การฝึกฝนดูจะเป็นกิจกรรมที่มีความจำเป็นอย่างมากในการปฏิบัติงานของหลากหลายวิชาชีพ งานทันตกรรมก็เป็นหนึ่งในวิชาชีพที่ต้องอาศัยการฝึกฝนมากมายเช่นกัน เพราะหากขาดการฝึกฝนจนเป็นที่มั่นใจแล้ว การรักษาผู้ป่วยย่อมเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย ทว่ากว่าที่นักศึกษาทันตแพทย์แต่ละคนจะมั่นใจในฝีมือตัวเองก็ต้องอาศัยการทำฟันกับอุปกรณ์นำเข้าราคาแพงอย่างขากรรไกรจำลองและฟันพลาสติกอยู่พักใหญ่ และอาจต้องฝึกปรือจนหมดโควต้าฟันพลาสติกที่ได้รับจากรัฐบาล ต้องยอมควักกระเป๋าซื้อมาฝึกเพิ่มเอง ทำให้หลายคนรู้สึกเข็ดขยาดไปทีเดียว
ผศ.ทพ.ดร.สุชิต พูลทอง รองคณบดีฝ่ายวิจัย ภาควิชาทันตกรรมหัตถการ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ จึงหาทางออกให้กับปัญหาดังกล่าวโดยจัดทำโครงการวิจัยผลิตแบบจำลองขากรรไกรพร้อมฟันพลาสติกสำหรับงานห้องปฏิบัติการและงานสื่อการสอนขึ้น โดยได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากแผนงานวิจัยแบบบูรณาการทางด้านวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ประจำปีงบประมาณ 2548 ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
ผศ.ทพ.ดร.สุชิต เล่าว่า โดยปกติ ในการเรียนวิชาทันตกรรมของนักศึกษาชั้นปี 3 และปี 4 นักศึกษาจำเป็นต้องฝึกฝนทำฟันกับฟันพลาสติกในแบบจำลองขากรรไกรจนมีความชำนาญก่อนฝึกทำฟันกับฟันจริงในช่องปากของผู้ป่วยเมื่อขึ้นชั้นปี 5 โดยจะได้รับโควต้าฟันพลาสติก 10 ซี่ ตลอดหลักสูตร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ต้องนำเข้าซี่ละ 130-150 บาท ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้ง หากทำพลาดก็ถือว่าเสียเลย นำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้ ถ้านักศึกษาคนใดมือแม่นมากก็จะใช้ฟันพลาสติกไม่เกินโควต้า แต่หากนักศึกษาคนใดใช้เกินก็จะต้องจ่ายเอง ซึ่งโดยปกติในการฝึกการกรอฟัน มักจะมีการกรอพลาดเป็นปกติ และบางครั้งกรอพลาดไปโดนฟันข้างเคียง ก็ต้องซื้อมาชดใช้ โดยเฉลี่ยแล้วอีก 1 เท่าตัว นอกจากนั้น นักศึกษาชั้นปี 5 บางคน หากอยากกลับมาฝึกฝนอีกครั้งก่อนทำฟันจริงก็อาจกลับมาฝึกใหม่ได้ หากมีโควต้าเหลือก็ไม่เป็นไร แต่หากโควต้าหมดแล้วก็ต้องซื้อเองเช่นกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากฟันพลาสติกดังกล่าวมีราคาแพงมาก ทำให้นักศึกษาบางคนไม่อยากฝึกฝีมือมากนัก ผศ.ทพ.ดร.สุชิต จึงเกิดความคิดว่าทำอย่างไรให้ราคาฟันพลาสติกถูกลง เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกฝนมากขึ้น ดีกว่าไปทำพลาดกับผู้ป่วย ซึ่งจะแก้ไขไม่ได้ ทางทีมวิจัยจึงเริ่มวิจัยผลิตแบบจำลองขากรรไกรพร้อมฟันพลาสติกขึ้น โดยขณะนี้ได้ต้นแบบขากรรไกรจำลองช่วงครึ่งล่างซ้ายแล้ว ซึ่งมีลักษณะทางกายวิภาคของคนไทยเองอันจะแตกต่างจากคนต่างชาติ ส่วนฟันพลาสติกที่ได้ก็จะมีขนาด รูปร่าง ความแข็ง และการสบกันของฟันเหมือนฟันจริงมากที่สุด เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้อย่างสมจริง ที่สำคัญคือจะมีราคาถูกลงเหลือเพียง 30-40 บาทต่อซี่เท่านั้น
อย่างไรก็ดี นอกจากประโยชน์ด้านการฝึกสอนนักศึกษาทันตแพทย์แล้ว แบบจำลองขากรรไกรที่ผลิตได้ยังสามารถนำไปใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยสอนผู้ป่วยในการรักษาสุขภาพช่องปากได้อย่างถูกวิธีอีกด้วย จากแต่เดิมที่ทันตแพทย์ต้องสั่งซื้อแบบจำลองดังกล่าวในราคาหนึ่งหมื่นบาทเศษต่อชุด ดังนั้นหากผลิตได้เองในประเทศก็น่าจะมีราคาถูกลงและเหลือเพียงประมาณ 2-3 พันบาทต่อชุด ทำให้สถานพยาบาลและคลินิกต่างๆ ซื้อไปใช้งานได้อย่างแพร่หลาย
ส่วนวัสดุที่ใช้ในการผลิตชุดขากรรไกรจำลองนี้ ผศ.ทพ.ดร.สุชิต บอกว่า จะใช้วัสดุที่ผลิตได้เองในประเทศทั้งหมด ได้แก่ พลาสติก ขี้ผึ้ง และโลหะ ซึ่งประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่สามารถทำการผลิตได้ จึงไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติ รวมทั้งยังจดสิทธิบัตรได้ด้วย โดยคาดว่างานวิจัยจะแล้วเสร็จภายในปี 50 นี้
โจทย์ “การพึ่งพิงต่างชาติมากเกินไป” เป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยต้องตามแก้ไขเรื่อยมา งานวิจัยของ ผศ.ทพ.ดร.สุชิต และคณะ จึงเป็นอีกหนึ่งในขบวนการแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดไปทีละเปราะๆ ช่วยให้นักศึกษาสบายใจกับการฝึกปรือฝีมือของตัวเองมากขึ้น และช่วยให้ทันตแพทย์สามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ในช่องปากแก่ผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น พร้อมๆ กับการพึ่งพาตัวเองที่ทอดเส้นกราฟสูงขึ้นๆ ต่อไป...