xs
xsm
sm
md
lg

เยือนสวรรค์ใต้น้ำที่ "หว้ากอ" สาระใกล้ตัวกับแหล่งความรู้ที่ไม่ไกลเกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมาครั้งใด แทบร้อยทั้งร้อยคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เมืองยอดนิยมอย่างหัวหิน อ่าวมะนาว และเขาตะเกียบก็ว่าได้ ทว่า ประจวบคีรีขันธ์ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เราสามารถเสพทั้งสาระและบันเทิงได้ในเวลาเดียวกันรวมอยู่ด้วย หรือหากจะมีเวลาอยู่หน่อยก็อาจจัดรวมไปในทริปนั้นๆ ซะเลย ก็ไม่ทำให้ขัดอารมณ์การพักผ่อนแต่อย่างใด สถานที่ที่จะแนะนำแห่งนี้ก็คือ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ (อวจ.) นั่นเอง

ประวัติอันเป็นที่มาสำคัญของ อวจ. เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 หรือกว่าร้อยปีก่อน เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงใช้พระอัจฉริยภาพคำนวณการเกิดสุริยุปราคาที่พาดผ่านประเทศไทย หรือประเทศสยามในขณะนั้นได้ล่วงหน้าถึง 2 ปี แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางดาราศาสตร์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ จนเป็นที่มาของมติการก่อตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ.2532 สถานที่แห่งนี้จึงประหนึ่งถูกเนรมิตด้วยมนต์ขลังแห่งวิทยาศาสตร์ก็ไม่ปาน

หากกล่าวถึงไฮไลท์สำคัญของ อวจ.ในเวลานี้ คงหนีไม่พ้น “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ” ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปี พ.ศ.2547 โดยให้บริการทุกวันระหว่าง 9.00 น.-16.00 น. ด้วยงบประมาณการก่อสร้างและจัดนิทรรศการราว 200 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,600 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งเป็น 6 ส่วนนิทรรศการด้วยกัน ได้แก่ 1.อัศจรรย์โลกสีคราม 2.จากขุนเขาสู่สายน้ำ 3.สีสันแห่งท้องทะเล 4.เปิดโลกใต้ทะเล 5.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และสุดท้าย 6.กิจกรรมปฏิบัติการ

ความประทับใจแรกของผู้มาเยือนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ เริ่มต้นที่การต้อนรับขับสู้ของฝูงโลมาจำลองหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่เป็นประหนึ่งโลโก้ของสถานที่แห่งนี้ ชนิดต้องกดชัตเตอร์เก็บภาพประทับใจไว้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง จากนั้นเมื่อเดินเข้าไปในตัวอาคารก็จะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ที่ตั้งของส่วนนิทรรศการแรก ที่จัดแสดงความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐานด้วยสื่อมัลติมีเดีย อาทิ โลกและสิ่งมีชีวิตมาจากไหน เกิดมาได้อย่างไร โลกเรามีขนาดเท่าใด อายุมากแค่ไหน และอยู่ในอันดับที่เท่าไรในระบบสุริยะจักรวาล ฯลฯ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ชนิดทะลุปรุโปร่ง ทั้งในด้านตำแหน่งที่ตั้ง ภูมิประเทศ และจังหวัดติดต่อ ฯลฯ โดยในวันที่เราไปเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ ก็เป็นวันเดียวกับที่น้องๆ อีกกว่าร้อยชีวิตจากโรงเรียนมัธยมนพคุณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้พอดี เราจึงได้สัมผัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแทบทุกกลุ่มอายุ ไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัว ผู้สูงอายุ กลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิง หรือแม้แต่เด็กนักเรียนตัวน้อยๆ ที่คอยวิ่งซ้ายป่ายขวา ถามนู่นนี่อยู่ตลอดเวลา รวมถึงภาพสเกตซ์พันธุ์ปลาที่น้องๆ ชื่นชอบ

พอเข้ามาในส่วนที่ 2 เราก็จะพบกับตู้ปลาขนาดใหญ่กับบรรยากาศเสมือนจริงของแหล่งที่อยู่-แหล่งที่พักพิงของสัตว์น้ำจืดนานาชนิด ตั้งแต่ปลาน้ำจืดทั่วไปที่พบเห็นกันบ่อยๆ จนถึงปลาหายาก ทั้งที่มีเกล็ดและไม่มีเกล็ด อาทิ ปลาเสือ ปลาฉลามน้ำจืด ปลาแขยงธง และปลาบึก แหวกว่ายไปมาอย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางระบบนิเวศจริงตามธรรมชาติที่มีทั้งสาหร่ายและรากไม้แทรกตัวอยู่

จากส่วนนี้ เราก็เดินไปยังส่วนต่อไปซึ่งได้จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลนานาชนิด ที่ธรรมชาติบรรจงแต่งแต้มสีสันให้ฉูดฉาดแสบตา แต่ก็ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ สมกับเป็นสีสันแห่งท้องทะเล ท่ามกลางหญ้าทะเล สาหร่ายทะเล ปะการังหลากสี ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นปลาการ์ตูนตัวน้อยที่น้องๆ เรียกกันชินปากแล้วว่า “ปลานีโม” ชื่อที่มาจากภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดัง “Finding Nemo” หรือแม้แต่ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้าที่มีชื่อในการ์ตูนเรื่องเดียวกันว่า “ดอร์รี่” รวมถึงปลากะพงขาว, ปลาม้าลาย และปลาสลิดหินฟ้า นอกจากนี้ยังมีบริการห้องฉายภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวระบบนิเวศทะเลหว้ากอ และสารคดีสัตว์น้ำมากมายหลายเรื่องราว เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความพิศวงของสัตว์น้ำด้วย

ส่วนจุดที่ดูยิ่งใหญ่และน่าสนใจที่สุดในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ คงหนีไม่พ้น “บิ๊กแทงก์” (Big Tank) ที่ดูอลังการสมชื่อ กับตู้ปลาทรงกระบอกขนาดใหญ่หลายคนโอบสูงกว่า 3 เมตร ที่เต็มไปด้วยปลาทะเลน้ำลึกแหวกว่ายไปมา อาทิ ปลาฉลาม, ปลากระเบนลายจุด, ปลาโฉมงาม, ปลานกขุนทองหัวโหนก และแมงกะพรุน รวมถึงภาพทะเลในมุมมองใต้น้ำ ถือเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจได้ไม่มีเบื่อ ซึ่งหากจะดูให้ครบถ้วนแล้วละก็จะต้องใช้เวลานานนับชั่วโมงทีเดียว

นิทรรศการในส่วนนี้ยังรวมถึงทัชพูล 1 (Touch Pool 1) ที่เราจะได้สัมผัสกับสัตว์ทะเลที่มีรูปร่างแปลกตาอีกหลายชนิด เช่น เม่นทะเล แมงดาทะเล และปูเสฉวน ถัดจากนั้นยังมีการแสดง "อุโมงค์ปลา" (Tunnel) ซึ่งมีรูปแบบเหมือนอยู่ใต้ทะเล เราจึงได้เรียนรู้ชีวิตสัตว์น้ำในถิ่นอาศัยต่างๆ ใต้ทะเล และได้รับประสบการณ์ตรงที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยที่ปลาหลายชนิดกรีดกรายแหวกว่ายไปตามสายน้ำ ข้ามศีรษะเราไปชนิดไม่สนใจสายตาที่จ้องมอง พร้อมทั้งโชว์พิเศษสาธิตการให้อาหารปลาในบิ๊กแท็งก์และอุโมงค์ปลาโดยนักประดาน้ำ เวลา 11.00 น. และ 14.00 น. ทุกวัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในอีกด้านหนึ่งของพื้นที่การจัดนิทรรศการ ยังมีการรวบรวมแบบจำลองพันธุ์ปลาแปลกๆ เก็บไว้อีกกว่า 100 ชนิด พร้อมเกร็ดความรู้ต่างๆ เช่น ปลาโบราณอย่างซีลาแคนธ์ (Caelacanth) ที่อยู่ร่วมสมัยกับไดโนเสาร์ โดยนิทรรศการส่วนสุดท้าย “กิจกรรมปฏิบัติการ” ยังมี "ทัชพูล 2"  (Touch Pool 2) แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่เราจะสามารถเข้าไปสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ทั้งดาวทะเล, แมงดา, ปลิงทะเล และเม่นทะเล ซึ่งหากผู้ใดสงสัยหรือสนใจข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมก็ยังมีบริการอื่นๆ เช่น บริการสืบค้นข้อมูลให้ช่วยหาคำตอบให้ แถมด้วยฐานการประมวลผลการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยการใช้ระบบสัมผัสโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ หากทำได้เกิน 80% ก็จะได้รับเกียรติบัตรจากทางพิพิธภัณฑ์เป็นของที่ระลึกกลับบ้านไปด้วย

น้องๆ นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมนพคุณที่เราไปพบประมาณท่าทางบอกกับเราว่า รู้สึกติดใจการเรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างนี้มาก ถ้าเลือกได้ก็คงอยากใช้ที่นี่เป็นห้องเรียนประจำไปเลย เพราะนอกจากจะสนุกสนานและได้สัมผัสกับธรรมชาติที่เป็นของจริงแล้ว ยังจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศชายทะเลที่แสนจะสดชื่นอีกด้วย

สุดท้ายนี้ เมื่ออิ่มอกอิ่มใจไปกับการเที่ยวชมสัตว์น้ำในพิพิธภัณฑ์อย่างเต็มอิ่ม หากเดินออกมาด้านนอกอาคาร เราก็จะพบกับร้านขายอาหารที่อร่อย สะอาด ราคาย่อมเยา ณ ประตูทางออก อีกทั้งอยู่ติดกับชายหาดของอ่าวหว้ากอ ซึ่งเราจะสามารถเดินทอดน่องไปได้อีกนานนับชั่วโมง เพื่อสูดกลิ่นอายน้ำเค็มให้เต็มปอดก่อนเดินทางกลับบ้าน หรือจะเยี่ยมชมส่วนอื่นๆ ของ อวจ.ต่อไปตามอัธยาศัยก็ไม่ว่ากัน

สำหรับผู้สนใจจะมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเดินทางและหาที่พักอย่างไร หรือแม้แต่การมาเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะและต้องการวิทยาการนำชม ก็สามารถแจ้งล่วงหน้าได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-3266-1726, 0-3266-1098 หรืออีเมลแอดเดรส waghor2411@hotmail.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.nfe.go.th/waghor ซึ่งการเดินทางไปยัง อวจ.สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว, รถโดยสารประจำทาง และรถไฟ เมื่อมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ ด้วยตัวเองแล้ว ก็จะทำให้ทราบเองว่า "หากไม่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วก็ยากที่จะคาดเดาความรู้สึกที่ได้มาสัมผัสได้"


คลิกที่ไอคอน Manager Multimedia
เพื่อรับชมภาพเพิ่มเติม


ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ ที่มีโลโก้สำคัญคือหมู่โลมาแหวกว่าย
นิทรรศการส่วนที่ 1 อัศจรรย์โลกสีคราม ที่น้องๆ จะเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านสื่อมัลติมีเดีย





กำลังโหลดความคิดเห็น