xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มๆ ม.ต้น “แปดริ้ว” คว้าชัยหุ่นยนต์ชักเย่อ เตรียมแข่งต่อแดนมังกร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


^^ คลิกที่นี่เพื่อรับชมวีดีโอคลิป
ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia
การแข่งขันหุ่นยนต์ข้ามสิ่งกีดขวางรอบชิงชนะเลิศ^^


นักเรียน ม.ต้น จากฉะเชิงเทราคว้าชัยเป็นตัวแทนไปประกอบหุ่นยนต์แข่งชักเย่อและข้ามเครื่องกีดขวาง หลังจากรุ่นพี่ได้แชมป์เป็นตัวแทนเมื่อต้นปี ด้านโรงเรียนพร้อมหนุนเปิดชุมชนพร้อมอัดฉีดค่าใช้จ่าย ขณะที่หลายโรงเรียนไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน อาศัยสนามนี้เป็นที่ประเดิมก่อนกลับไปฟิตมาชิงชัยอีกครั้ง

การแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชนอาชีวะชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งที่ 1 จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษาและบริษัท สยาม ทามิยะ จำกัดเพื่อคัดเลือกตัวแทนไปแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ “ไชน่า มาเก๊า โอลิมปิก 2005” (China Macau Olympic 2005) ณ ประเทศจีน ก็ได้ผู้ชนะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแล้วเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต โดยมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเข้าร่วมแข่งขัดคัดเลือกทั้งหมด 29 ทีมจากทั่วประเทศ ซึ่งทีม "แปดริ้ว 1" จากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 ฉะเชิงเทราสามารถฝ่าฟันจนกลายเป็นผู้แทนประเทศไทยได้สำเร็จ

ทั้งนี้ กติกาในการแข่งขันนั้น กำหนดให้แต่ละทีมมีสมาชิกได้ไม่เกิน 10 คน อาจารย์ที่ปรึกษาไม่เกิน 5 คนเงื่อนไข สำหรับแต่ละทีมคือต้องออกแบบหุ่นยนต์โดยใช้หุ่นยนต์มอเตอร์เดียวเพื่อแข่งขันหุ่นยนต์ชักเย่อและหุ่นยนต์ข้ามเครื่องกีดขวาง โดยมีข้อกำหนดว่าแต่ละทีมจะต้องใช้เกียร์บอกซ์ (Gear Box) รุ่น 70093 ของทามิยะและจำกัดให้ใช้แบตเตอรีดูราเซลล์ อัลคาไลน์เท่านั้น และออกแบบอยู่ภายใต้เงื่อนไขของขนาดและน้ำหนักหุ่นยนต์แต่ละประเภท

นายกิตติภัฏ พุ่มพระภา กรรมการตัดสินการแข่งขันอธิบายกติกาคร่าวๆ ว่าผลการตัดสินมาจากคะแนนรวมสูงสุดของการแข่งขันทั้ง 2 ประเภทคือหุ่นยนต์ชักเย่อและหุ่นยนต์ข้ามสิ่งกีดขวาง สำหรับหุ่นยนต์ชักเย่อจะสังเกตจากธงเหลืองว่าฝ่ายใดสามารถดึงหุ่นยนต์ฝ่ายตรงข้ามเข้าเขตของตนได้ก่อนกันจะเป็นฝ่ายชนะ โดยทีมที่ได้เปรียบมักจะเป็นทีมที่มีการออกแบบอัตราทดมาก (คือทำให้มอเตอร์มีความเร็วน้อย) เพื่อเพิ่มความหน่วง

ส่วนหุ่นยนต์ข้ามสิ่งกีดขวางนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องบังคับขึ้นทางลาด ทางเลี้ยวซ้าย-ขวา และไปให้ถึงเป้าหมายภายในเวลา 3 นาที โดยทีมใดใช้เวลาน้อยกว่าจะเป็นฝ่ายเข้ารอบ และแต่ละทีมจะมีคนแนะเส้นทาง (navigator) ได้ 1 คน ทั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันหุ่นยนต์ทั้ง 2 ประเภทนั้นต้องไม่ดึง ไม่กระชาก ไม่สัมผัสหุ่นยนต์ด้วยมือ หากผิดกติกาจะถูกตัดเวลา 10 วินาที” นายกิตติภัฏอธิบายการแข่งขัน

ในการแข่งขันหุ่นยนต์ข้ามเครื่องกีดขวางรอบชิงชนะเลิศ ทีมแปดริ้ว 1 และทีมแปดริ้ว 2 จากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 ฉะเชิงเทราเข้าชิงกันเอง ทั้ง 2 ทีมต่างบังคับหุ่นยนต์ข้ามเครื่องกีดขวางซึ่งมีลักษณะและการเดินคล้ายแมงมุมให้ขึ้นทางลาด เลี้ยวซ้าย-ขวาผ่านแท่งกีดขวางเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย และเพียงไม่ถึงอึดใจทีมแปดริ้ว 1 ก็สามารถบังคับหุ่นยนต์ไปถึงเป้าหมายได้ก่อน 2 ครั้ง จึงชนะไป พร้อมทั้งสร้างสถิติใหม่โดยใช้เวลาเพียง 14 วินาทีบังคับหุ่นยนต์ให้ถึงเป้าหมาย

การแข่งขันครั้งนี้หลายทีมยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และบางทีมก็เข้าใจกติกาคลาดเคลื่อนว่าให้เลือกแข่งขันหุ่นยนต์ประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น ในการแข่งขันวันสุดท้าย (19 มิ.ย.) ซึ่งมีการแข่งขันหุ่นยนต์นั้น หลายทีมที่ไม่ได้เตรียมตัวมาขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน แต่บางทีมก็ต้องการสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเองทั้งที่เห็นแววว่าทีมจากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 ฉะเชิงเทราชนะขาดแน่ๆ

ระหว่างการแข่งขันหุ่นยนต์ข้ามเครื่องกีดขวางรอบคัดเลือกก่อนเข้าชิงชัยนั้น หุ่นยนต์ของบางทีมที่เพิ่งประดิษฐ์ได้เพียงชั่วข้ามคืนหลังจากทราบภารกิจว่าต้องแข่งขันหุ่นยนต์ประเภทนี้ด้วยก็ออกอาการ “ย่ำเท้าอยู่กับที่” ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามที่เตรียมตัวมาดีกว่านำเข้าเส้นชัยไปก่อน หรือบางทีมที่ออกแบบหุ่นยนต์ให้รูปร่างใหญ่เกินไปก็ทำให้การเลี้ยวไม่คล่องจึงต้องแพ้ไปเพราะถูกนำเข้าเส้นชัยไปก่อน

พร้อมกันนี้ ภายในการแข่งขันยังมีการแสดงหุ่นยนต์คอนโดจากประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะๆเพื่อคั่นการแข่งขัน โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมจำนวนมาก ซึ่งความน่ารักของเจ้าคอนโดอยู่ตรงที่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนคน นอกจากนี้ยังสามารถเตะฟุตบอลได้ และร้องเพลงได้อีกด้วย ทั้งนี้คอนโดเป็นหุ่นยนต์ที่ควบคุมให้เคลื่อนไหวโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และสามารถเปลี่ยนแปลงท่าทางได้ตามคำสั่งของผู้ควบคุม

หลังการแข่งขัน ด.ช. สิทธิโชค ชีสังวรหรือไทด์ ชั้น ม.3 หัวหน้าทีม "แปดริ้ว 1" เปิดเผยถึงการทำงานว่า ในทีมทั้งหมด 6 คนจะแบ่งกันตามหน้าที่ โดยไทด์ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับหุ่นยนต์พร้อมกับผู้ช่วยอีก 1 คน และจะมีเพื่อนอีก 2 คนวางกลยุทธ์และแผนรับมือฝ่ายตรงข้าม รวมถึงเพื่อนที่เหลือซึ่งทำหน้าที่ข้อมูลและจัดการทางด้านเทคนิค แต่เมื่อมีปัญหาที่ต้องตัดสินใจ จะไม่ให้ใครชี้ขาด แต่จะช่วยกันคิดและแก้ปัญหาโดยฟังความเห็นส่วนใหญ่ซึ่งมีเหตุผลมากพอ

“ส่วนมากปัญหาที่เจอเป็นเรื่องเทคนิค อย่างหุ่นยนต์ทรงตัวไม่ดี เดินไม่ตรง พวกเราต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนบางชิ้นแต่จะเปลี่ยนชิ้นไหนและจะเปลี่ยนไปใช้อะไร แบบนี้เราจะมีการคุยกัน แล้วค่อยลองปรับดู ทดลองเปลี่ยนไปจนกว่าหุ่นจะเดินได้สมดุล ซึ่งปัญหานี้สำคัญเพราะถ้าบังคับแล้วหุ่นเดินไม่ตรง มันจะเสียเวลาชนซ้าย ชนขวาก่อนจะไปถึงเป้าหมาย ทำให้ต้องใช้เวลานานออกไป” ไทด์กล่าว

สำหรับความสำเร็จของทีม "แปดริ้ว 1" ที่ทิ้งคู่แข่งอย่างขาดลอยเลยนั้น เห็นจะเป็นเพราะความสำเร็จของรุ่นพี่ที่ได้แข่งขันหุ่นยนต์ประเภทเดียวกันนี้เมื่อช่วงเดทอนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและได้เป็นตัวแทนไปแข่งที่จีน โดยการแข่งขันครั้งก่อนนั้นได้คัดเลือกตัวแทนจากการแข่งขันของทีมแต่ละภาค ซึ่งการแข่งขันครั้งที่ผ่านมานั้นไม่ได้เปิดรับทีมจากโรงเรียนในกรุงเทพฯ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย การแข่งขันนี้จึงเปิดโอกาสให้นักเรียนจากกรุงเทพฯ และทีมที่พลาดหวังจากการแข่งขันครั้งที่ผ่านมาเพื่อคัดเลือกตัวแทนอีก 1 ทีมไปแข่งขันที่ประเทศจีน

“พวกเราเพิ่งรู้ข่าวทามิยะจัดแข่งรอบเปิดเมื่อประมาณ 3 อาทิตย์ก่อน หลังจากตั้งทีมขึ้นมาแล้วเราจึงไปปรึกษาอาจารย์ว่าพวกเราสนใจอยากแข่ง จะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะต้องแข่งภายใต้การส่งของโรงเรียน แล้ววันนั้นเราก็เอาหุ่นยนต์ที่เราออกแบบไว้ไปให้อาจารย์ดูด้วย แต่หุ่นยนต์ที่ออกแบบไว้ไม่ได้ผ่านในครั้งแรก เราปรับแก้มาตลอดกว่าจะมาลงตัวเป็นตัวที่นำมาแข่งวันนี้” ไทด์เสริม

ด้านนายธนภณ ธรรมรักษ์ อาจารย์ที่ปรึกษาการของทีม "แปดริ้ว 1" เล่าให้ฟังว่าได้สอนให้เด็กได้รู้จักคิดและทดลองแบบวิทยาศาสตร์ไปด้วยจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่นให้คิดระบบเฟือง ล้อ ด้วยตัวเองก่อน เมื่อเจอปัญหาหุ่นยนต์เดินไม่สมดุลก็จะไม่บอกวิธีแก้ แต่จะให้นักเรียนได้ลองผิดลองถูกก่อน ซึ่งเขาก็ทราบว่าวิธีแก้จริงๆ นั้นเกี่ยวข้องกับแรงเหวี่ยง และพื้นผิวสัมผัสของล้อที่จะช่วยให้หุ่นทรงตัวได้ดีขึ้น แต่เขาก็ปล่อยให้นักเรียนหาทางออกเองก่อน

“ตอนแรกเด็กๆ ออกแบบให้กระบะแบตเตอรีอยู่ด้านหน้า แล้วทำพื้นล้อจากพลาสติก ก็ได้ให้แนะเขาลองเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นแทน เด็กๆ ก็ลองหลายแบบ ทำแล้วทดลองจับเวลาการวิ่ง ทดลองมันอยู่อย่างนั้นจนในที่สุดก็มาลงตัวที่ล้อพื้นหุ่นยนต์จากยางในรถมอเตอร์ไซค์ แล้วแบตเตอรี่ก็ย้ายมาอยู่ด้านหลังแทนพร้อมกับต่อเสาขึ้นมาเพื่อเพิ่มสมดุล” นายธนภณกล่าว

ที่สำคัญ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 นั้นมีชุมนุมหุ่นยนต์ให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งให้การสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย และก่อนมาแข่งขันครั้งนี้ทางโรงเรียนก็ได้จัดค่ายให้กับนักเรียนทั้ง 2 ทีมคือแปดริ้ว 1 และแปดริ้ว 2 เพื่อเตรียมความพร้อม อีกทั้งรุ่นพี่ที่ผ่านการคัดเลือกการแล้วก็มาให้คำแนะนำกับรุ่นน้องด้วย

ทั้งนี้การแข่งขันที่ประเทศจีนจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ก.ค.48 โดยมีเงื่อนไขและกติกาในการแข่งขันก็เป็นแบบเดียวกันกับการแข่งขันในครั้งนี้และเท่าที่ทราบตอนนี้มีประเทศที่จะเข้าร่วมแข่งขันคือ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น มาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในเอเชีย แม้ว่าจะได้เชิญตัวแทนจากทั่วโลกแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดีแม้การแข่งขันหุ่นยนต์ครั้งนี้จะใช้เทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็เป็นการปูพื้นฐานให้นักเรียนได้รู้จักคิดแก้ปัญหาเพื่อก้าวไปสู่เทคโนโลยีที่สูงขึ้น รวมถึงได้ฝึกความเป็นนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะ และแม้ว่าหลายคนจะไม่เคยแข่งขันหุ่นยนต์แบบบังคับมือแบบนี้มาก่อน แต่ประสบการณ์ครั้งนี้คงทำให้หลายคนได้กลับไปพัฒนาและปรับปรุงทักษะของตนเองให้ดีขึ้น

^^ คลิกที่นี่เพื่อรับชมวีดีโอคลิป
ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia
การแข่งขันหุ่นยนต์ข้ามสิ่งกีดขวางรอบชิงชนะเลิศ^^











กำลังโหลดความคิดเห็น