เนเจอร์ – ระหว่างที่เหล่าแม่บ้านลูกหนังอังกฤษ อิตาลี และบราซิลกำลังเป็นที่อิจฉาจากเหล่าแม่บ้านลูกหนังหลายๆ ประเทศ ที่ทีมโค้ชของพวกเขายอมให้นักเตะในสังกัดได้พบปะกระหนุงกระหนิงแสดงความรักในบางช่วงของทัวร์นาเม็นต์ใหญ่อย่างบอลโลกนี้ได้ นั่นเพราะกุนซือของทีมเหล่านี้อาจจะศึกษามาอย่างดีแล้วว่า “เซ็กซ์” นั้นหาได้บั่นทอนคุณภาพของเหล่านักเตะตัวฉกาจแต่อย่างใด
งานวิจัยที่ทำให้นักฟุตบอลยิ้มร่า แต่โค้ชประจำทีมอาจจะต้องหงุดหงิดใจสรุปออกมาว่า การปฏิบัติกิจกรรมเพศสัมพันธ์ของนักฟุตบอลในค่ำคืนก่อนลงเตะนัดสำคัญนั้น ไม่ได้ทำพวกเขาเข่าอ่อน หย่อนประสิทธิภาพลงตามที่เชื่อกันมานมนานแต่อย่างใด
แม้จะยังไม่มีเหตุผลยืนยันชัดเจนว่าเหล่านักเตะแข้งทอง แรงไม่หมดตอนแข่งแน่ๆ แต่จอห์น บานครอฟต์ (John Bancroft) อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทางเพศและการสืบพันธุ์คินซีย์ (Kinsey Institute for Research in Sex, Gender, and Reproduction) ในบูลมิงตัน รัฐอินเดียนา สหรัฐฯ ก็ออมายืนยันหนักแน่นถึงผลดังกล่าว พร้อมทั้งกำชับอีกว่า “เพศสัมพันธ์ไม่มีผลกระทบต่อมาตรฐานทางสรีรศาสตร์”
“ถ้ามีแข่งวันเสาร์ นักเตะจะถูกห้ามไม่ให้ไปกุ๊กกิ๊กกับใครตั้งแต่คืนวันพุธ นั่นเป็นธรรมเนียมปฎิบัติของนักฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่ยุค 1970 และแม้กระทั่งปัจจุบันโค้ชหลายๆ คนก็ยังห้ามนักกีฬาของพวกเขามีเซ็กซ์ก่อนคืนที่จะแข่ง” บานครอฟต์อธิบายและตั้งคำถามว่า “ทำไมพวกเขาถึงคิดว่าการมีเซ็กซ์ก่อนแข่งจะกระทบต่อเกม”
บานครอฟต์ยังสำทับอีกว่า แนวคิดแบบนี้สืบทอดกันมา 4 พันปี ตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมียในมหากาพย์กิลกาเมช (The Epic of Gilgamesh) ที่บรรยายถึงการหักห้ามใจของเหล่าฮีโร่เมื่อนำผู้หญิงมายั่วยวน และยังยกตัวอย่างมูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านนิตยสารเพลย์บอยถึงการหักห้ามใจ ในระหว่างที่ปิศาจแห่งเซ็กซ์เรียกร้องช่วงก่อนวันที่เขาต้องลงชกนัดสำคัญ
แท้จริงแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ก็เหมือนกับการพักผ่อนอย่างหนึ่ง ซึ่งนิตยสารมาเรีย แคลร์ (Marie Claire) ของอังกฤษได้สำรวจความคิดเห็นนักบอลที่เข้าร่วมในมหกรรมฟุตบอลโลก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เห็นสอดคล้องกันว่าเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีผลกระทบต่อสมรรถภาพของร่างกายในวันรุ่งขึ้น
เอียน ชรีเออร์ (Ian Shrier) ผู้เชี่ยวชาญการพยาบาลด้านกีฬา มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (McGill University) ในมอนทรีออล แคนาดา อธิบายว่า การมีเพศสัมพันธ์คืนก่อนวันแข่งนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อความแข็งแกร่ง ความทนทานรวมถึงศักยภาพในการลำเลียงออกซิเจนไปใช้ในร่างกายแต่อย่างใด โดยเขาระบุว่านักกีฬาสามารถใช้ร่างกายต่อเนื่องได้ถึง 12 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์โดยประสิทธิภาพหาได้ลดลงไม่
“งานวิจัยก็ยังพบเช่นเดียวกันว่าเซ็กซ์ไม่มีผลต่อความแข็งแกร่ง ความสมดุล รวมถึงการเคลื่อนไหว ปฏิกิริยาต่างๆ ในกิจกรรมที่ต้องใช้พลังและออกซิเจนอย่างมาก แต่กลับช่วยให้สภาพจิตใจและมีสมาธิในเกมดีขึ้นอีกด้วย” ชรีเออร์กล่าว
ประเด็นที่เป็นไปได้อย่างเดียวตามที่บานครอฟต์วิเคราะห์คือ ปัญหาที่ตามมาจาก “ระยะพักฟื้น” (refractory period) หลังจากที่ถึงจุดสุดยอดแล้ว โดยการฟื้นตัวของอวัยวะเพศกลับมาพร้อมใหม่นั้นในวัยรุ่นบางรายใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่ถ้ายิ่งอายุมากขึ้นก็จะฟื้นตัวช้าขึ้น ชายวัยกลางคนบางรายอาจใช้เวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งหากจะวิเคราะห์ว่าระยะพักฟื้นนี้ส่งผลให้ร่างกายเฉื่อยและช้ากว่าปกตินั้น บานครอฟต์เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การถึงจุดสุดยอดของชายหนุ่มหมายรวมถึงการผ่อนคลายและอารมณ์ที่สงบ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าความสงบสุขนี้จะอยู่ยาวนานแค่ไหน แต่คงไม่ยาวนานข้ามวันเป็นแน่ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวบานครอฟต์ก็ยอมรับว่าไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะออกไปแข่งเวริล์ดคัพเป็นแน่
อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดอารมณ์สงบ ดูเหมือนจะไม่ใช่แรงกระตุ้นทางกายภาพ เพราะงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าอัตราการเต้นของหัวใจและการบริโภคออกซิเจนของผู้ชายระหว่างมีเพศสัมพันธ์นั้น ก็ไม่ได้สูงเกินไปกว่าการออกกำลังเบาๆ เช่น เดินเรื่อยๆ หรือเดินขึ้นบันได
นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่าความสงบนิ่งเกิดจากฮอร์โมนโปรแลคติน (prolactin) ที่พุ่งขึ้นสูงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีเซ็กซ์ แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าฮอร์โมนดังกล่าวมีบทบาทและการทำงานอย่างไร
แท้จริงแล้ว สิ่งสำคัญยิ่งกว่าผลกระทบทางร่างกายหลังจากมีเซ็กซ์ นั่นก็คือสภาพทางจิตใจ โดยชรีเออร์แนะว่า การปล่อยให้นักกีฬามีเพศสัมพันธ์ในคืนก่อนแข่งนั้นจะมีผลต่อการตื่นตัวและความก้าวร้าว ซึ่งจะช่วยหนุนให้ร่างกายมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันว่าเป็นผลทุกครั้งไป
ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นที่ยอมรับว่าบรรดานักกีฬาทั้งหลาย ไม่ควรเป็นกังวลกับเรื่องเซ็กซ์จนถึงขนาดรบกวนจิตใจ โดยพวกเขาจะต้องไม่มีมากเกินไป หรือน้อยเกินไป อันเป็นผลต่อสภาพจิตใจ และไม่ว่านักกีฬาจะมีเซ็กซ์หรือไม่มีในคืนก่อนแข่งขันไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะสิ่งสำคัญคือนักกีฬาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในคืนก่อนแข่งหรือไม่...ต่างหาก