xs
xsm
sm
md
lg

วิทยาลัยเทคนิคอยุธยาเก่งบวกเฮง คว้าชัยหุ่นยนต์อาชีวะศึกษาระดับชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปิดฉากการแข่งขันหุ่นยนต์อาชีวะระดับชาติด้วยชัยชนะของ วท.อยุธยาที่เอาชนะคู่แข่งจาก วท.ฉะเชิงเทราด้วยฝีมือบวกความเฮง เมื่อหุ่นยนต์ของทีมคู่แข่งเกิดขัดข้องกลางสนามแข่ง ผู้ชนะเปิดเผยไม่คาดหวังว่าจะได้แชมป์มาครอง เพราะเกือบตกรอบในการแข่งระดับภาค ส่วนผู้พลาดหวังยังมีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งในการแข่งขันระดับอุดมเพื่อคัดตัวแทนไปแข่งที่จีน

กว่า 2 วันของการแข่งขันหุ่นยนต์อาชีวะศึกษา ประจำปีการศึกษา 2547 ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการการอาชีวศึกษาร่วมกับโมเดิร์นไนน์ทีวี เมื่อวันที่ 17-18 ก.พ. ได้ผู้ชนะจากวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ทีมที่เกือบพลาดท่าตกรอบในการแข่งขันระดับภาค ที่ จ.สกลนคร

การต่อสู้ครั้งนี้นอกจากเพื่อคัดเลือกผู้ชนะเข้ารับประทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุแล้ว ยังเป็นการคัดเลือกตัวแทนจาก 32 ทีมให้เหลือ 16 ทีมเข้าไปแข่งขันหุ่นยนต์ระดับอุดมศึกษา ABU Robot Contest Thailand 2005 ณ เมืองทองธานี ในวันที่ 25-26 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการคัดเลือกตัวแทนประเทศไปแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติที่ประเทศจีน

การแข่งขันดำเนินไปภายใต้หัวข้อ “จุดไฟศักดิ์สิทธิ์พิชิตกำแพงเมืองจีน” พร้อมกับเงื่อนไขที่แต่ละทีมจะต้องสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมา 2 แบบ คือ 1.หุ่นยนต์บังคับด้วยมือซึ่งมีได้เพียงตัวเดียวและมีผู้ควบคุมหุ่นยนต์คนเดียว 2.หุ่นยนต์อัตโนมัติที่ต้องทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดโดยจะมีกี่ตัวก็ได้ ส่วนจุดทำคะแนนคือ “จานเชื้อเพลิง” อยู่ใน 4 มุมของสนาม และโคมไฟอีก 5 เสาตั้งอยู่ในสนาม เป็นโคมไฟกลางที่ผู้เล่นจะได้แต้มลูกละ 5 คะแนน กับเสาข้างอีก 4 เสาที่จะได้แต้มลูกละ 1 คะแนน

แบ่งทีมชิงชัยเป็น 2 ทีม คือ ทีมสีแดงกับทีมสีน้ำเงิน ผู้แข่งขันจะต้องวางลูกบอลสีของตนในจุดทำคะแนน หากทีมใดสามารถทำ “ไชโย” คือวางลูกบอลที่จานเชื้อเพลิง และวางลูกบอลในโคมไฟทั้งหมดตรงกับสีทีมของตนก็จะเป็นฝ่ายชนะไป แต่ถ้าภายในระยะเวลา 3 นาที ไม่มีทีมใดทำ “ไชโย” ได้ ก็จะใช้วิธีนับคะแนนจะลูกบอลที่วางในตำแหน่งที่กำหนดแทน

และในการแข่งขันรอบสุดท้าย ผู้ชิงชัย 2 ทีม คือ ทีม “กรุงเก่า” จากวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยาและทีม “แปดริ้ว นัมเบอร์ 1” จากวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา โดยผู้จะคว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศต้องชนะ 2 ใน 3 เกมการแข่งขัน

เกมแรก วท.ฉะเชิงเทรา มาได้สวย วางลูกที่โคมไฟกลางได้ก่อน ในขณะที่หุ่นยนต์อัตโนมัติของ วท.อยุธยาหยุดทำงานอยู่กลางสนามไปดื้อๆ ผู้เล่นต้องขอกรรมการ “รีไทร์” (retry: การสตาร์ทให้หุ่นยนต์อัตโนมัติทำงานอีกครั้ง) พอถึงนาทีที่ 1.51 วท.ฉะเชิงเทราก็ทำ “ไชโย” นำเกมไปก่อน 1 ต่อ 0


ถึงเกมที่ 2 ทั้งคู่เริ่มต้นอย่างสูสี และเจอสถานการณ์ลำบาก เมื่อหุ่นยนต์อัตโนมัติของทั้งสอง 2 ค้างอยู่กลางสนาม ทีม วท.ฉะเชิงเทราขอ “รีไทร์” บ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำแต้มต่อได้ ในขณะที่ วท.อยุธยาสามารถวางลูกลงโคมไฟกลางได้อย่างสบายๆ วท.ฉะเชิงเทรายิ่งเจอภาวะบีบคั้นเมื่อไม่สามารถควบคุมหุ่นยนต์บังคับมือได้เนื่องจากเกิดขัดข้องในนาทีที่ 2 ของการแข่งขัน ต้องปล่อยให้ วท.อยุธยาทำแต้มต่อไปอย่างน่าเจ็บใจ จึงพ่ายเกมนี้ไปด้วยแต้ม 47 ต่อ 13 เสมอกันที่ 1 ต่อ 1 เกม

ในเกมที่ 3 เกมตัดสิน สถานการณ์ของ วท.ฉะเชิงเทรายังคงไม่ดีนัก แม้ได้ทำการแก้ไขหุ่นยนต์บังคับมือแล้วก็ตาม ก่อนหมดเวลา 20 วินาที ทำได้แค่ยิงลูกบอลของ วท.อยุธยาออกไป 2 ลูก และยืนดูทีมคู่แข่งทำแต้มต่อไปอีกครั้ง สิ้นเสียงสัญญาณหมดเวลา กองเชียร์ วท.อยุธยาต่างเฮลั่นเมื่อสามารถทำแต้มนำ 39 ต่อ 22 เอาชนะไปได้ 2 ต่อ 1 เกม

ผู้คว้าชัยที่อยู่เบื้องหน้าของการแข่งขัน 3 คนคือ 1.นายอังคาร กอบัวแก้ว ผู้ควบคุมหุ่นยนต์บังคับมือ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญต่อทีมอย่างยิ่งในการทำแต้มเอาชัยหากหุ่นยนต์อัตโนมัติเกิดขัดข้อง 2.นายอาณัติ แก้วถาวร ถือเป็นกุนซือของทีมในการวางแผนทิศทางทำแต้มของผู้ควบคุมหุ่นยนต์บังคับมือ (Navigator) 3.นายธนวัฒน์ สารีสุข ผู้เดินเครื่องหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Starter) ที่ต้องค่อยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อหุ่นยนต์ไม่ทำงาน ถือว่ามีความสำคัญต่อเกมไม่แพ้กัน

ส่วนเบื้องหลังที่นำทีมสู่ความสำเร็จซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของหุ่นยนต์อีก 7 คนคือ 1.นายนที พรหมรักษา 2.นายนที ขันธมาศ 2 โปรแกรมเมอร์ผู้เขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์อัตโนมัติ 3.นายคุณากร มีสมสิบ 4.นายณัฐพล กรมสุต 5.นายอานุภาพ คลื่นบรรเลง 6.นายนพดล ทองทึบ 4 หนุ่มผู้คอยดูแลทางด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของหุ่นยนต์

และ 7.นายบัณฑิต ตรีภาค ผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบแบตเตอรี่ของหุ่นยนต์ หนุ่มรายสุดท้ายเปิดเผยว่าถ้าแบตเตอรี่ไม่พอ ทุกอย่างก็จบ ดังนั้นเพื่อนๆ จึงถือว่าเขามีความสำคัญอย่างมากในความพร้อมขั้นสุดท้ายก่อนลงสนาม

ทั้งหมดเปิดเผยด้วยความรู้สึกของผู้ชนะว่าที่มาของความสำเร็จคือการรวมใจกัน คุยกันให้กำลังใจกัน และเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกทีมจะต้องมี ข้อได้เปรียบของพวกเขาอยู่ที่หุ่นยนต์อัตโนมัติที่ใช้เทคนิคจับเสาของโคมไฟกลางได้มั่นคงกว่าทีมอื่น อีกทั้งยังมีความเร็วในการทำคะแนนที่ดี

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้พวกเขาแปลกใจไม่น้อยเพราะเมื่อครั้งที่ไปแข่งขันระดับภาค ที่ จ.สกลนคร พวกเขาเกือบตกรอบเนื่องจากความเข้าใจในกติกาเกี่ยวกับความสูงของหุ่นยนต์อัตโนมัติคลาดเคลื่อน เมื่อไปถึงจึงต้องแก้ไขหุ่นยนต์ ทำให้ผิดแบบและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

“กำลังแข่งอยู่หุ่นยนต์ออโต้ (อัตโนมัติ) หักเลย ไปถึงพอทราบว่าไม่ถูกกติกาก็แก้ไขกันทั้งคืน ไม่ได้นอนกันเลย น้ำท่าก็ไม่ได้อาบ อีกอย่างซ้อมมากไปหน่อย หุ่นยนต์เลยโทรมก่อนลงแข่งจริง”สมาชิกในทีมช่วยกันเล่า

“แล้วครั้งนี้เราก็ซ้อมไม่เต็มที่ มาถึงยังต้องทำสนามแข่งอีก คือว่าอาจารย์เขารับจ้างทำสนามแข่งด้วย เราก็เลยเหนื่อย ไม่ค่อยได้ซ้อม ที่กั้นพวกนี้ (แผงกั้น) เราก็เป็นคนวาง จริงๆ แล้วเราหวังเป็น 1 ใน 16 ทีมที่จะไปแข่งที่อิมแพ็คมากกว่าหวังจะชนะเลิศ” อานุภาพเปิดเผย

สมาชิกทีมกรุงเก่าเล่าว่าพวกเขาใช้เวลากว่า 5 เดือนในการสร้างหุ่นยนต์ จากประสบการณ์อันเลวร้ายที่ จ.สกลนคร ทำให้พวกเขาต้องทุ่มเทมากกว่าเดิม และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่วิทยาลัย หลายคนบอกว่าไม่ได้กลับบ้านหลายเดือนจนคนที่บ้านแทบจะลืม

พวกเขาเล่าต่อไปว่ายังคงต้องปรับปรุงหุ่นยนต์โดยเฉพาะหุ่นยนต์บังคับมือที่ต้องทำให้มีน้ำหนักเบาลง ซึ่งเป็นปัญหาเหมือนๆ กันในทุกทีม และอาจจะต้องขึ้นโครงสร้างใหม่ เพื่อเตรียมแข่งในระดับอุดมศึกษาที่จะคัดเลือกตัวแทนประเทศไปแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับนานาชาติที่ประเทศจีน

พร้อมกันนี้ผู้ปกครองของนายอังคาร คือนางทุเรียนและนายสุวิน กอบังแก้ว ยังมาให้กำลังใจลูกชายถึงสนามแข่ง มารดาของนายอังคารกล่าวด้วยความตื้นตันว่าดีใจกับลูกชายและสนับสนุนเขามาตลอด หวังอยากให้ลูกได้เรียนสูงๆ จนจบปริญญาเอกทั้งนี้ก็แล้วแต่ว่าเขาต้องการจะเป็นอะไร ซึ่งนายอังคารกล่าวว่าอยากจะเรียนต่อทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และจะทำให้ดีที่สุด

ทางด้านผู้พลาดหวัง วท.ฉะเชิงเทรา ใช่ว่าจะพ่ายแพ้ตลอดไปเนื่องจากทำได้ดีมาตลอดเพียงแต่มาเกิดการขัดข้องขึ้นกับหุ่นยนต์ และครั้งนี้ก็จะเป็นบทเรียนเพื่อการเตรียมเข้าแข่งขันในระดับอุดมศึกษาที่จะมีขึ้นกลางปีร่วมกับทีมอาชีวะอื่นๆ อีก 16 ทีม ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกทีม ได้แสดงฝีมืออีกครั้งในสนามที่ใหญ่ขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น