ใช้งานวิจัยหนุนชาวเขาผลิตเห็ดเมืองหนาว

ประวิชเผยหลังเยือนเชียงใหม่เยี่ยมการทำงานศูนย์วิจัยเห็ดเมืองหนาว เห็นควรพัฒนาการเพาะเห็ดให้มากพอทำการค้าเพราะประชาชนนิยมรับประธาน พร้อมเผยการทำงานของสถาบันวิจัยช่วยหนุนให้เกิดการปลูกกาแฟที่ใหญ่สุดในเชียงใหม่
 
จากการเยี่ยมชมการทำงานของศูนย์วิจัยเห็ดเขตหนาว จ.เชียงใหม่ หน่วยงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เปิดเผยว่าเห็ดเขตหนาวที่ทางศูนย์ทำวิจัยนั้นเป็นเห็ดธรรมชาติที่ประชาชนนิยมรับประทาน จึงต้องการพัฒนาการเพาะเห็ดให้ได้เป็นจำนวนมากพอที่จะทำเป็นการค้า

ดร.ประวิชกล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมา วว.ได้เข้าร่วมงานกับโครงการหลวง โดยนำเชื้อเห็ดหอมจากประเทศญี่ปุ่นมาศึกษาทดลองที่สถานีวิจัยดอยปุยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า เชื้อเห็ดหอมเจริญเติบโตได้ดี ม.จ.ภีรเดช รัชนี ประธานโครงการหลวงจึงทรงสนพระทัยและทรงให้ วว.ร่วมโครงการ โดยในระยะแรกเป็นการทดลองเพาะเห็ดหอมเพื่อทดสอบพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ด หลังจากนั้นได้นำความรู้ดังกล่าวไปถ่ายทอดให้เกษตรกรบนที่สูงเพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริม จนกระทั่งปัจจุบันได้เผยแพร่ให้แก่ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ

ทั้งนี้ระหว่าง พ.ศ.2517-2520 วว.ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก United State Department of Agriculture (USDA) เพื่อศึกษาวิธีเพาะเห็ดกระดุมให้เป็นรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา และได้ทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวทำเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง ต่อมามีเกษตรต้องการปลูกพืชชนิดอื่นแทน “เมี่ยง” ซึ่งมีราคาตกต่ำ วว.จึงได้ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวงนำการเพาะเห็ดหอมและกาแฟเข้าไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกรที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าเมี่ยงและศูนย์พัฒนาโครงการหลงตีนตก จนกลายเป็นแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าแหล่งใหญ่ที่สุดใน จ.เชียงใหม่

ดร.ประวิชกล่าวว่าผลงานดังกล่าวได้ขยายสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยมีบริษัทสหฟาร์มเห็ด จำกัด ทำการผลิตเห็ดเข็มทองทดแทนการนำเข้าและสามารถส่งออกได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการ จ.เชียงใหม่ได้ผลิตเห็ดโคนหลวงเพื่อจำหน่ายในประเทศ และล่าสุดได้ถ่ายทอดให้กับบริษัทปิยะพร เอโกรโลยี จำกัดใน จ.สระบุรี ผลิตเห็ดนางรมหลวงเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกด้วย