สภาวิจัยฯ จัด “งานวันนักประดิษฐ์” มอบรางวัลให้แก่นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ และเจ้าของผลงานประดิษฐ์สุดแจ่มแห่งปี รองนายกฯ เผย เดินหน้าประสานงานสมาคมนักประดิษฐ์ต่างชาติเร่งผลงานประดิษฐ์ไทย เลขาธิการวช.แจงผลงานที่ได้รางวัลต้องแปลกใหม่และขายได้ ด้านเสียงตอบรับการจัดงานครึกครื้น นักวิจัยอยากเห็นการพัฒนาผลงานประดิษฐ์บนจุดแข็งของประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้เปิดงาน “วันนักประดิษฐ์ ครั้งที่ 11” ขึ้นอย่างเป็นทางการ วันนี้ (2 ก.พ.) ณ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบรางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2548 ให้แก่นักวิจัยดีเด่น 10 ราย และรางวัลผลงานประดิษฐ์แก่สาขาต่างๆ
นักวิจัยดีเด่นทั้ง 10 ที่ได้รับรางวัลได้แก่ 1.ศ.นพ.ดร.ประพันธ์ ภานุภาค นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2.ศ.ดร.วิชัย ริ้วตระกูล นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช 3.ศ.เบญจมาศ ศิลาน้อย นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา 4.ศ.ดร.สันติ เล็กสุขุม นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาปรัชญา 5.ศ.ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
6.ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ 7.ศ.ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขานิติศาสตร์ 8.รศ.ดร.กาญจนา แก้วเทพ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์ 9.ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาการศึกษา และ 10.ศ.ดร.สุภางค์ จันทวานิช นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาสังคมวิทยา
นอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัลผลงานวิจัยประจำปี 2548 จำนวน 11 เรื่องจาก 7 สาขาวิชา แบ่งเป็นผลงานวิจัยดีเยี่ยม 2 เรื่อง และผลงานวิจัยชมเชยอีก 9 เรื่อง รางวัลวิทยานิพนธ์ ประจำปี 2548 จำนวน 27 เรื่อง และรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นจำนวน 32 ชิ้น 33 รางวัล นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ผลงานวิจัย วิทยานิพนธ์ที่ได้รับรางวัลจาก วช.ประจำปี 2548 การจัดแสดงผลงานประดิษฐ์คิดค้นที่ได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นประจำปี 2549 จาก วช.
นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า สิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้เป็นการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาไทยเพื่อประดิษฐ์คิดค้นเครื่องใช้ไม้สอยที่มีคุณค่าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ประเทศไทยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ประเทศจึงก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้อยากให้ชาวไทยได้มาเยี่ยมชมผลงานสร้างสรรค์เหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะเยาวชนของชาติ
“สำหรับแนวทางการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์นั้น รัฐบาลให้การสนับสนุนเต็มที่ อาทิ การสนับสนุนงบประมาณในโครงการต่อเนื่อง รวมทั้งให้เกิดการเชื่อมโยงกับสมาคมนักประดิษฐ์ของต่างประเทศด้วย ซึ่งได้พูดคุยในเรื่องนี้กับเลขาธิการ วช.แล้ว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย จีน เบลเยี่ยม และอินเดีย” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้น ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการ วช. กล่าวเสริมว่า ในการจัดงานวันนักประดิษฐ์ประจำปี 2549 นี้ วช.ได้เน้นไปยังสิ่งประดิษฐ์ที่มีความแปลกใหม่ และสามารถใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์แก่ผู้ผลิตและประเทศชาติได้ ส่วนการต่อยอดผลงานเหล่านั้นก็จะพยายามส่งเสริมให้มีการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ให้ครบวงจร หากเล็งเห็นว่าผลงานชิ้นใดมีศักยภาพในการพัฒนาต่อแล้วก็จะมีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้พัฒนาต่อ รวมถึงผลักดันให้มีการจดสิทธิบัตร โดยขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของผลงานด้วย
ดร.รุ้งนภา ทองพูล เจ้าของผลงาน “เซลล์แสงอาทิตย์แบบสีย้อมไวแสง” ซึ่งได้รับรางวัลชมเชยในการประกาศผลรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น แสดงความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวแล้ว อยากเห็นการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นการประยุกต์ใช้จุดแข็งการเป็นเมืองเกษตรกรรมของประเทศไทยมาเป็นฐานความคิด เพราะสามารถเล็งเห็นผลเชิงพาณิชย์ได้ชัดเจนกว่าการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัยบางอย่างที่อาจไม่ได้ยืนอยู่บนจุดแข็งของประเทศ อย่างไรก็ดี ก็ไม่ได้เป็นการไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาเทคโนโลยีบางอย่าง ที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศด้วยเช่นกัน
ด้านนายเฉลิมชัย ดอกเขมกลาง หัวหน้าทีมประดิษฐ์ “เครื่องปรับอากาศแบบเดินระบบด้วยน้ำ” จากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย 2 จ.นครราชสีมา เผยว่า ได้นำผลงานของทีมตัวเองมาร่วมประกวดในโครงการกิจกรรมค่ายนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ของ วช. โดยเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานใหญ่ระดับชาติ ซึ่งพบว่าประชาชนต่างให้ความสนใจเยี่ยมชมงานจำนวนมาก นอกจากนั้นยังช่วยชี้แนะเยาวชนจากทีมต่างๆ ให้มีการต่อยอดผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ด้วย ทำให้รู้สึกว่าการจัดงานในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมความคิดของคนรุ่นใหม่กิจกรรมที่ควรได้รับการสนับสนุนต่อไป
ทั้งนี้ งานวันนักประดิษฐ์นอกจากจะแสดงผลงานของเหล่านักประดิษฐ์ดีเด่นแห่งปีแล้ว ยังได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติคุณผลงานประดิษฐ์คิดค้นในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” จำนวน 3 โครงการด้วยกันได้แก่ “โครงการทฤษฎีใหม่” “โครงการฝนหลวง” และ “โครงการสารเชื้อเพลิงทดแทน น้ำมันไบโอดีเซล สูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม” รวมถึงยังมีการจัดแสดงผลงาน “ศิลปาชีพ” ในสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทั้ง 2 ผลงานต่างได้รับรางวัลสดุดีเทิดพระเกียรติคุณสูงสุด จากการแสดงนิทรรศการ Brussels Eureka 2001 เมื่อ พ.ย. 2544 ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ด้วยเช่นกัน โดยประชาชนที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้ระหว่างวันที่ 2-4 ก.พ. ณ ฮอลล์ 9 อิมแพค เมืองทองธานี


