แกรนด์สปอร์ตจับมือนาโนเทคผนึกนาโนเทคโนโลยีลงเสื้อกีฬา ยับยั้งเชื้อ กันน้ำ กันเปื้อน พร้อมนำร่องวางตลาด 1,000 ตัว ก.ค.นี้ รอง ผอ.นาโนเทคเผยใช้นาโนซิลเวอร์ยับยั้งแบคทีเรียดีกว่าไททาเนียมไดออกไซด์เพราะไม่ต้องพึ่งแสงแดด ด้านแกรนด์สปอร์ตเผยผลิตให้นักกีฬาใช้ทันเอเชียนเกมส์ปลายปีแน่
บริษัท แกรนด์ สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ได้ทำพิธีลงนามความร่วมมือกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ในการนำวิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงการผลิตเสื้อผ้าชุดกีฬา ณ อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย วันนี้ (5 ม.ค.) โดยความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 5 ปี พร้อมทั้งแสดงเสื้อแจ็กเก็ตซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเปื้อน และต่อต้านเชื้อโรค
ดร.ธีระชัย พรสินศิริรักษ์ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติเล่าถึงความเป็นมาของความร่วมมือว่าได้ร่วมมือกันพัฒนาเสื้อดังกล่าวมา 4-5 เดือนแล้ว โดยเริ่มต้นอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และในเดือน ก.ย.ทาง “แกรนด์สปอร์ต” ได้ส่งผ้ามาทดสอบ จากนั้นก็ทำการทดสอบเรื่อยมา จนกระทั่งได้ตกลงทำพิธีลงนาม
สำหรับเสื้อแจ็กเก็ตดังกล่าวนั้นผลิตจากผ้าทอที่เคลือบสารหลักๆ คืออนุภาค “นาโนซิลเวอร์” และสารฟลูออโรคาร์บอน ซึ่งช่วยให้ผ้ามีสมบัติยับยั้งเชื้อโรค กันน้ำและกันเปื้อนได้ และหากเปื้อนสารที่มีความหนืดก็ซักออกได้ง่าย และสามารถซักได้ประมาณ 30 ครั้งจึงทำให้สารที่เคลือบมีฤทธิ์อ่อนลง โดยสารที่ใช้เคลือบเสื้อผ้านั้นเป็นสารที่นำเข้าจากต่างประเทศ และทางศูนย์ทำหน้าที่ทดสอบว่าผ้าที่เคลือบสารนั้นมีคุณสมบัติตามต้องการหรือไม่
ทั้งนี้การนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอนั้นมีสาร 2 ชนิดที่ได้รับความนิยมคือนาโนซิลเวอร์และนาโนไททาเนียมไดออกไซด์ แต่ ดร.ธีระชัยอธิบายว่านาโนซิลเวอร์มีคุณสมบัติดีกว่าตรงที่ไม่ต้องอาศัยแสงร่วมในการฆ่าเชื้อโรคเหมือนอนุภาคไททาเนียมไดออกไซด์ และยังได้รับการยอมรับมากกว่า อีกทั้งไททาเนียมไดออกไซด์ยังทำให้ผ้าที่ย้อมสีซึ่งเป็นสารอินทรีย์ซีดเร็วกว่าด้วย
ส่วนความแตกต่างของเสื้อนาโนซึ่งทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ใช้อนุภาคซิลเวอร์นาโนที่ผลิตออกมาก่อนหน้านี้นั้น เสื้อที่ทางนาโนเทคร่วมกับแกรนด์สปอร์ตนนั้นมีคุณสมบัติมากกว่า ไม่ใช่แค่ดับกลิ่นหรือต้านเชื้อโรคอย่างเดียว แต่ยังกันน้ำและกันเปื้อนได้
ด้านนางสุชาดา นิมากร ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ตเผยว่าทางบริษัทมีโรงงานทอผ้าเป็นของตัวเองอยู่แล้วและเห็นว่านักวิทยาศาสตร์ไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ร่วมได้จึงได้ร่วมมือกันพัฒนาเสื้อดังกล่าวขึ้น และคาดว่าจะพัฒนากับเสื้อผ้ากีฬาประเภทอื่นอีกต่อไป ในส่วนของความร่วมมือนั้นทางบริษัททำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างโรงงานทอผ้าและนาโนเทค โดยทางโรงงานจะผลิตผ้าที่เคลือบสารและส่งมาให้ทางศูนย์ทดสอบว่ามีคุณสมบัติตามต้องการหรือไม่
ทั้งนี้คาดว่าจะผลิตเสื้อแจ็กเก็ตออกมานำร่องวางตลาดก่อนประมาณ 1,000 ตัวในเดือน ก.ค.นี้ และจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง ส่วนราคาจะเพิ่มจากเสื้อแจ็กเก็ตปกติประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ โดยปกติเสื้อแจ็กเก็ตของทางแกรนด์สปอร์ตมีราคาประมาณ 695 -1,155 บาท พร้อมกันนี้นางสุชาดายังได้ให้ความหวังว่านักกีฬาไทยจะได้เสื้อกีฬานาโนทันการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่มีจะขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ ณ ประเทศการ์ตา