xs
xsm
sm
md
lg

7 นักบินอวกาศผู้สานฝัน “นาซา” พา “ดิสคัฟเวอรีบิน” อีกครั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักบินอวกาศ 7 ชีวิต ผู้สานฝัน “นาซากลับมาบิน” มีผู้บัญชาการเที่ยวบินซึ่งโชกโชนการบินในอวกาศเกือบ 1 พันชั่วโมง พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร พร้อมนักบินอวกาศหนึ่งเดียวจากองค์การอวกาศยุโรป และลูกเรือหญิงอีก 2 คน

ผู้บัญชาการเที่ยวบิน STS-121: สตีฟ ลินด์ซีย์ (Steve Lindsey)

สตีฟ ลินด์ซีย์ ชาวสหรัฐวัย 46 ได้รับมอบหมายงานให้บัญชาการลูกเรือ “ดิสคัฟเวอรี” เที่ยวบิน STS-121 สำหรับประสบการณ์ในการท่องอวกาศนั้น เขาเคยเป็นนักบินให้กับหลายเที่ยวบินอวกาศ เริ่มต้นที่เที่ยวบิน STS-87 ในปี 2540 จากนั้นได้ขยับขึ้นไปเป็นผู้บังคับการบินเที่ยวบิน STS-104 ในปี 2544 ทั้งนี้เขาใช้เวลาโคจรอยู่ในอวกาศแล้ว 896 ชั่วโมง 53 นาที (ประมาณ 37 วัน) และเป็นระยะทาง 15.4 ล้านไมล์ (ประมาณ 25 ล้านก.ม.)

ผู้บัญชาการเที่ยวบินล่าสุดของนาซาเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากโรงเรียนการบินสหรัฐ (U.S. Air Force Academy) และระดับมหาบัณฑิตทางด้านวิศวกรรมอากาศยานจากสถาบันเทคโนโลยีกองทัพอวกาศ (Air Force Institute of Technology) ทั้งนี้เขาสะสมชั่วโมงบินถึง 5,000 ชั่วโมง และขับเครื่องบินมากกว่า 50 ชนิด และทำงานทางด้านวิศวกรรมการบิน ก่อนจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนาซาโดยการถูกคัดเลือกในปี 2538 และกลายเป็นนักบินอวกาศในปีถัดมาด้วยคุณสมบัติที่เหมาะแก่การเป็นนักบิน

ลินด์ซีย์กล่าวไว้ว่า เขาไม่ต้องการจะเป็นนักบินอวกาศไปชั่วชีวิต แต่ในวัยเด็กเขาก็เคยฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศเช่นเดียวกับ นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong) จนกระทั่งโตขึ้นจึงอยากจะเป็นวิศวกรเช่นเดียวกับพ่อ ขณะเดียวกันเขาก็ชอบการบิน เพื่อจะให้ได้ทำในทั้งสองสิ่งที่ชอบ เขาจึงเลือกทำงานทดสอบเครื่องบิน หลังจากที่ได้ทำงานทางด้านวิศวกรรมการบินมา 10 กว่าปี

นักบินประจำเที่ยวบิน STS-121: มาร์ค เคลลี (Mark Kelly)

มาร์ค เคลลี ชาวสหรัฐฯ เคยได้รับภารกิจให้เป็นผู้ขับเคลื่อนยาน “เอนโดเวอร์” (Endeavor) และยังคงนั่งตำแหน่งนักบินประจำเที่ยวบิน STS-121 โดยเมื่อปี 2544 เขามีประสบการณ์ท่องอวกาศกับเที่ยวบิน STS-108 คิดเป็นชั่วโมงบินที่ได้อยู่นอกโลก 12 วัน ทั้งนี้การได้เป็นนักบินอวกาศคือฝันที่เป็นจริงของชายวัย 42 จากเมืองนิวเจอร์ซีย์ผู้นี้ เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศมาตั้งแต่เด็ก โดยผู้ที่จุดประกายความฝันเขาคือ อลัน เซฟพาร์ด (Alan Shepard) นักบินอวกาศคนแรกของสหรัฐฯ

ผู้ขับเคลื่อนเที่ยวบินล่าสุดของสหรัฐจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมและการขนส่งทางทะเล ด้วยเกียรตินิยมสูงสุด จากสถาบันการค้าทางทะเลสหรัฐ (U.S. Merchant Marine Academy) และจบปริญญาโททางด้านวิศวกรรมอากาศยานจาก โรงเรียนหลักสูตรนาวีสหรัฐ (U.S. Naval Postgraduate School) เขาได้ผ่านงานทางด้านการบินเกือบ 10 ปี ซึ่งเขาได้ผ่านชั่วโมงบินกว่า 4,000 ชั่วโมง กับเครื่องบินกว่า 50 ชนิด และผ่านการนำเครื่องบินและอากาศยานลงจอดมากว่า 375 เที่ยว ก่อนที่นาซาจะเลือกเขาไปทำงาน ทั้งนี้เขาใช้เวลา 2 สำเร็จการฝึกเป็นนักบินที่มีคุณภาพ

“มันเป็นทั้งความตื่นเต้น ความท้าทาย และโอกาสที่จะออกเดินทางไปจากโลกของเรา ที่เป็นสถานที่ซึ่งกรุณาต่อผมเสมอ และการเดินทางออกไปนอกโลกก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะได้ทำ มันคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นในอาชีพนี้ ซึ่งขับเคลื่อนผมให้เข้าไปหา มันยิ่งใหญ่มาก” เคลลี ตอบคำถามต่อแรงบันดาลที่ผลักดันให้เขากลายเป็นนักบินทั้งในภาวะปกติ และในยามเป็นนักบินอวกาศ

ผู้เชี่ยวชาญภารกิจพิเศษ : ไมเคิล ฟอสซัม (Michael Fossum)

ไมเคิล ฟอสซัม วัย 49 เป็นชาวสหรัฐ เติบโตจากเมืองเท็กซัส ในปฏิบัติการนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูแลเรื่องการสื่อสารแคปซูล (Capsule Communicator: CAPCOM) และเป็นครั้งแรกที่จะได้ขึ้นบินไปกับกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี

ในยุคอวกาศซึ่งสหรัฐกำลัง “บูม” กับปฏิบัติการนอกโลก จนกระทั่งสามารถส่งคนขึ้นไปเดินบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ ทำให้เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศ แต่เมื่อเข้าสู่วัยมัธยมเขาก็เปลี่ยนความคิด เนื่องจากเห็นว่าการเป็นนักบินอวกาศไม่ใช่อาชีพที่คนทั่วๆ ไปจะเป็นกันได้ และเขาก็เบนเข็มตัวเองเพื่อไปเป็นวิศวกรโดยหวังว่าจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ

ฟอสซัมทำงานให้กับนาซาในฐานะวิศวกรควบคุมระบบ โดยช่วงแรกได้รับผิดชอบในการประเมิน “โซยุซ” (Soyuz) ยานอวกาศของรัสเซีย ในการทำหน้าที่เป็นยานฉุกเฉินให้กับสถานีอวกาศ แล้วได้รับคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการด้านลูกเรือในการบิน (Flight Crew Operations Directorate) ต่อมาเขาก็ได้ทำงานในสำนักงานลูกเรือ และเป็นคณะกรรมปฏิบัติการฝ่ายภารกิจ (Mission Operations Directorate) ในขอบเขตของการประกอบชิ้นส่วน หลังจากนั้นได้เป็นฝ่ายสนับสนุนสำนักงานนักบินอวกาศ และผู้ช่วยทางเทคนิคให้กับปฏิบัติการกระสวยอวกาศ อีกทั้งเขายังได้รับผิดชอบเป็นวิศวกรทดสอบยานบินสำหรับใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติด้วย

ผู้เชี่ยวชาญภารกิจพิเศษ : ลิซา โนแวค (Lisa Nowak)

ลิซา โนแวค นักบินอวกาศวัย 43 ชาวสหรัฐจากวอชิงตัน ดีซี ได้รับภารกิจให้เป็นลูกเรือในเที่ยวบินนี้ ซึ่งเป็นเที่ยวบินจัดส่งเสบียงและอุปกรณ์สำหรับสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อทดสอบความปลอดภัยในการส่งเที่ยวบินนี้ เผยว่าเมื่อครั้งเป็นเด็กเธอได้ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ทางด้านอวกาศและได้เห็นนิทรรศการทางด้านอวกาศมากมาย บางเรื่องเกี่ยวกับปฏิบัติการอะพอลโล (Apollo) และเธอก็ได้เห็นว่าโครงการเริ่มต้นด้วยกระสวยอวกาศ เธอจึงคิดอยู่เสมอว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากหากเธอได้มีโอกาสในประสบการณ์นั้นบ้าง และเธอมักจะคิดว่าอะไรจะทำให้ได้รับโอกาสนั้น แต่เธอก็รู้ดีว่ามีผู้คนมากมายที่ใฝ่ฝันเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และเธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับโอกาสจริงๆ

หลังจากได้รับการฝึกหัดเป็นเวลา 2 ปี โนแวคก็มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำปฏิบัติการนี้ ทั้งนี้เธอเรียนจบปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมยานอวกาศจากสถาบันกองทัพเรือสหรัฐ (U.S. Naval Academy) และจบปริญญาโททางด้านวิศวกรรมอวกาศยาน จากโรงเรียนหลักสูตรนาวีสหรัฐ (U.S. Naval Postgraduate School) และได้ทำงานทางวิศวกรรม 9 ปี ก่อนที่นาซาจะคัดเลือกเธอเข้าไปทำงานที่ศูนย์อวกาศจอห์นสัน (Johnson Space Center) โดยที่เธอมีประสบการณ์ในการขับเครื่องบินกว่า 30 ชนิด และมีชั่วโมงบินกว่า 1,500 ชั่วโมง

ผู้เชี่ยวชาญภารกิจพิเศษ : สเตฟานี วิลสัน (Stephanie Wilson)

สเตฟานี วิลสัน วัย 40 นักบินอวกาศหญิงชาวสหรัฐอีกคน จบการศึกษาจากฮาวาร์ด (Harvard University) ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ และจบปริญญาโททางด้านวิศวกรรมยานอวกาศจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส (University of Texas) ทั้งนี้ระหว่างศึกษาเธอได้ทำงานวิจัยทางด้านการควบคุมและสร้างแบบจำลองโครงสร้างขนาดใหญ่และยืดหยุ่นที่ต้องใช้ในอวกาศ

วิลสันเริ่มต้นงานทางด้านเทคโนโลยีอวกาศที่ห้องปฏิบัติการทดสอบการขับเคลื่อนความเร็วสูง Jet Propulsion Laboratory และเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมพัฒนายานกาลิเลโอ โดยได้พัฒนาและทดสอบการควบคุมการบินของยาน ความแม่นยำในการลงจอด ความแม่นยำในการชี้จุดของเสาอากาศ และได้เข้าทำงานที่ศูนย์อวกาศจอห์นสัน (Johnson Space Center) ของนาซา

ทั้งนี้วิลสันเล่าว่า เมื่อครั้งเป็นเด็กเธอมองดวงดาวบนฟ้ายามค่ำคืน และได้จุดประกายความสนใจในอวกาศให้กับเธอ อีกทั้งเมื่อครั้งเป็นเด็กเธอได้สัมภาษณ์อาจารย์ทางด้านดาราศาสตร์ในมหาวิทยาลัยท้องถิ่น แล้วก็รู้สึกสนใจในงานของเขา หลังจากนั้นเธอก็สนใจในงานด้านวิศวกรรมด้วย เธอจึงคิดว่างานวิศวกรรมยานอวกาศจะช่วยเชื่อมโยงความฝันทั้งในด้านอวกาศและวิศวกรรมได้

ผู้เชี่ยวชาญภารกิจพิเศษ : เพียร์ส เซลเลอร์ส (Piers J. Sellers)

ปิแอร์ เซลเลอร์ส วัย 51 ด็อกเตอร์ทางด้านชีวอุตุนิยมวิทยา (Biometeorology) จากอังกฤษ มีประสบการณ์ออกไปนอกโลกกับยานแอตแลนติส (Atlantis) ในภารกิจเที่ยวบิน STS-112 คิดเป็นชั่วโมงที่อยู่นอกดาวเคราะห์โลก 252 ชั่วโมง และได้เดินอวกาศ 3 ครั้ง ทั้งนี้เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระห์ (University of Edinburgh) ในสก็อตแลนด์ และจบปริญญาเอกทางด้านชีวอุตุนิยมวิทยา (Biometeorology) จากมหาวิทยาลัยลีดส์ (Leeds University)

ก่อนที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับนาซา เซลเลอร์สทำงานวิจัยเกี่ยวกับปฏิกิริยาระหว่างชั้นบรรยากาศที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้กับชั้นบรรยากาศรอบโลก งานของเขายังเกี่ยวข้องกับการออกแบบทางคอมพิวเตอร์ของระบบอากาศตามฤดูกาล การควบคุมระยะไกลผ่านดาวเทียม รวมถึงงานที่เป็นประโยชน์อากาศยาน ดาวเทียม และทีมภาคพื้นดินในสถานที่ต่างๆ อย่าง แคนซัส รัสเซีย แอฟริกา แคนาดาและบราซิล

ผู้เชี่ยวชาญภารกิจพิเศษ : โทมัส ไรเตอร์ (Thomas Reiter) นักบินอวกาศจากองค์การอวกาศยุโรป

โทมัส ไรเตอร์ นักบินอวกาศคนเดียวจากองค์การอวกาศยุโรป หรือ อีซา (European Space Agency: ESA) ไรเตอร์เป็นชาวเยอรมันจบการศึกษาระดับปริญญาโททางด้านเทคโนโลยีอวกาศ จากมหาวิทยาลัยทหาร (Armed Forces University) ของเยอรมนี และผ่านโรงเรียนทดสอบนักบินแห่งอังกฤษ (Empire Test Pilots School (EPTS)

ส่วนการทำงานที่องค์การอวกาศยุโรปนั้น เขาศึกษาด้านยานอวกาศที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์สำหรับโมดูลของยานโคลัมบัส ซึ่งเป็นยานอวกาศของยุโรปที่ส่งไปสถานีอวกาศนานาชาติ

นักบินอวกาศจากยุโรปวัย 48 นี้ มีประสบการณ์บินไปในอวกาศครั้งแรกในปฏิบัติการยูโรมีร์ 95 (Euromir 95) ซึ่งเป็นภารกิจร่วมระหว่างรัสเซียและอีซา ในการส่งยานอวกาศไปสถานีอวกาศมีร์ (Mir) ซึ่งถูกปลดระวาง ตกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อหลายปีก่อน โดยใช้เวลาในปฏิบัติการครั้งนั้น 179 ชั่วโมง นอกจากนี้ไรเตอร์ได้เดินอวกาศ 2 ครั้ง และลำเลียงเครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์กว่า 40 ชิ้น ให้กับสถานีอวกาศมีร์




กำลังโหลดความคิดเห็น