xs
xsm
sm
md
lg

ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพดนตรีผ่าน “ฮอโลแกรม” ฝีมือไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพดนตรีผ่าน “ฮอโลแกรม” ฝีมือไทย ผู้รับผิดชอบส่วนจัดแสดงนิทรรศการเผยเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่มีจัดแสดงบ่อยนักในโลก เคยใช้จัดแสดงไม่กี่ครั้งในเมืองไทยเพื่อแสดงภาพศิลปินชั้นนำของไทย ด้านนักวิจัยเนคเทคเผยเป็นเทคโนโลยีที่อาศัยการแทรกสอดของแสงอย่างน้อย 2 ลำ

ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งจัดขึ้น ณ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-11 มิ.ย.นี้ มีการจัดแสดงหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อถ่ายทอดพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพ และเชื่อว่าท่านใดก็ตามที่ผ่านมาถึงส่วนแสดงพระอัจฉริยภาพ จะต้องหยุดจ้องมองภาพแซกโซโฟนที่เคลื่อนไหวพร้อมตัวโน๊ตตามจังหวะเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ โดยที่มีพระเก้าอี้ โต๊ะทรงงานและภาพวิดีทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดนตรีอยู่เบื้องหลัง

ทั้งนี้ ภาพที่เห็นคือภาพ 3 มิติของแซกโซโฟนซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าเคยทรงดนตรี และมีขนาดเท่าองค์จริง โดยใช้เทคโนโลยี “ฮอโลแกรม” จัดแสดงภาพดังกล่าว สำหรับหน่วยงานที่ดูแลการแสดงส่วนนี้คือ บริษัท ซีเอ็ม ออแกไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งรับผิดชอบการจัดแสดงในหลายส่วน อาทิ ส่วนถ่ายทอดเรื่องราวการเสด็จทรงเยี่ยมราษฎรในอุโมงค์ภาพขนาดยักษ์ ด้วยเทคนิค “อิมเมจ รีเฟกชัน” (Image Reflection) เป็นต้น

“ผู้จัดการวิทยาศาสตร์” ได้สอบถามไปยัง นายเสริมคุณ คุนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออแกไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) ถึงแรงบันดาลในการนำเทคโนโลยีฮอโลแกรมมาใช้ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพ ได้ความว่าเลือกใช้ฮอโลแกรมเพราะต้องการแสดงภาพองค์จริงของเครื่องดนตรีที่ทรงใช้บรรเลง และเพื่อเพิ่มสีสันการชมนิทรรศการโดยพยายามให้การแสดงมีส่วนปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชม ซึ่งจะช่วยสื่อสารพระอัจฉริยภาพที่ทรงมีอยู่มากมายให้แก่ผู้เข้าชมได้ในเวลาอันจำกัด

ทั้งนี้ นายเสริมคุณกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า การสร้างภาพฮอโลแกรมทั้งหมดนี้เป็นผลงานของคนไทย ซึ่งจัดทำโดยบริษัทในเครือของซีเอ็ม ออแกไนเซอร์ อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งในโลกนี้มีการจัดแสดงไม่มากนัก เนื่องจากมีความซับซ้อนและค่อนข้างยาก เพราะปกติภาพฮอโลแกรมส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่ง และนอกจากทำภาพฮอโลแกรมแล้ว ต้องผ่านขั้นตอนของคอมพิวเตอร์กราฟิกเพื่อให้ได้ภาพของแซกโซโฟนที่เคลื่อนที่และหมุนได้ ซึ่งการจัดแสดงนี้ถือว่าเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์

ก่อนหน้านี้เคยมีการใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้จัดแสดงในเมืองไทยมาบ้าง โดยนายเสริมคุณกล่าวว่าเคยใช้เพื่อจัดแสดงภาพศิลปินชั้นนำของไทย อาทิ อ.ประเทือง เอมเจริญ เป็นต้น โดยจัดทำฮอโลแกรมของศิลปินให้ไปปรากฎกับวัตถุ 3 มิติ เสมือนว่าศิลปินมาปรากฏบนโต๊ะ เช่นเดียวกับที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้ ซึ่งใช้เวลาเตรียมการทั้งหมดประมาณ 3 เดือน และใช้เวลาในการติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมด 4 วัน

สำหรับเทคนิคของการสร้างภาพฮอโลแกรมนั้น เราได้ขอคำอธิบายจาก ดร.ศรันย์ สัมฤทธิเดชขจร นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเรื่องแสง ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ซึ่งได้กล่าวถึงหลักการสร้างโฮโลแกรมว่าอยู่บนพื้นฐานการแทรกสอดของแสง โดยจะสร้างฮอโลแกรมได้ต้องมีแสงอย่างน้อย 2 ลำมาแทรกสอดกันตรงฟิล์มหรือฉากรับภาพ คือ แสงที่วิ่งตรงไปตกยังฟิล์มหรือฉากรับภาพ และแสงอีกลำซึ่งวิ่งผ่านหรือตกกระทบวัตถุก่อนมาแทรกสอดกับแสงอีกลำ

การที่ลำแสงอีกลำวิ่งผ่านวัตถุนั้น จะทำให้ความสูงหรือความหนาของวัตถุจะถูกเข้ารหัสในรูปของความเข้มแสง ทั้งนี้ โดยปกติการถ่ายภาพทั่วไปจะบันทึกได้แค่ความเข้มแสงแล้วเห็นเป็นภาพ 2 มิติ แต่การบันทึกภาพฮอโลแกรมจะนำเอาเฟสหรือความลึกของวัตถุมาแปลเป็นความเข้มแสงด้วย แล้วถูกบันทึกไว้ทำให้เห็นเป็นภาพ 3 มิติ อย่างไรก็ดี การแทรกสอดกันของฮอโลแกรมในครั้งแรกบนฉากหรือฟิล์มจะยังไม่สามารถมองเห็นภาพได้ด้วยตาเปล่าในภาวะแสงปกติ เพราะจะต้องผ่านขั้นตอนการแสดงภาพ (Reconstruct) ด้วยการให้แสงที่วิ่งตรงโดยไม่ผ่านวัตถุตกกระทบฟิล์มหรือฉากอีกครั้ง จากนั้นจึงจะมองเห็นด้วยแสงปกติ

นอกจากนี้ การดูฮอโลแกรมยังต้องดูด้วยตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคนจัดทำภาพฮอโลแกรมนั้นต้องการให้คนดูเห็นภาพได้ที่มุมไหน เนื่องจากแสง 2 ลำตกกระทบทำมุมไม่เหมือนกัน โดยจะต้องมองในช่วงที่แสงทำมุมแทรกสอดกัน ส่วนภาพฮอโลแกรมที่เห็นตามบัตรเครดิตหรือตราสัญลักษณ์อื่นๆ นั้น เป็นลักษณะของฮอโลแกรมที่เกิดจากการขั้นตอนสร้างภาพมากกว่า 1 ครั้งขึ้นไป

สำหรับฮอโลแกรมที่ใช้จัดแสดงในนิทรรศการ ดร.ศรันย์ให้ความเห็นว่าน่าจะบันทึกอยู่บนวัสดุที่เรียกว่า โฟโตโพลิเมอร์ (Photopolymer) และการที่เราเห็นภาพฮอโลแกรมเคลื่อนไหวได้นั้น น่าจะเกิดจากการเปลี่ยนมุมมอง โดยที่มุมแต่ละมุมจะบันทึกรูปแซกโซโฟนในมุมที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อตัวฮอโลแกรมเองถูกขยับให้เอียงสู่ผู้มองให้สอดคล้องกับเสียงเพลง ก็จะทำให้ผู้มองเห็นภาพ 3 มิติ เปลี่ยนไปได้ ซึ่งเทคนิคดังกล่าวเป็นเทคนิคหนึ่งของการเก็บภาพสามมิติหรือฮอโลแกรมลงบนวัสดุชิ้นเดียว และยังมีอีกหลายเทคนิคที่สามารถทำได้เช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่
“กังหันชัยพัฒนา” วิดน้ำเสียเติมออกซิเจน “สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย”
“ฝนเทียมไทย” ไม่แพ้ใครในโลก ด้วยสูตรเฉพาะส่วนพระองค์
“เรือใบตระกูลมด” ผลงานจากฝีพระหัตถ์และแบบฉบับเฉพาะพระองค์
“แก๊สโซฮอล์-ไบโอดีเซล” รับวิกฤตพลังงาน พระราชดำริล่วงหน้ากว่า 40 ปี
วช.เทิดทูนพระบารมี ทูลเกล้าฯ ถวาย “สิทธิบัตรฝนหลวง”ในต่างประเทศ
“ในหลวง” พระผู้ทรงบำบัดทุกข์-บำรุงสุขราษฎร์ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เปิดแฟ้มผลงานในพระองค์ 10 รางวัลระดับโลกเวที “บรัสเซลส์ ยูเรก้า”
ภาพทรงจำแสนปีติจากพสกนิกรผู้ถวายงานวิทยาศาสตร์ “ทรงแตกฉานแม้เรื่องเฉพาะทาง”
คนวงในวิทย์ยกย่องในหลวง “ทรงเป็นต้นแบบนักวิทย์ประยุกต์”
กำลังโหลดความคิดเห็น