่ใช่ความรู้แค่ในห้องเรียน

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดตัว “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” และ “บัว-บัวชมพู ฟอร์ด” 2 พรีเซนเตอร์งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติประจำปี 2549 ซึ่งจะขึ้นระหว่าง 11-22 ส.ค. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และจะมีการจัดแสดงนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ทั้งจากไทยและต่างประเทศ อาทิ เครื่องตรวจแผ่นดินไหวเครื่องแรกของโลก อ่างล้างหน้าจักรพรรดิอายุราว 1,000 ปี รวมถึง “พาโร” (PARO) หุ่นยนต์แมวน้ำซึ่งเคยสร้างสีสันในปีที่ผ่านมา

“มอส” กล่าวถึงงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน ว่าอยากให้เด็กๆ มาเที่ยวงานกันเยอะๆ เพราะจะได้เป็นนักวิทยาศาสตร์กันมากๆ และอยากเห็นเด็กๆ ได้พัฒนาความรู้ในหลายด้าน และมาเปิดหู-เปิดตา ส่วนคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ถูกปิดกั้นความรู้ก็จะได้มาเห็นความก้าวหน้าหลายๆ อย่าง ซึ่งโดยส่วนตัวเขาชอบเครื่องตรวจแผ่นดินไหวของจีนที่มีอายุกว่า 7,000 ปี

ทางด้าน “บัวชมพู” กล่าวว่าแม้จะเรียนมาทางด้านศิลปกรรม แต่ก็ดีใจที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ในงาน เพราะโดยส่วนตัวสนับสนุนงานที่เกี่ยวกับการศึกษาอยู่แล้ว และวิทยาศาสตร์ก็เป็นการศึกษาอีกรูปแบบหนึ่ง อีกทั้งไม่ใช่เฉพาะเด็กๆ ที่จะเที่ยวชมงาน ผู้ใหญ่-ผู้ปกครองก็มาได้ มาเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ความรู้ในห้องเรียน เช่น มาดูว่าหากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมาจริงๆ จะต้องเตรียมตัวอย่างไร

ขณะที่ ดร.ประวิช รัตนเพียร รักษาการ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งเพื่อเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” อีกทั้งเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในฐานะที่ทรงเป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” ซึ่งการจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ปีนี้ได้ชูแนวคิดหลัก “ตามรอยพ่อ...ต่อรอยคิด” ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนักวิทยาศาสตร์ไทย อาทิ พระราชดำริเรื่องแก๊สโซฮอล์เมื่อกว่า 20 ปีก่อน นอกจากนั้นการจัดงานครั้งนี้ยังจะเป็นการกระตุ้นความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของคนไทยด้วย โดยมีด.ญ.ซายน์ และด.ช.เทคโน เป็นสัญลักษณ์ของงาน

ไฮไลท์ของการจัดงานในปีนี้ ได้แก่ การโชว์ตราสัญลักษณ์การฉลองสิริราชสมบัติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชย์สมบัติครบ 60 ปี ของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติ โดยการใช้คลื่นแสงซินโครตรอนในย่านรังสีเอ็กซ์ทำให้เกิดภาพสามมิติ ขนาด 3 มิลลิเมตร ซึ่งภายในงานยังจะมีการจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ ด้วย ทั้งอัคคีภัย, แผ่นดินไหว ตลอดจนพายุและดินถล่ม ผ่านระบบการจำลองเสมือนจริง “4 ดี แอนิเมชั่น” (4D Animation) ฝีมือการผลิตของคนไทย

ขณะเดียวกันมีการจัดแสดงนวัตกรรมจีนอายุกว่า 7,000 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและเทคโนโลยีของชาติตะวันออก อาทิ “โอ่งวัดแผ่นดินไหวโบราณ” ที่มีมังกรคาบแก้ว 8 ทิศ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะทำให้ลูกแก้วตกลงในปากกบโลหะที่รองรับอยู่ทั้ง 8 ทิศ ทำให้วัดได้ว่าเกิดแผ่นดินไหวในทิศใด “อ่างกังวานลายมังกร” หรือ “อ่างล้างหน้าจักรพรรติ” ซึ่งอาศัยการสั่นสะเทือนจากการขัดถูบริเวณที่จับและทำให้น้ำกระเซ็นออกมาคล้ายน้ำพุ เป็นต้น

อีกทั้งพระเอกของงานยังได้แก่ แอโรเจล (Aerogel) วัสดุที่เบาที่สุดในโลกจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐฯ (นาซา) ที่มีลักษณะเป็นของแข็ง โปร่งแสงคล้ายเมฆ เพราะมีส่วนประกอบ 99.8% เป็นอากาศ โดยโครงสร้างที่เป็นเสมือนตาข่ายซิลิกาอนุภาคนาโนถักสานอยู่ ทำให้ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีเนื่องจากมีจุดหลอมเหลวสูงถึง 1,200 องศาเซลเซียส จึงมีการประยุกต์ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนของกระสวยอวกาศแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการแสดงภาพเคลื่อนไหว 4 มิติ เพื่อสัมผัสประสบการณ์อุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น ร่วมถึงทดลองร่วมประสบการณ์กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในห้องจำลองเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีหุ่นยนต์สุดล้ำจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ “เปเปโร” (Pepero) หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเด็ก, “วากามารุ” (Wakamaru) หุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ต้อนรับหรือเป็นผู้ดูแลบ้านได้ และ “พาโร” หุ่นยนต์แมวน้ำเพื่อการบำบัด ซึ่งปีนี้มีด้วยกันถึง 11 ตัว

สัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 ส.ค. ณ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยสามารถเข้าชมนิทรรศการต่างๆ เหล่านี้ได้ตามเวลาต่อไปนี้ วันศุกร์ที่ 11 ส.ค. เข้าชมงานได้เวลา 14.00-21.00 น., วันเสาร์ที่ 12 ส.ค. และวันจันทร์ 21 ส.ค.เข้าชมงานได้เวลา 9.00-21.00 น. และส่วนวันอื่นๆ เข้าชมงานได้เวลา 09.00-18.00 น.

สำหรับผู้สนใจมาร่วมงาน สามารถเข้าชมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามวันละเวลาดังกล่าว ทั้งนี้จะมีการจัดรถรับ-ส่งฟรีจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ไปถึงไบเทค บางนา และผู้ที่โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีอ่อนนุชสามารถต่อรถโดยสารที่ได้จัดไว้เพื่อไปร่วมงานได้ฟรี หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายจัดงานที่เบอร์โทรศัพท์ 02577-9999 ต่อ 1829, 1830
ดร.ประวิช กำลังสาธิตการใช้อ่างล้างหน้าจักรพรรติ โดยมีมอสและบัวชมพูพรีเซ็นเตอร์หลักของงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ประจำปีนี้ พร้อมด้วยดาราอื่นๆ ชมอยู่เบื้องหลัง