xs
xsm
sm
md
lg

“ล็อคเกอร์เก็บของอัตโนมัติ” เทคโนโลยีลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจและหน่วยงานที่ให้บริการ จําเป็นต้องจัดใหมีช่องเก็บสัมภาระของผู้รับบริการ โดยเน้นถึงความสะดวก ปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก แต่เมื่อขอบเขตความต้องการใช้งานบริการขยายขึ้นและกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ยังต้องนำเข้าช่องเก็บสิ่งของต่างๆจากต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนค่าเช่าล็อกเกอร์ตามสถานบริการต่างๆมีราคาสูงขึ้นไปด้วย ดังนั้นหากมีการพัฒนาเทคโนโลยีตู้เก็บสิ่งของแบบอัตโนมัติขึ้นใช้เอง ย่อมจะส่งเสริมและช่วยลดการขาดดุลในการนำเข้าสินค้าประเภทนี้

นายพิเชษฐ์ กันทะวัง ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร คณะวิศวกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อาจารย์ที่ปรึกษาหัวหน้าโครงงาน การออกแบบสร้างช่องเก็บสิ่งของแบบอัตโนมัติ (Designed and Construction of Automatic Locker) หนึ่งในโครงการทุนอุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)สร้างและออกแบบช่องเก็บสิ่งของแบบอัตโนมัติ เพื่อทดแทนการนำเข้าสินค้าประเภทนี้จากต่างประเทศ

หัวหน้าโครงงาน กล่าวว่า โครงงานนี้เริ่มจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้เสนอแนวทางวิจัยให้พัฒนาซอฟแวร์สร้างและออกแบบช่องเก็บสิ่งของอัตโนมัติขึ้นทดแทนการนำเข้าเทคโนโลยีดังกล่าวจากต่างประเทศ คณะผู้วิจัยจึงเริ่มพัฒนาโดยการใช้ตู้ล็อกเกอร์ธรรมดาที่มีขนาดช่องบรรจุ 6 ช่องออกแบบด้วยการใส่กลอนไฟฟ้าและควบคุมระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า

โดยหลักการทำงานของช่องเก็บสิ่งของแบบอัตโนมัตินั้นจะแบ่งการทํางานออกเป็นสองสวนหลักๆ ได้แก่ส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ส่วนฮาร์ดแวร์จะประกอบด้วยภาคการทำงานหลักๆ อาทิ ภาคสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งมีการนำมาใช้ในระบบรักษาความปลอดภัยหลายรูปแบบอย่างการใช้รหัสลับบัตรแถบแม่เหล็ก หรือการสแกนม่านตา ฉะนั้นจึงตองมีการออกแบบใหเหมาะสมตอการใชงานเพื่อให้ไดข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

งานวิจัยนี้จึงออกแบบลักษณะการวางตัวเซนเซอรลายพิมพ์นิ้วมือในลักษณะทํามุมกับผนังที่ติดตั้ง 90 องศา เพื่อใช้สะดวกต่อผู้ใช้งานและทําให้การวางลายนิ้วมือแนบสนิทกับตัวเซนเซอรไดดีส่วนระยะที่เหมาะสมสํารับความสูงจากพื้นก็จะอยูประมาณ 42 ถึง 48 นิ้วครึ่งจะไมสูงหรือต่ำไปกว่านี้ นอกจากนี้แล้วหากมีการออกแบบเพื่อใหสะดวกต่อการใช้งานสําหรับผู้ใชอาจจะอยู่ในลักษณะทํามุม 45 องศา สําหรับตัวเซนเซอรซึ่งมีความสูงที่เหมาะสมจากพื้น นอกจากนี้ช่องเก็บสิ่งของอัตโนมัติดังกล่าวยังประกอบด้วยภาครับสัญญาณจากช่องหยอดเหรียญ ภาคควบคุมการออกแบบสวนซอฟต์แวร โดยออกแบบให้มีการเชื่อมตอกับผูใช้โดยตรง

หัวหน้าโครงงานกล่าวอีกว่า ระบบปัจจุบันของช่องเก็บของหรือล็อกเกอร์แบบทั่วไปนั้นต้องอาศัยกุญแจในการใช้งาน แต่สำหรับตู้ล็อกเกอร์อัตโนมัตินี้ไม่จำเป็นต้องมีกุญแจ เพียงอาศัยการสแกนลายนิ้วมือก็ใช้งานได้ทันที โดยระบบนี้ยังมีราคาค่าบริการคงที่คือจ่ายตามจริงที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น ชั่วโมงละ 1 บาทก็หยอดเหรียญลงไปในเครื่อง 1 บาทหลังใช้บริการ ระบบก็จะทำการปลดล็อกอัตโนมัติให้สามารถนำของออกจากล็อกเกอร์ได้

หัวใจสำคัญของการทำงานนี้จะอยู่ที่ระบบไมโครคอนโทรลเลอร์(Micro Controller) ที่จะทำหน้าที่ป้อนข้อมูลของลายนิ้วมือเข้าสู่เครื่อง โดยผู้ใช้ต้องแสดงตนด้วยการวางนิ้วมือใดก็ได้บนตัวเซนเซอร์ลายนิ้วมือที่ติดอยู่กับเครื่องและระบบจะตอบรับผู้ขอใช้บริการโดยการแสดงสัญญาณช่องว่างให้กับผู้ใช้และปลดกลอนไฟฟ้าที่ล็อกเกอร์ช่องนั้นให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้นคนฝากของและนำของออกจากล็อกเกอร์จึงต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน เพื่อระบบป้องกันความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง

จากนั้นเมื่อใช้บริการล็อกเกอร์อัตโนมัติเสร็จแล้วระบบจะทำการลบข้อมูลของผู้ใช้ก่อนหน้านั้น เพื่อที่จะสามารถให้บริการกับผู้ใช้รายต่อไปได้ แต่หากมีกรณีผิดพลาดขณะใช้งาน เช่น ไม่สามารถปลดล็อกได้เมื่อใช้งาน ทางผู้วิจัยได้วางแนวทางการป้องกันไว้ อาทิ ได้ออกแบบระบบให้สามารถเข้าไปได้โดยไม่ต้องใช้การสแกนลายนิ้วมือโดยอาจใช้เป็นรหัสปลดล็อกแทนด้วยการตั้งรหัสของผู้วางระบบเอง คล้ายการทำงานของระบบบัตร ATM เพื่อให้เข้าไปแก้ไขปลดล็อกได้

โครงงานนี้สามารถนำผลิตภัณฑอย่างล็อกเกอร์ธรรมดาที่มีอยู่ในประเทศ มาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มได้ด้วยการนําเทคโนโลยีมาเสริมให้มีความถูกต้องแม่นยํา ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัย อีกทั้งมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าสินค้าจากต่างประเทศถึง 1-2 เท่า แต่ต้องมีการพัฒนาผลงานนี้ต่อไปให้ลดข้อผิดพลาด มีประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด และเพื่อให้เกิดการเรียนรู้การสร้างเทคโนโลยีด้านนี้ขึ้นใช้งานได้เอง” นายพิเชษฐ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น