บูธวิทย์ฯ วันเด็กกรุงเทพฯ-ปริมณฑลครึกครื้น น้องๆ เปื้อนยิ้ม

บูธแบบวิทย์ๆ ในงานวันเด็ก 49 ทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑลครึกครื้น ผู้ปกครองจูงลูกหลานเข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น พร้อมพกพาความรู้เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน เด็กที่มาร่วมงานเผยปีนี้สนุกกกว่าปีที่แล้ว

ในวันนี้ (14 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม หรือ “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2549 ได้มีการจัดงานวันเด็กขึ้นหลายจุดทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยที่ทำเนียบรัฐบาล บรรยากาศการจัดงานเป็นไปอย่างคึกคัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างทยอยกันพาบุตรหลานมาเยี่ยมชมงานกันอย่างเนืองแน่น พร้อมสนุกสนานกับการเล่นเกมตามบู้ธต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมาย

ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีแต่เพียงความครึกครื้นจากบูธความบันเทิงในงานเท่านั้น หากแต่ยังมีบูธที่ให้ความรู้ควบคู่กันไปด้วย อาทิ ในบริเวณตึกสันติไมตรีหลังใน ที่มีหน่วยงานจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ร่วมออกงาน โดยมีหน่วยงานในสังกัดคือสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมหน่วยงานลูกหลายหน่วยมาร่วมออกบู้ธ เช่น ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โครงการศูนย์เทคโนโลยีพลังงาน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)

ส่วนกิจกรรมที่จัดแสดงได้แก่ บูธค่ายบรรพชีวินที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มีโอกาสใช้แปรงปัดผุ่น-ดินเพื่อค้นหาซากดึกดำบรรพ์ (ฟอสซิล) บูธให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ บูธเกี่ยวกับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และบู้ธการทดลองผลิตพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างน้ำผลไม้กับโลหะทองแดงและสังกะสี และบูธที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ทดลองเล่นโปรแกรมเวริลด์ วินด์ (World Wind) หรือระบบบริการภาพถ่ายดาวเทียมและแสดงภาพในลักษณะ 3 มิติ ซึ่งคล้ายกับโปรแกรมกูเกิล เอริ์ธ (Google Earth) ที่ถูกวิจัยและพัฒนาโดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซ่า)

นอกจากนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังได้ถือโอกาสนี้จัดพิธีมอบหนังสือเดินทางสู่เส้นทางนักวิทยาศาสตร์ (Young Scientist Passort ) ให้แก่ผู้ได้รับรางวัลโอลิมปิกวิชาการ โดย ดร.ประวิช รัตนเพียร รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งผู้ได้รับหนังสือเดินทางจะได้รับสิทธิพิเศษได้เข้าฝึกงานและใช้ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยทุกแห่งของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

ด.ช.ภีม ธกูลสวัสดิ์ และ ด.ช.ปัญญา ยินดี 2 นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนประถมสาธิตละอออุทิศ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสนุกกับงานในวันนี้มาก เพราะมีการเล่นเกมมากมาย รู้สึกประทับใจกับบู้ธการประกอบหุ่นยนต์จากเศษวัสดุเหลือใช้ เพราะเมื่อประกอบเสร็จแล้วก็สามารถนำกลับไปเล่นต่อที่บ้านได้ด้วย นอกจากนั้น การมางานในวันนี้ยังมีบูธต่างๆ มากกว่าปีที่แล้ว (2548) และได้เจอเพื่อนๆ ร่วมโรงเรียนหลายคนที่ผู้ปกครองพามาร่วมงานทั้งที่ไม่ได้นัดหมายกันไว้

ส่วน ด.ช.สหรัฐ ปรางพิทักษ์ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กล่าวว่า ได้มาร่วมงานเป็นปีที่ 2 แล้ว พบว่ามีความน่าสนใจมากกว่าปีที่แล้ว และมีการจัดบู้ธให้ความรู้มากมาย ซึ่งถือว่าทำได้ดี ส่วนที่ชอบมากที่สุดคือ บู้ธค่ายบรรพชีวินที่จะได้ขุดค้นซากไดโนเสาร์กับเพื่อนคนอื่นๆ

“ปส.-บ้านปรมาณู” ร่วมแจมฉลองวันเด็กครั้งแรก

แวะไปที่ฝั่งบางเขน สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ก็ขอร่วมฉลองงานวันเด็กกับเขาด้วย ซึ่งมีน้องจากโรงเรียนละแวกบางแขนมาร่วมสนุกกว่า 400 คน เริ่มกันที่เกมต่อ “โดมิโน” ซึ่งแทรกความรู้เรื่องปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิสชันไปพร้อมๆ กัน หรือการแข่งขันล้อจักรยานซึ่งนอกจากความมันแล้ว น้องๆ ยังได้รู้ว่าพลังงานจลน์จากการปั่นเปลี่ยนไปเป็นพลังงานไฟฟ้าได้

ส่วนกิจกรรมสันทนาการที่เรียกเด็กๆ จนบู้ธอื่นต้องอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กันนั่นเป็นการแสดงมายากลที่ขน “ลูกฮา” มาเต็มเวที เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะกันเตาปฏิกรณ์แทบแตก ก็ถือว่าเป็นสีสันวันเด็กของบ้านปรมาณูเลยทีเดียว

อีกกิจกรรมที่แม้จะไม่ทันส่งท้ายปีไอน์สไตน์แต่ส่งเสริมวิชาการล้วนๆ นั้นเป็นการประกวดโครงงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีฟิสิกส์ และยังมีกิจกรรมสนุกๆ ที่เติมความรู้แบบวิทย์ให้อีกเพียบ สำหรับงานเพื่อเด็กที่จัดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของสำนักงาน และแม้ว่าจะขาดประกอบการไปบ้างแต่กิจกรรมที่เอามาเสนอก็ได้รับความสนใจจากนักเรียนในโรงเรียนละแวกนั้นไม่น้อยทีเดียว หากน้องๆ ยังไม่มีสถานที่เที่ยวงานวันเด็ก ปส.ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะจ้ะ

อพวช.จัด "เด็กไทยใจรักวิทย์ฯ"เน้นคิดแบบวิทยาศาสตร์

ตบท้ายมาไกลถึงองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลองห้า ปทุมธานี ที่แม้แดดจะร้อนเปรี้ยงๆแต่บรรดาผู้ปกครองก็พากันจูงบุตรหลานมาเยี่ยมชมงานอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในปีนี้ตั้งชื่องานว่า "เด็กไทยใจรักวิทย์ฯ" โดยมีกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งภายในและนอกพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ได้แก่ การแสดงละครวิทยาศาสตร์เรื่อง”เมื่อไอน์สไตน์พบยมบาล” โดยคณะละครมรดกใหม่ ที่อำนวยการสร้างโดยอาจารย์ชลประคัลภ์ จันเรือง ซึ่งแม้จะจัดแสดงอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เรียกเสียงฮาจากเหล่าเด็กๆและผู้ปกครองได้ตลอดทั้งวัน

ไฮไลท์เด็ดของงานอยู่ที่ “กิจกรรมหน้าผาท้าความแกร่ง” ที่แม้จะแดดร้อนขนาดไหนก็ไม่อาจหยุดพลัง”ความกล้า” ของเหล่าน้องหนูตัวน้อยๆไปได้เลย ส่วนบรรดาผู้ปกครองก็ต่างตะโกนเชียร์และให้กำลังใจเด็กๆกันอย่างสุดฤทธิ์ “การประดิษฐ์และทดสอบจรวดขวดน้ำ” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากเด็กๆ เพราะต้องใช้ทั้งสมาธิและเทคนิคเฉพาะตัว “กิจกรรมห้องปฏิบัติการแสนสนุก” วันเด็กทั้งทีพี่ๆจาก อพวช.จึงใจดีเปิดห้องแล็ปเล็กๆไว้ให้น้องหนูควงแขนผู้ปกครองมาทำไอศครีมรสช็อกโกแลตกินกันด้วยตนเอง เรียกว่าทั้งสนุกและอิ่มไปในคราวเดียว

นอกจากนี้ ยังมี "เกมวิทยาศาสตร์สุดหรรษา" ซึ่งประกอบไปด้วยเกมต่างๆมากมาย เช่น เกมหลุมหลอกตา เกมโยนหาเลข เกมท้ามาช็อต และเกมต่อไพ่ไอน์สไตน์ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ที่มาร่วมงานทุกคนยังจะได้รับของที่ระลึกจาก อพวช. เป็นปฏิทินชนิดพิเศษที่นำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการอ่านปฏิทิน ซึ่งมีทั้งแบบตั้งโต๊ะ แบบแขวน และแบบพกพา ให้ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอีกด้วย
กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จัดพิธีมอบหนังสือเดินทางสู่เส้นทางนักวิทยาศาสตร์