"น้ำผลไม้สายพันธุ์ใหม่” ใครบอกว่าแลคโตบาซิลลัสมีเฉพาะในน้ำนม?

เคยไหม? ที่อยู่ๆอยากดื่มอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำนมหรือโยเกิร์ต เพราะมีแลคโตบาซิลลัส แต่ไม่ชอบรสชาติ หากคุณเคย ก็ไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามี”น้ำผลไม้สายพันธุ์ใหม่” ฝีมือคนไทย ที่ให้สารอาหารเทียบเท่ากับการดื่มนมเลยทีเดียว

“น้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของเชื้อแลคโตบาซิลลัส” เป็นนวัตกรรมที่ได้อันดับ 10 จากการประกาศผลการคัดเลือก “10 สุดยอดนวัตกรรมไทย” ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และเป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ 100% ที่มีส่วนผสมของของจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "วาย-ซ่า"(Y-Za) ของบริษัทซีแอนด์ เอ โปรดักส์ จำกัด โดยนำน้ำผลไม้หมักด้วยเชื้อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารเสริมชีวนะ(Probiotic) เพื่อเพิ่มคุณค่าและรสชาติด้วยน้ำผลไม้ 100% และวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และแคลเซียม

นายวรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานกรรมการ บริษัทซีแอนด์ เอ โปรดักส์ จำกัด เล่าว่า เดิมได้ผลิตน้ำผลไม้ออกขายยังต่างประเทศ จนเกิดแนวคิดที่จะหาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างน้ำผลไม้เดิม จึงเริ่มทดลองนำตัวแลคโตบาซิลลัสมาผสมในน้ำผลไม้ ซึ่งแลคโตบาซิลลัสส่วนใหญ่จะเจอในน้ำนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต แต่เนื่องจากมีคนบางกลุ่มแพ้นม หรือรับประทานนมแล้วกลัวอ้วน การผลิตน้ำผลไม้ที่มีแลคโตบาซิลลัส จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของน้ำผลไม้ที่ต้องการแลคโตบาซิลลัส ช่วยย่อยในระบบทางเดินอาหาร

“ปกติในน้ำผลไม้ 100% จะมีวิตามิน เกลือแร่ แคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว หากมีแลคโตบาซิลลัส ช่วยในระบบทางเดินอาหาร เมื่อทานไปเรื่อยๆก็จะสะสมและยึดเกาะผนังลำไส้และเจริญเติบโต โดยจะเกิดประโยชน์ต่างๆแก่ร่างกาย เช่น ยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ ช่วยลดคลอเลสเทอรอลในกระแสเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง สร้างสารปฏิชีวนะบางอย่าง สร้างวิตามินบี1 บี 2 บี 6 บี 12 และช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้ด้วย” นายวรวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ “น้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของเชื้อ แลคโตบาซิลลัส” จะมีรสส้ม องุ่น กีวี และผลไม้รวม ซึ่งได้นำมาวางจำหน่ายจริงตั้งแต่ต้นปี 2548 โดยมุ่งเจาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทฯ มองว่า แนวโน้มของเครื่องดื่มสุขภาพกำลังเข้ามาแทนที่เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม อีกทั้งกลุ่มเด็กและวัยรุ่นปัจจุบันยังหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น และชอบสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆอีกด้วย

ประธานกรรมการ บริษัทซีแอนด์ เอ โปรดักส์ จำกัด ยังบอกอีกว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดในกลุ่มอาหาร นอกจากต้องคำนึงถึงรสชาติเป็นหลักแล้ว ในปัจจุบันยังต้องเพิ่มคุณค่าเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้นด้วย โดยที่ผ่านมาบริษัทฯได้ทดลองนำสินค้าที่ผลิตส่งออก เช่น “มะพร้าว” มาพัฒนาและวิจัยร่วมกับภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลับเกษตรศาสตร์ แต่ปรากฎว่ารสชาติไม่ดี จึงหันมาทดลองผสมกับน้ำผลไม้ ซึ่งได้รสชาติอร่อย นอกจากนี้ การนำน้ำผลไม้ผสมกับ แลคโตบาซิลลัส ยังปราศจากไขมัน และช่วยต้านทานการติดเชื้อในลำไส้และเสริมภูมิต้านทานในร่างกายอีกด้วย

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาสินค้าประเภทน้ำผลไม้ผสมแลคโตบาซิลลัส มีเพียงในประเทศฟินแลนด์เท่านั้น ซึ่งประเทศไทยเป็นรายที่สองของโลก ซึ่งแนวโน้มตลาดในฟินแลนด์ที่มีการทำตลาดมาก่อนนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จนกระทั่งกลุ่มดานอน ซึ่งเป็นเจ้าของยาคูลท์เข้าไปซื้อกิจการหลังเปิดตัวสู่ตลาดเพียง 2 ปีเท่านั้น

“น้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของเชื้อแลคโตบาซิลลัส” นับเป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทยที่น่าจับตามอง โดยเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่ชอบแลคโตบาซิลลัส แต่ไม่ชอบดื่มนม!!