เจ้าฟ้าหญิงทรงเปิดสัมมนา “เครื่องมือวิทย์ราคาแพง” ทรงแนะต้องเอื้อเฟื้อการใช้เครื่องมือต่อกันเพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เนื่องจากไทยยังผลิตเองไม่ได้ พร้อมทรงบรรยายพิเศษและทรงยกตัวอย่างเครื่องมือวิทย์ที่ทรงใช้ พร้อมตรัสต่อไปสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์จะเน้นด้านการแพทย์มากขึ้น
วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 16.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการสัมมนา “การใช้และดูแลเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนราคาแพง” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งจัดขึ้นโดยราชบัณฑิตยสถานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีนายกราชบัณฑิตยสถาน ประธานกรรมการสภาวิจัย เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและคณะกรรมการจัดสัมมนาฯ เฝ้ารับเสด็จ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ทรงมีพระราชดำรัสว่าในการพัฒนาประเทศจะต้องอาศัยงานวิจัยเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งในการทำงานวิจัยจำเป็นต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ช่วยในการวิจัยเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การจัดงานสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นเรื่องน่ายินดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
“ข้าพเจ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ เข้าใจดีถึงปัญหาของการใช้และดูแลเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เพราะประเทศไทยยังมีข้อจำกัดในด้านทรัพยากรและยังไม่สามารถผลิตเครื่องมือที่ซับซ้อนและทันสมัยได้เอง ทำให้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการสั่งซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ จากต่างประเทศ การใช้ทรัพยากรจึงต้องใช้อย่างคุ้มค่า โดยต้องมีการเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่จะทำให้ผู้วิจัยได้รับประโยชน์จากการใช้เครื่องมือมากขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเครื่องมือเป็นปัญหาที่น่าจะมีการทำความตกลงกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม”
จากนั้นทรงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีประทับบรรยายพิเศษเรื่อง “เครื่องมือวิทยาศาสตร์กับงานวิจัย” โดยได้ทรงยกตัวอย่างเครื่องมือวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นเครื่องมือประเภทตรวจสอบสเปกตรัม (Spectroscopy) และส่วนใหญ่ทรงใช้ในสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พร้อมทั้งบรรยายคุณสมบัติและการทำงานของเครื่องมือต่างๆ อาทิ เครื่อง UV/VIS ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดูดกลืนแสงในช่วงคลื่นต่างๆ เครื่องไออาร์ (IR Spectroscopy) ที่ใช้ดูลักษณะพันธะทางเคมีซึ่งปัจจุบันมีเครื่องเอฟทีไออาร์ (FTIR) ซึ่งเป็นเครื่องที่พัฒนามาจากเครื่องไออาร์แต่มีความไวในการวัดและมีความละเอียดกว่า
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ทรงบรรยายถึงเครื่องเอชพีแอลซี (HPLC) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานเภสัชกรรมและใช้ดูโครงสร้างของยาหรือสมุนไพรได้ โดยใช้หลักการทำงานของความดันสูงและได้พัฒนามาจากการความดันต่ำก่อน ทรงบรรยายว่าต่อไปการตรวจสอบโครงสร้างของตัวยาจะง่ายขึ้นแค่เพียงใส่สารละลายลงในเครื่องก็จะสามารถที่บอกโครงสร้างของตัวยาหรือสารละลายนั้นๆ ได้
หลังจากทรงบรรยายเสร็จแล้วได้เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการที่บริษัทต่างๆ ได้นำเครื่องมือมาจัดแสดง ซึ่งมีบริษัทที่ทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้สั่งซื้อเครื่องมือด้านการตรวจและรักษาโรคมะเร็งมาจัดแสดงด้วย ทรงมีพระดำรัสกับผู้ตามเสด็จว่าต่อไปสถาบันฯ จะมุ่งเน้นไปทางการแพทย์มากขึ้นโดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง จากนั้นได้ร่วมฉายพระรูปกับคณะกรรมการจัดงานก่อนที่จะเสด็จกลับ
วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 16.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการสัมมนา “การใช้และดูแลเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนราคาแพง” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งจัดขึ้นโดยราชบัณฑิตยสถานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีนายกราชบัณฑิตยสถาน ประธานกรรมการสภาวิจัย เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและคณะกรรมการจัดสัมมนาฯ เฝ้ารับเสด็จ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ทรงมีพระราชดำรัสว่าในการพัฒนาประเทศจะต้องอาศัยงานวิจัยเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งในการทำงานวิจัยจำเป็นต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ช่วยในการวิจัยเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การจัดงานสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นเรื่องน่ายินดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
“ข้าพเจ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ เข้าใจดีถึงปัญหาของการใช้และดูแลเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เพราะประเทศไทยยังมีข้อจำกัดในด้านทรัพยากรและยังไม่สามารถผลิตเครื่องมือที่ซับซ้อนและทันสมัยได้เอง ทำให้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการสั่งซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ จากต่างประเทศ การใช้ทรัพยากรจึงต้องใช้อย่างคุ้มค่า โดยต้องมีการเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่จะทำให้ผู้วิจัยได้รับประโยชน์จากการใช้เครื่องมือมากขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเครื่องมือเป็นปัญหาที่น่าจะมีการทำความตกลงกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม”
จากนั้นทรงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีประทับบรรยายพิเศษเรื่อง “เครื่องมือวิทยาศาสตร์กับงานวิจัย” โดยได้ทรงยกตัวอย่างเครื่องมือวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นเครื่องมือประเภทตรวจสอบสเปกตรัม (Spectroscopy) และส่วนใหญ่ทรงใช้ในสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พร้อมทั้งบรรยายคุณสมบัติและการทำงานของเครื่องมือต่างๆ อาทิ เครื่อง UV/VIS ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดูดกลืนแสงในช่วงคลื่นต่างๆ เครื่องไออาร์ (IR Spectroscopy) ที่ใช้ดูลักษณะพันธะทางเคมีซึ่งปัจจุบันมีเครื่องเอฟทีไออาร์ (FTIR) ซึ่งเป็นเครื่องที่พัฒนามาจากเครื่องไออาร์แต่มีความไวในการวัดและมีความละเอียดกว่า
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ทรงบรรยายถึงเครื่องเอชพีแอลซี (HPLC) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานเภสัชกรรมและใช้ดูโครงสร้างของยาหรือสมุนไพรได้ โดยใช้หลักการทำงานของความดันสูงและได้พัฒนามาจากการความดันต่ำก่อน ทรงบรรยายว่าต่อไปการตรวจสอบโครงสร้างของตัวยาจะง่ายขึ้นแค่เพียงใส่สารละลายลงในเครื่องก็จะสามารถที่บอกโครงสร้างของตัวยาหรือสารละลายนั้นๆ ได้
หลังจากทรงบรรยายเสร็จแล้วได้เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการที่บริษัทต่างๆ ได้นำเครื่องมือมาจัดแสดง ซึ่งมีบริษัทที่ทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้สั่งซื้อเครื่องมือด้านการตรวจและรักษาโรคมะเร็งมาจัดแสดงด้วย ทรงมีพระดำรัสกับผู้ตามเสด็จว่าต่อไปสถาบันฯ จะมุ่งเน้นไปทางการแพทย์มากขึ้นโดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง จากนั้นได้ร่วมฉายพระรูปกับคณะกรรมการจัดงานก่อนที่จะเสด็จกลับ