ลูกหมูอินเทรนด์กินโยเกิร์ตแก้โรคท้องร่วง แทนการให้วัคซีน ไขปัญหาโรคที่ก่อให้เกิดการสูญเสียทางธุรกิจและอุตสาหกรรมเลี้ยงสุกร เป็นการลดสารตกค้างของยาต้านจุลชีพและมีราคาถูกกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะ ภายใต้การพัฒนาโครงการของ มช.
มช. พัฒนาวิธีการรักษาโรคท้องร่วงในลูกหมูด้วยโยเกิร์ตเป็นผลสำเร็จ กับโครงการ “ความเป็นไปได้ในการใช้โยเกิร์ตเพื่อป้องกันและรักษาโรคท้องร่วงที่เกิดจากแบคทีเรียอีโคไล(E.coli)ในลูกสุกรดูดนม” ภายใต้การผลักดันของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมเลี้ยงสุกร
รศ.ทัศนีย์ อภิชาติสรางกูร อาจารย์ประจำภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจการเลี้ยงสุกรในประเทศไทย พบปัญหาเกี่ยวกับโรคและการป้องกันโรคท้องร่วงในลูกสุกรอายุประมาณ 1-2 อาทิตย์ ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และที่ผ่านมาป้องและทำการรักษาโดยใช้ยาต้านจุลชีพ แต่ก็มีปัญหาด้านสารตกค้าง ทำให้ผู้ประกอบการต้องหาทางเลือกใหม่ ได้แก่การใช้สมุนไพร โปรไบโอติค(Probiotic) พรีไบโอติค (Prebiotic) เป็นต้น
สำหรับการใช้โยเกิร์ตนั้นเรียกว่าโปรไบโอติค คือการใช้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการรักษา เมื่อสัตว์กินเข้าไปจะเติบโตในทางเดินอาหารและมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น ลดจำนวนแบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย สร้างความสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ไม่เกิดการตกค้าง ซึ่งกลุ่มจุลินทรีย์นี้มีหลายชนิด อาทิ แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) แลคโตบาซิลลัส บัลการริคัส (Lactobacillus bulgaricus) และเสตรปโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส (Streptococcus thermuphilus) เป็นต้น
รศ.ทัศนีย์กล่าวต่อว่า แนวคิดที่จะนำโยเกิร์ตมาใช้รักษาโรคท้องร่วงในลูกสุกรที่มีสาเหตุมาจากเชื้อ เอสเชอริเชีย โคไล (Eschericia coli)นั้น ใช้หลักการที่ว่า แลคโตบาซิลลัสจากโยเกิร์ตสามารถกำจัดจำนวนอีโคไลในระบบทางเดินอาหารได้ ซึ่งให้ผลไม่ต่างกับการใช้ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาในปัจจุบันที่มีทั้งชนิดกรอกทางปากและชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
โดยปกติแล้วการใช้ยาปฏิชีวนะใช้ตามหลักการที่ว่าให้เข้าไปทำลายจุลชีพที่ก่อให้เกิดโรค แต่ในขณะเดียวกันจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ก็ถูกทำลายไปด้วย นอกจากนี้การใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดการดื้อยาในภายหลังและยังตกค้างในตัวสัตว์อีกด้วย ซึ่งโยเกิร์ตที่ใช้เป็นการทำขึ้นเองช่วยลดค่าใช้จ่ายลงมากกว่าการใช้ยาหรือซื้อแบบสำเร็จรูป
สำหรับขั้นตอนการทำโยเกิร์ตอย่างง่ายสามารถทำได้โดย นำส่วนผสมทั้ง 3 ชนิด ได้แก่นมผงธรรมดา 155 กรัม หางนมผง 100 กรัม และน้ำกลั่น 745 ม.ล.มาผสมกัน แล้วฆ่าเชื้อด้วยวิธีพาสเจอร์ไรซ์เซชั่น (แช่ในน้ำร้อน) อุณหภูมิประมาณ 85 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที ต่อจากนั้นทิ้งให้อุณหภูมิเหลือประมาณ 40 องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิลดลงเหลือ 40 องศาก็ให้เติมโยเกิร์ตสำเร็จรูปตามธรรมชาติ 40 มิลลิลิตรและคนให้เข้ากันหลังจากนั้นเทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และนำไปบ่มที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8-10 ชม.จนเป็นก้อนลิ่ม แล้วนำไปแช่ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ก็จะได้โยเกิร์ต