xs
xsm
sm
md
lg

กรเผยผลงานเด่นกระทรวงวิทย์ฯในรอบปี 4 ด้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสรุปผลงานเด่นในรอบปี ด้วยผลงานทั้งสิ้น 4 ด้าน คือ ด้านการวิจัยและพัฒนา ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้านการพัฒนากำลังคน และด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมตัวอย่างผลงานในรอบปีที่ผ่านมาอีก 10 ชิ้น

วานนี้ (27 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. นายกร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในงานแถลง “สรุปผลงานเด่นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีงบประมาณ 2547” ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค

นายกร กล่าวถึงการดำเนินงานของกระทรวงในปีที่ผ่านมาว่า ในปีที่ผ่านมาได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติงานไว้ โดยมุ่งพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมใหม่ รวมถึงการเข้าไปสนับสนุนหน่วยงาน และกระทรวงต่างๆ

ศ.ดร. ไพรัช ธัชยพงศ์ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวถึงผลงานของกระทรวงวิทย์ฯในรอบปี 47 ที่ผ่านมาสรุปได้คือ

1. ด้านการวิจัยและพัฒนา ในปีนี้กระทรวงวิทย์ฯได้สร้างผลงานด้วยการมีผลงานตีพิมพ์และเผยแพร่ในประเทศระดับนานาชาติ 147 เรื่อง มีผลงานวิจัยที่สามารถนำไปยื่นขอจดสิทธิบัตรได้ 58 เรื่อง และยังมีสิทธิบัตรที่ยื่นจดในต่างประเทศ 12 รายการ ในจำนวนนี้มีสถานประกอบการสามารถที่จะนำงานวิจัยไปใช้ได้ถึง 60 รายด้วยกัน

2. ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาหน่วยงานในประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชนยังได้รับประโยชน์จากการให้บริการในการวิเคราะห์ ทดสอบ สอบเทียบ และบริการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถึง 2,353 ราย โดยกลุ่มผู้รับบริการในโครงการนี้เป็นกลุ่มธุรกิจชุมชน โครงการโอทอป (OTOP) กลุ่มเกษตรกร กลุ่มแม่บ้านและประชาชน

3. ด้านการพัฒนากำลังคน ปี 47 นี้ยังส่งเสริมให้มีการส่งนักเรียนไปต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาใช้ ด้วยการใช้ทุนรัฐบาลส่งนักเรียนไปศึกษาต่อต่างประเทศทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถึง 919 คน ใน 91 ประเทศ แล้วยังมีนักเรียนทุนรุ่นก่อนๆที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้ 122 คน ในจำนวนนี้มีนักเรียนถึงร้อยละ 80 ที่กลับมาช่วยประเทศด้วยการกลับมาทำงานวิจัยและพัฒนา อีกทั้งในปีนี้ยังมีการอบรมด้วยการมีค่ายวิทยาศาสตร์ถึง 120 โครงงาน เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

4. ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีการเสนอกฎหมายเพื่อพัฒนาและจัดตั้งองค์กรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งสิ้น 8 ฉบับ อย่างเช่น การออก พ.ร.บ. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ การริเริ่มโครงการติดตั้ง “ไซน์ พาร์ค” (Science Pack) ประจำภูมิภาคต่างๆ และยังมีการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อสาธารณะ เช่น การตั้งศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Knowledge Center : STKC) และเผยแพร่ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ผ่านทางเวปไซด์ www.stkc.go.th ที่รวบรวมความรู้ไว้จำนวน 1,352 เรื่อง

นอกจากนี้แล้ว ดร.ไพรัช ยังได้ยกตัวอย่างถึงผลงานเด่นของกระทรวงวิทย์ฯ ประจำปีงบประมาณ 2547 ที่ผ่านมาอีก 10 โครงการเด่น

1. งานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในปีนี้มีคำขวัญว่า “วิทยาศาสตร์มีคำตอบ” โดยงานในปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ครบ 200 ปีวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์กษัตริย์ที่ได้ชื่อว่าเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และที่สำคัญในปีนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯเปิดงานในปีนี้ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547

2. เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงวิทย์ฯได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเปิด “ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ” (Thai Micro Electronics Center : THATMEC) ที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปเมื่อ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งศูนย์นี้ได้รับเงินอนุมัติจากคระรัฐมนตรีในการลงทุน 1,534 ล้านบาท เมื่อ 20 เม.ย. 47 และในขณะนี้ได้มีผลงานขอมาเป็นรูปธรรมแล้วคือ สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ไมโครชิพ 5 ไมครอน (เวเฟอร์ 2 นิ้ว) ได้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย และเริ่มทำการผลิตเครื่องกลจิ๋วให้กับโซนี่ (SONY) และ เรดิ (RADI) แล้ว

3. เทคโนโลยีแสงซินโครตรอน ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานจากศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน หน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงวิทย์ฯ จังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดบริการผลิตแสงซินโครตรอนด้วยอุปกรณ์เร่งพลังงาน “ไอจีวี” (I Ge V) ซึ่งแสงซินโครตรอนนี้ใช้ในการตรวจสอบหาโครงสร้างโมเลกุลขนาดเป็นนาโนเมตร ตรวจสอบโครงสร้างโปรตีนของไวรัสเพื่อหาตัวยาที่เหมาะสมในการจับไวรัส โดยในเบื้องต้นนี้ศูนย์ได้ให้คำแนะนำกับบริษัทเอกชนต่างๆในการแก้ปัญหาและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบควบคุม

4. เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศของไทย เทคโนโลยีด้านนี้ของไทยในปีที่ผ่านมารุดหน้าไปมากจากความร่วมมือกับประเทศฝรั่งเศส ด้วยการทุ่มงบประมาณถึง 6,000 ล้านบาท สร้างดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทยชื่อว่า “ทีออส” (Thailand Earth Observation Satellite) สามารถถ่ายภาพรายละเอียดสูง (RESOLUTION หรือ GroundSampling Distance) เท่ากับ 2 เมตรในภาพแบบขาว – ดำ และขนาด 15 เมตร ในแบบภาพสี มีมูลค่าประมาณ โดยมีกำหนดยิงให้สู่วงโคจรทำงานประมาณเดือนกรกฎาคม 2550

5. คลินิกเทคโนโลยี กระทรวงวิทย์ฯ ได้เริ่มจัดตั้งคลินิกเทคโนโลยีเพื่อเป็นกลไกความร่วมมือในการนำผลงานวิจัยและพัฒนาของกระทรวงและสถาบันการศึกษา ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยเครือข่าย 40 แห่ง หน่วยงานของกระทรวง 9 แห่ง และสถาบันการศึกษาที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคอีก 29 แห่ง โดยคลินิกนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชากรในระดับรากหญ้าอย่าง เกษตรกร แม่บ้าน ชุมชนวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ โอทอป (OTOP)และเอสเอ็มอี (SMEs) ในทั่วประเทศ

6. การพัฒนาชุดตรวจไข้หวัดนก จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกระทรวงวิทย์ฯจึงได้พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดให้ผลอย่างรวดเร็ว เพื่อตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (Innova Flu-A) โดยใช้เวลาตรวจได้รวดเร็วเพียงแค่ 10 นาที เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังในการถ่ายทอดเทคโนโลยี และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ได้ผลิตชุดตรวจเพื่อจำหน่าย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาชุดตรวจที่จำเพาะกับ subtype H T M ต่างๆ และตรวจหาการกลายพันธุ์ของไข้หวัดนกอย่างรวดเร็วเพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังการเกิดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะระบาดจากคนไปคน และประโยชน์ทางด้านระบาดวิทยา การควบคุมและเฝ้าระวังโรคต่อไป

7. การให้บริการทดสอบ / ตรวจสอบคุณภาพของสินค้าและวัตถุดิบ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการทดสอบ ตรวจสอบคุณภาพสินค้าและวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนการสิงออกในด้านต่างๆ โดยในเดือน ต.ค.46-ก.ย.47 ได้ให้บริการวิเคราะห์ทดสอบไปถึง 16,200 ตัวอย่าง และ 167,000 รายการ ทั้งทดสอบแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำดื่ม ทดสอบคุณค่าและความปลอดภัยทางอาหารตามมาตรฐาน อย.และสมอ. ทดสอบความแข็งแรง อายุการใช้งานและความปลอดภัยในชิ้นส่วนยานยนต์ และตรวจมลพิษในอากาศตาม พ.ร.บ. สิ่งแวดล้อม

8. การบริการสอบเทียบเครื่องมือและอุปกรณ์ ในปีที่ผ่านมาให้บริการให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่มีเครื่องมือวัดที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยทำการทดสอบไปทั้งสิ้น 1,900 ตัวอย่าง 37,000 รายการ ด้วยการทดสอบในเรื่อง ปริมาตร ไฟฟ้าและความถี่ การสั่นสะเทือน การทดสอบเคมี อุณหภูมิ ความดัน ความยาวและมิติ รวมทั้งมวลและแรงด้วย นอกจากนี้สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติยังให้บริการสอบเทียบปฐมภูมิในมาตรฐานสากลแก่ห้องปฏิบัติการจำนวน 460 แห่ง

9. มาตรการสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม สนับสนุนด้วยมาตรการทางการเงิน การคลัง และภาษี โดยมีผลงานในปี 47 ได้แก่ โครงการนวัตกรรมแห่งชาติซึ่งผลักดันให้เกิดบริษัทที่ใช้ผลงานวิจัยมากกว่า 50 บริษัท จำนวน 25 โครงการ มูลค่าที่เอกชนลงทุน 938 ล้านบาท ใช้กลไกนวัตกรรมดีไม่มีดอกเบี้ยและแปลงเทคโนโลยีเป็นทุนและร่วมลงทุน 58 ล้านบาท โครงการที่สำคัญ เช่น โครงการตรวจสอบย้อนกลับในอุตสาหกรรมกุ้ง โครงการผลิตนวัตกรรมผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ โครงการชุดตรวจไข้หวัดนก การผลิตเอนไซม์อะไมเลส โปรตีเอสและไคโตซานสำหรับผสมหัวอาหารสัตว์ และโครงการยานยนต์เพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม

10. การพัฒนาเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยในปีนี้ได้มีผลงานใน 2 แนวทางคือ ด้านแรกคือการร่วมมือกับประเทศอินเดีย มีนายนารายัน เมอร์ธี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีให้ความช่วยเหลือด้วยการรับเยาวชนไทย จำนวน 100 คนไปรับการฝึกอบรมและพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อินโฟซีส เมืองไมซอว์ ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 25 พ.ย. – 9 มี.ค.48 โดยออกค่าใช้จ่ายระหว่างกิจกรรมให้ ส่วนด้านที่สองมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนทั่วไปด้วยการปรับปรุงองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติจนมีผู้เข้าชมกว่า 500,000 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น