4 เอกชน “แก้มปริ” ร่วมวงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสำเร็จ หลังปรับใช้การบริหารจัดการเทคโนโลยี ควบคู่กับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในกิจการจนธุรกิจวิ่งฉิว-ไม่มีสะดุด
เก็บตกควันหลงจากงานการประชุมประจำปี 2549 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สวทช.) ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดยศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (Technology Management Center: ทีเอ็มซี) ได้จัดเสวนาเรื่อง "การบริหารจัดการเทคโนโลยีกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" โดยมี ศ.ดร.ชัชนาถ เทพธรานนท์ ผอ.ทีเอ็มซี เป็นประธาน
สำหรับวิทยากรพิเศษจากห้างร้านเอกชนที่เข้าร่วมการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้แก่ นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร อโกรกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นายศุภนิตย์ มานะจิตต์ รองผู้จัดการใหญ่ สายงานอ้อย ภาคกลาง บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด นายประวุธ จันทร์เจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีซี โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และนายวิเชียร เชิดชูตระกูลทอง ประธานกรรมการ บริษัท ภารดรอุตสาหกรรม เชียงใหม่
ทั้งนี้ สาระสำคัญของการเสวนาประกอบด้วยการสร้างความเข้าใจในเรื่อง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน ซึ่งเน้นหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1. เหตุและผล หมายถึง การจะทำงานหรือธุรกิจอะไรก็ตามจะต้องคิดให้ถี่ถ้วนโดยพิจารณาจากเหตุและผลก่อนลงมือปฏิบัติจริง 2. การประมาณตน หมายถึง การรู้จักศักยภาพของตนเอง ทำอะไรไม่เกินกำลังความสามารถ และ 3) การมีภูมิคุ้มกัน หมายถึง การวางแผนรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยหลัก 3 ประการนี้ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น เครือซิเมนต์ไทย ที่ได้ปฏิบัติตามหลักการทั้ง 3 ข้อนี้ จนนำบริษัทให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ได้ และยังคงใช้เป็นหลักดำเนินธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน
นอกเหนือจากแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ใช้เป็นหลักในการประกอบธุรกิจแล้ว ยังมีการพูดถึงสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การเลือกสรรเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับศักยภาพของตัวเอง ซึ่งจะช่วยเสริมให้เอกชนสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท เช่น เครือเบทาโกร บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย ซึ่งนายวนัส ระบุว่า ได้ปรับปรุงกระบวนการชำแหละไก่สด โดยการใช้อุปกรณ์ ตัดแต่งเนื้อไก่แบบที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้เร็วขึ้น หรือการดัดแปลงเครื่องบรรจุไก่กระป๋องจากพื้นฐานเครื่องมือเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้ได้ไก่บรรจุกระป๋องตามข้อกำหนดของลูกค้า
เช่นเดียวกับบริษัทน้ำตาลมิตรผล ที่นายศุภนิตย์ เผยว่า สามารถลดต้นทุนและเพิ่มรายได้เกษตรกรผู้ตัดอ้อยได้ โดยตั้งจุดรับอ้อยกลางที่บริษัท และได้ดัดแปลงอุปกรณ์ที่ใช้ยกเสาเข็มมายกอ้อยที่ตัดแล้วจากรถของเกษตรกรรวม ๆ กันเพื่อส่งไปยังโรงงาน เกษตรกรจึงสามารถขายอ้อยโดยตรงกับทางบริษัทโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น
ในขณะที่นายประวุธ กล่าวว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) อย่าง พี.ซี.โปรดักส์ ได้ทดลองใช้วัสดุใหม่มาผลิตสินค้า เช่น สังกะสีมาทำอุปกรณ์ ถ่วงล้อ โดยได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยีจัดหาให้ จนได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีน้ำหนักเบา ไม่เกิดมลภาวะ และเป็นที่ยอมรับสำหรับประเทศทางแถบยุโรป เช่นเดียวกับบริษัทภราดรอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาและผลิตภัณฑ์กระเบื้องพิมพ์ลายสำหรับตกแต่ง
โดยนายวิเชียร เผยว่า ได้รับคำปรึกษาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี จนสามารถผลิตอิฐสองสีด้วยเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้ในงานตกแต่งภายในและได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งจากตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จข้างต้น สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าการผสมผสาน แนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” เข้ากับการบริหารจัดการเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาในทางที่ดีและยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ “ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี” ได้ก่อตั้งขึ้นจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมและสังคมไทยสามารถนำเทคโนโลยีที่ไปใช้พัฒนาตนเอง ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งปัจจุบันศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยีได้ให้บริการ 5 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1.การถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่เป็นการให้บริการคำปรึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการผลิตและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นแก่ภาคอุตสาหกรรม กระทั่งนำไปสู่นวัตกรรมของสินค้าและบริการที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนชนบท เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนพัฒนาและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
2. โครงสร้างพื้นฐานจะให้บริการพื้นที่เช่าเพื่อทำวิจัย เครื่องมือที่ทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการสนับสนุนต่างๆ แก่ภาคเอกชน 3. การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ในเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การสนับสนุนทุนการศึกษาในทุกระดับชั้นการศึกษา 4. การบริการด้านการวิจัยนโยบาย ซึ่งให้บริการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย แผน และมาตรการระดับชาติ เพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ และเพื่อการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคม ให้ผลักดันนโยบายสู่การปฏิบัติจริง และ 5. การบริหารงานวิจัยจากห้องทดลองสู่ตลาดโลก ซึ่งในส่วนนี้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยีได้บ่มเพาะการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จนถึงระดับที่สามารถจะนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว