xs
xsm
sm
md
lg

Jean August Dominigue Ingres

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

ภาพเหมือนของ Ingres ซึ่งวาดประมาณปี 2343
Ingres เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2323 (รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ที่เมือง Montauban ซึ่งอยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส บิดามีอาชีพเป็นจิตรกรและช่างปั้น เมื่ออายุ 11 ปี ที่ได้เข้าศึกษาที่ Academy of Fine Arts ที่เมือง Toulouse และขณะเรียนแววอัจฉริยะก็เริ่มฉายแสง หลังจากใช้เวลาศึกษานาน 6 ปี Ingres ได้เดินทางไปปารีสเพื่อเรียนจิตรกรรมกับ Jacques - Louis David จนได้พิชิตรางวัลวาดภาพยอดเยี่ยม Grand Prix de Rome ในปี 2344 จากผลงานภาพ The Envoys from Agamemnon แต่มิสามารถเดินทางไป Rome ได้ เพราะฝรั่งเศสกำลังมีวิกฤตทางการเมือง และในช่วงเวลาที่บ้านเมืองวุ่นวาย Ingres ได้วาดภาพเหมือนของ Napoleon หลายภาพ

เมื่อ Ingres อายุ 26 ปี เขาได้เดินทางถึง Rome เพื่อวาดภาพประวัติศาสตร์ ภาพเทพเจ้า และภาพเหมือนเป็นงานหาเลี้ยงชีพ จนกระทั่งถึงปี 2363 ก็ได้เดินทางต่อไปเมือง Florence และก็ยังหาเงินเลี้ยงตัวโดยการรับจ้างวาดภาพเหมือนให้บรรดานักท่องเที่ยวอังกฤษที่แวะเยือน Florence

ชื่อเสียงของ Ingres เริ่มโด่งดังเมื่อเขาได้รับมอบหมายให้วาดภาพ Vow of Louis Xlll ประดับมหาวิหารเมือง Montauban ที่เขาเกิด และเมื่อภาพวาดถูกนำไปติดตั้ง ผู้ชมทุกคนต่างก็รู้สึกชอบภาพวาดมากจน Ingres ได้รับการจ้างให้วาดภาพ Martyrdom of St.Symphorian และ Apothesis of Homer สำหรับมหาวิหารที่ Autun กับที่พิพิธภัณฑ์ Louvre ตามลำดับ ดังนั้น Ingres จึงรู้สึกภูมิใจและดีใจในความสำเร็จของตนมาก ที่ตนได้รับการยอมรับว่าเป็นจิตรกรชาวปารีสคนหนึ่ง

เมื่ออายุ 54 ปี ความนิยมชมชอบในตัว Ingres เริ่มหมด เพราะภาพ The Martydom of St.Symphorian ถูกนักวิจารณ์ในปารีสกล่าวประณามด้วยความเกลียดและโกรธ และนักวิจารณ์เหล่านี้ได้หันกลับไปชื่นชมงานวาดของ Delacroix Ingres จึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่นำผลงานของเขาออกแสดงที่กรุง Paris อีก ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ จึงได้เดินทางกลับไป Rome อีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสอนศิลปะในเวลาต่อมา ความสำเร็จของภาพวาดชื่อ Stratonice ก็ได้ทำให้การเยือนปารีสของ Ingres ในปี 2384 เป็นการเยือนที่มีความสุขมาก

ผลงานสำคัญชิ้นสุดท้ายที่ Ingres ได้ทิ้งไว้ให้แก่โลก คือ งานตบแต่ง Chateau แห่งเมือง Dampierre แต่เมื่อภรรยาของเขาล้มป่วยและเสียชีวิตลง Ingres รู้สึกเสียใจมาก แต่หลังจากหักห้ามใจได้แล้ว Ingres ก็ยังวาดภาพเหมือน ภาพศาสนา ภาพเปลือย และภาพ The Turkish Bath ที่วาดเสร็จในปี 2406 ถือเป็นงานชิ้นสำคัญที่สุดของ Ingres ในช่วงสุดท้ายของชีวิต Ingres ได้ฝึกลูกศิษย์หลายคน Ingres ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิกในปี 2405 และอีก 5 ปี ต่อมาเขาก็สิ้นใจในเดือนมกราคม พ.ศ. 2410 รวมอายุได้ 87 ปี

ในขณะที่ Ingres มีอายุ 82 ปีนั้น เขาได้วาดภาพ The Turkish Bath ที่มีผู้หญิงเปลือยมากมาย และเขาได้บอกสาธารณชนว่า หัวใจและจิตใจเขายังแกร่งเหมือนหนุ่มวัย 30 ภาพวาดนี้ประสบความสำเร็จมาก จนจิตรกรฝรั่งเศส 250 คน ได้ร่วมใจกันสร้างเหรียญเกียรติยศเป็นเกียรติแก่ Ingres ภาพดังกล่าวมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 108 เซนติเมตร และมีสตรีเปลือย 20 นาง ข้อสังเกตประการสำคัญ คือ Ingres มิได้เรียกผู้หญิงใดๆ มาเป็นแบบเลย เขาเขียนภาพเปลือยจากความทรงจำที่ได้เวลาวาดภาพสตรีต่างๆ ดังนั้น ภาพนี้จึงเป็นภาพรวมของผู้หญิงที่ Ingres เคยวาดตลอดชีวิตของเขา โดยผู้หญิงในภาพวาดเหล่านั้น บางคนกำลังอาบน้ำ บางคนกำลังนั่ง บางคนกำลังเอนกาย บางคนเป็น odalisque (ทาสสาวผิวขาวในฮาเร็ม) ภาพวาดนี้แสดงความงามของสตรีเปลือยที่ Ingres รู้สึก

ไม่มีใครรู้ชัดว่า Ingres เริ่มวาดภาพ The Turkish Bath เมื่อไร แต่การสังเกตดูเครื่องประดับ เครื่องใช้ และบรรยากาศของภาพแสดงให้เรารู้ว่า Ingres ใช้เวลาวาดประมาณ 50 ปี เพราะชาวยุโรปในยุคนั้น สนใจใฝ่หาความรู้จากดินแดนไกล เช่น Napoleon บุกอียิปต์ กวี Lord Byron เดินทางไปกรีก จิตรกร Eugene Delacroix วาดภาพสงครามในตะวันออกลาง ดังนั้น เวลา Ingres วาดภาพทาสสาวผิวขาวในฮาเร็ม ภาพจึงให้ความรู้สึกที่ทันสมัยมาก

สำหรับการวาดภาพคนอาบน้ำพร้อมกันหลายคนนั้นก็มิใช่เป็นเรื่องปกติ เพราะในยุคนั้น ชาวปารีสอาบน้ำกันปีละครั้งในห้องอาบน้ำส่วนตัว ปารีสเองมีสถานอาบน้ำ 1,059 แห่ง โดยน้ำที่อาบเป็นน้ำร้อนที่มีน้ำหอมปนและห้องอาบมีเสียงดนตรีเบาๆ เป็น background และตามปกติ ห้องอาบน้ำผู้ชายกับผู้หญิงจะแยกกันอย่างเด็ดขาด ใครที่ละเมิดล่วงล้ำอาณาเขตจะถูกลงโทษถึงตาย ดังนั้น เวลาอาบน้ำสำหรับทุกคนจึงเป็นเวลาส่วนตัวของทุกคนจริงๆ

ถึงแม้ว่า Ingres จะมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปห้องอาบน้ำสตรี แต่เขามีจินตนาการ ความทรงจำและความรู้เกี่ยวกับประเพณีอาบน้ำในตะวันออกกลางมาก ดังนั้น ภาพวาดที่ปรากฏจึงแสดงให้เห็นรายละเอียด เช่น ผ้าโพกหัว สร้อยคอ และเครื่องประดับต่างๆ ที่สมจริง ภาพวาดนี้ในตอนแรก Ingres ตั้งใจให้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ได้ดัดแปลงในนาทีสุดท้ายให้มีรูปกลม

เมื่อภาพ The Turkish Bath ปรากฏ ชาวปารีสต่างก็พากันช็อกที่ได้เห็นภาพผู้หญิงเปลือยมากมาย ดังนั้น เมื่อเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่งในกษัตริย์ Napoleon ที่ 3 ทรงซื้อภาพพระองค์ทรงถูกสังคมตำหนิ ส่วนภริยาของพระองค์ก็รู้สึกว่าภาพโป...ๆ เปลือยๆ เช่นนี้ไม่สมควรอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน ดังนั้น พระองค์จึงคืนรูป และคนที่ซื้อภาพนี้ไปเป็นคนที่สอง คือ Khalil Bey ผู้เป็นทูตเตอรกีประจำปารีส เมื่อภาพตกอยู่ในความครอบครองของทูตและบรรดาเพื่อน การต่อต้านจึงไม่มี จนกระทั่งเจ้าของภาพได้ตัดสินใจมอบให้พิพิธภัณฑ์ Louvre และถูก Louvre ปฏิเสธถึงสองครั้ง แต่พอพิพิธภัณฑ์ที่เมือง Munich สนใจจะซื้อภาพไว้ พิพิธภัณฑ์ Louvre ก็เปลี่ยนใจรีบซื้อภาพไปทันทีในปี 2454

ในการดูผู้หญิงในภาพ The Turkish Bath หลายคนเห็นว่าสตรีทุกคนสมบูรณ์ สวย อวบ และมีสุขภาพดี แต่ก็มีแพทย์ฝรั่งเศสชื่อ Laignel - Lavastine ที่ได้เห็นว่า คอของสตรีบางคนหนาผิดปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางมีปัญหาเรื่องต่อม thyroid ตาก็โปน และใบหน้าแสดงอาการอิดโรย อาการทอดตัวบนโซฟา แสดงให้เห็นว่า สตรีกลุ่มนี้ชอบนอนและไม่ชอบคิดอะไรเลย ดังนั้น ในภาพรวมกลุ่มสตรีกลุ่มนี้ จึงมีสภาพเหมือนฝูงสัตว์ที่ไม่สบาย แต่สำหรับคนที่ชอบ Ingres แล้ว นี่คือการแสดงความเป็นสตรีที่สมบูรณ์อย่างสมดุลที่สุด ขณะนี้พิพิธภัณฑ์ Louvre กำลังจัดงานแสดงผลงานของ Ingres ซึ่งประกอบด้วยภาพวาด และภาพสเกตช์ต่างๆ 180 ชิ้น ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นภาพที่แสดงความจงรักภักดีของประชาชนต่อ Napoleon ภาพเปลือยของสตรี ภาพเหมือนของชนชั้นกลางในปารีส ภาพศาสนา ที่ต่างก็แสดงให้เห็นความสามารถหลายด้านของ Ingres

หนึ่งในบรรดาภาพที่นำมาแสดงซึ่งมีชื่อเสียงมาก คือ ภาพ Grande Odalisque ที่ Ingres วาดเสร็จในปี 2357 ที่แพทย์บางคนได้วิเคราะห์แล้วพบว่า กระดูกสันหลังของทาสสาวยาวเกินไป และแขนขวาของเธอ ถ้าเธอลุกยืนจะยาวจนถึงเข่า เหล่านี้ คือ ข้อเสีย หรือ ปมด้อยของภาพ แต่ Ingres ก็ได้เอ่ยตอบคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ว่า เขาไม่สนเรื่องกายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์ เขาสนใจแต่ความสวยของสตรีเท่านั้น ก็เหมือนดนตรีที่เขาไม่ชอบวิชาดนตรี แต่เขารักดนตรี Ingres เองเล่นไวโอลินได้ไพเราะ และไวโอลินที่เขาใช้เล่นก็ถูกนำมาแสดงด้วย อนึ่ง สำนวน violon dIngres ซึ่งหมายถึงงานอดิเรก ก็เป็นสำนวนหนึ่งที่คนฝรั่งเศสใช้กันมาจนทุกวันนี้ งานแสดง Ingres จะมีจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ หากคุณแวะปารีส ก็น่าจะแวะดู

สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท

กำลังโหลดความคิดเห็น