xs
xsm
sm
md
lg

นักวิจัยแนะแปรงฟันวันละหลายครั้ง หุ่นดี-หนีโรคหัวใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บีบีซีนิวส์/รอยเตอร์- เห็นทีจะถึงเวลาที่พวกเราต้องหันมาใส่ใจสุขภาพช่องปากกันให้มากขึ้น เพราะการศึกษาชิ้นใหม่จากแดนปลาดิบแนะไว้ว่า วิธีรักษารูปร่างให้ดูดีแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้ตำราลดความอ้วนก็คือการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ด้านนักวิจัยฝั่งมะกันยังย้ำความสำคัญของการรักษาช่องปากว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายได้อีกด้วย

จากการสำรวจพฤติกรรมในแต่ละวันของคนญี่ปุ่นซึ่งมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 40 กว่าๆ เกือบ 14,000 คน ดร.ทากาชิ วาดะ (Dr.Takashi Wada) จากมหาวิทยาลัยจิเคอิ (Jikei University) ในกรุงโตเกียวพบว่า คนที่คงรูปร่างสะโอดสะองไว้ได้นั้นเป็นคนที่แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร

การศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสารสังคมญี่ปุ่นในการศึกษาโรคอ้วน(Japan Society for the Study of Obesity)ยังพบด้วยว่า ชายที่มีน้ำหนักมากเกินไปนั้นบางครั้งวันๆ หนึ่งแทบไม่แปรงฟันเลยก็มี

วาดะและเพื่อนร่วมทีมเปรียบเทียบวิถีชีวิตของคนที่มีดัชนีมวลรวมร่างกาย (BMI) มากกว่า 25 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มีหนักเกินกว่ากำหนดกับคนที่หุ่นดี โดยสำรวจพฤติกรรมการดื่มกิน การนอน การทำงาน และการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจไม่ได้หมายความว่าการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวจะเป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญพลังงานได้มากมายขนาดนั้น

"แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ดีอย่างหนึ่งว่าคนเหล่านี้ใส่ใจกับสุขภาพ พวกเขาต้องการให้ฟันดูดีและไม่มีกลิ่นปาก เราคิดว่าการสนับสนุนพฤติกรรมการแปรงฟันจะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพและจะช่วยป้องกันโรคอ้วนได้อีกด้วย" วาดะระบุ

นอกจากนั้น ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ป่วยด้วยโรคเหงือกจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงตีบ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการเส้นเลือดแตกหรืออุดตันในสมองและหัวใจวายได้

ดร. มอยส์ เดสวารีอุกซ์ (Dr Moïse Desvarieux) จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยชี้ว่าโรคเหงือกสามารถป้องกันและรักษาได้ ดังนั้นการดูแลสุขภาพปากเป็นอย่างดีจะส่งผลดีต่อระบบทางเดินโลหิตด้วย

นักวิจัยชุดนี้ทำการศึกษาระดับแบคทีเรียในช่องปากของอาสาสมัครจำนวน 657 คนซึ่งไม่มีประวัติว่าเคยป่วยเป็นโรคลมปัจจุบันหรือโรคหัวใจวายมาก่อน พร้อมกับวัดความหนาของหลอดเลือดแดงที่อยู่บริเวณลำคอซึ่งเป็นส่วนที่ลำเลียงเลือดจากหัวใจไปยังสมองเพื่อระบุให้ทราบถึงภาวะหลอดเลือดแดงตีบ

จากการศึกษาพบว่าคนที่มีแบคทีเรียชนิดที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอยู่ในระดับสูงจะมีความหนาของผนังหลอดเลือดแดงบริเวณดังกล่าวมากตามไปด้วย นอกจากนั้นยังพบด้วยว่าเฉพาะแบคทีเรียเป็นสาเหตุของโรคเหงือกเท่านั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับภาวะผนังหลอดเลือดแดงตีน ส่วนแบคทีเรียอื่นๆที่พบในปากไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับโรคหัวใจแต่อย่างใด

ขณะที่ จูดี้ โอซุลลิแวน (Judy O'Sullivan) โฆษกทางการแพทย์ของมูลนิธิหัวใจของอังกฤษ (the British Heart Foundation) กล่าวว่าจากข้อพิสูจน์นี้อาจระบุได้ว่าการติดเชื้อเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่นำไปสู่โรคหัวใจ แต่ก็ไม่ใช่จะสนใจแต่เพียงแค่การติดเชื้อในช่องปากเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆอีกเช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่ดี หรือรายได้ต่ำ

โอซุลลิแวนยังสนับสนุนให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ด้วยการดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน เช่นเดียวกับการไม่สูบบุหรี่ และรับประทานอาหารอย่างครบถ้วน

"ที่ผ่านมา มีการศึกษาหลายชิ้นพูดถึงความเกี่ยวข้องของโรคเหงือกกับโรคหัวใจ และงานวิจัยล่าสุดนี้ก็เป็นการสนับสนุนความเชื่อดังกล่าว นอกจากนั้น ยังเป็นการเน้นความสำคัญของการแปรงฟันวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เพื่อลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและทำให้สุขภาพของช่องปากดีขึ้น"

กำลังโหลดความคิดเห็น