"วิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์" อาจเคยเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเด็กๆ สสวท.จึงจัดนิทรรศการเผยแพร่กระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 5 พร้อมโชว์กิจกรรมหลากหลาย เช่น สนุกพับกระดาษรูปทรงเรขาคณิต ทดลองทางวิทยาศาสตร์ เรียนรู้ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เพื่อทะลายกำแพงให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องเข้าใจง่าย และใกล้ตัวเด็กๆมากขึ้น
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (สสวท.)ได้จัดนิทรรศการเผยแพร่กระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 5 โดยมีคณะครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียนจากมูลนิธิโสสะทั้ง 42 คน มาร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ บรรยากาศการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เต็มไปด้วยความสนุกสนานและได้รับความสนใจจากเด็กๆทั้งจากมูลนิธิโสสะ และเด็กที่มากับผู้ปกครอง ซึ่งกิจกรรมแรกของ สสวท. คือกิจกรรม “สนุกกับการจัดทำรูปทรงเรขาคณิตศาสตร์” โดยมีอาจารย์สุรีย์ พงศ์พิพัฒน์เวช เจ้าหน้าที่เทคนิคอาวุโส สาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา สสวท.เป็นผู้สาธิตให้เด็กๆและผู้ปกครองร่วมกันพับกระดาษสีให้เป็นรูปทรงเราขาคณิตต่างๆ ซึ่งอาจารย์สุรีย์ บอกว่า ต้องใช้ทั้งความรู้การคำนวณด้านคณิตศาสตร์ในการกำหนดพื้นที่กระดาษ และการใช้ศิลปะ เพื่อให้รูปทรงเรขาคณิตมีสีสันที่สวยงามและมีมิติ
“รูปทรงที่เด็กๆให้ความสนใจในการเรียนรู้พับกระดาษมากที่สุด คือรูปทรงสามเหลี่ยม เพราะพับง่ายที่สุด มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและใช้เวลาน้อย ซึ่งการฝึกหัดพับกระดาษนอกจากจะช่วยเสริมทักษะทางด้านคณิตศาสตร์และ ยังช่วยเพิ่มจินตนาการให้เด็กด้วย” อาจารย์สุรีย์ กล่าว
ด้านกิจกรรม Science Show หรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยอาจารย์ราม ติวารี นักวิชาการสาขาฟิสิกส์ สสวท.ดูจะได้รับความสนใจจากเด็กๆมากเป็นพิเศษ อาทิ “กิจกรรมสนุกกับไข่” โดยมีการหาคำตอบว่า จะแยกไข่สุกกับไข่ดิบออกจากกันอย่างไร ไข่(สุกที่ปอกเปลือก) ฟองนี้กับไข่(ดิบที่ปอกเปลือก)ฟองนั้นแตกต่างกันย่างไร ทำอย่างไรให้ไข่ที่ใหญ่กว่าปากขวดสามารถเข้าไปในขวดได้ “กิจกรรมไนโตรเจนเหลว” โดยสาธิตการเป่าลูกโป่งให้พองแล้วเอาไปแช่ในถังไนโตรเจนเหลวก็จะทำให้ลูกโป่งเหี่ยว แต่เมื่อนำออกมาลูกโป่งก็จะคืนรูปโป่งพองเช่นเดิม นอกจากนี้ ยังได้ทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาคำตอบว่า ระหว่างกล้วย เนื้อไก่ กระดาษทิชชู่ และค้อนพลาสติก อะไรที่แช่เย็นแล้วแข็งแรงที่สุด ฝักบัวมือถือทำงานอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะเสียบลูกโป่งโดยไม่แตก และแรงยึดกระดาษติดกันมาจากไหน เป็นต้น
“เหตุที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เนื่องจากเราต้องการให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมีการจัดเวทีหรือสถานที่ให้เป็นการรวมกันระหว่างผู้รู้แลผู้อยากรู้ โดย สสวท.คาดหวังที่จะสร้างความคิด ทัศนคติ ความประทับใจต่อวิทยาศาสตร์ ให้เด็กรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว น่าเข้าใกล้ และเป็นการปลูกฝังบุคลิกนักวิทยาศาสตร์ให้เด็กๆด้วย” อาจารย์ราม กล่าว
หลังจากเด็กๆร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ “สนุกกับเกม T-Junction” และตัวเลขแสนกล ซึ่งเป็นการเล่นสีในการต่อภาพ
ด.ญ.นลิน ช่วยชู หรือ"น้องแอ้ม" นักเรียนชั้น ป.6โรงเรียนเอี่ยมสุรีย์ มูลนิธิบ้านโสสะ บอกว่า รู้สึกสนุกกับกิจกรรมในวันนี้ เพราะทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ซึ่งกิจกรรมที่ชอบมากที่สุด คือการทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะสาธิต "ฝักบัวมือถือ" ที่เอานำใส่ขวดน้ำที่เจาะรู เมื่อเปิดฝาขวดก็มีน้ำไหลออกมา รู้สึกทึ่งมาก และเพิ่งได้รู้คำตอบ หาก สสวท.จัดกิจกรรมเช่นนี้อีกก็อยากมาร่วมอีก
ด้าน"น้องเปรม" หรือ ด.ช.เวโรจน์ หนูเชื่อ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเอี่ยมสุรีย์ มูลนิธิบ้านโสสะ ยอมรับว่า เป็นคนที่ไม่สนใจด้านวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องเข้าใจยาก และดูน่าเบื่อ โดยส่วนตัวสนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากกว่า แต่เมื่อได้เข้ารวมกิจกรรมก็รู้สึกสนุกกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ รู้สึกทึ่งว่าทำได้อย่างไร โดยเฉพาะการโยนไข่ให้ไม่แตก ซึ่งตั้งใจว่าเมื่อกลับไปจะนำการทดลองดังกล่าวไปสาธิตให้น้องๆที่มูลนิธิดู
“กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์”เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและมีประโยชน์สำหรับเด็กๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการผสมผสานความรู้ด้านการคำนวณคณิตศาสตร์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆได้ใช้จินตนาการและร่วมหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวอีกด้วย