รอยเตอร์/ผู้จัดการออนไลน์ – อียิปต์เตรียมย้ายพระศพมัมมี “ตุตันคาเมน” สู่ไคโร พร้อมทำแคทสแกน เพื่อค้นหาเหตุที่ทำให้ยุวกษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรอียิปต์อันยิ่งใหญ่เมื่อ 3,000 ปีก่อนต้องสิ้นพระชนม์ทั้งที่ยังทรงพระเยาว์นัก ซึ่งข้อสงสัยล่าสุดคือถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยลูกธนู
ฟาโรก โฮสนี (Farouk Hosni) รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยผ่านสำนักข่าวตะวันออกกลาง (Middle East News Agency : MENA) ของอียิปต์ว่า เขาเห็นชอบให้เคลื่อนย้ายพระศพมัมมีฟาโรห์ตุตันคาเมนออกจากโลงพระศพ มาสู่พิพิธภัณฑ์กรุงไคโร เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการสิ้นพระชนม์ที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันพระศพอยู่ ณ เมืองลักซอร์ (Luxor) ทางตอนใต้ของอียิปต์ แต่ทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่รวมถึงหน้ากากทองคำที่ครอบพระพักตร์ไว้ถูกแยกออกไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ไคโร
ทั้งนี้ ซาไฮ ฮาวาสส์ (Zahi Hawass) ผู้อำนวยการสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์ เปิดเผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้จะใช้การแคท สแกน (CAT scan – การกราดภาพตัดขวางโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย) ซึ่งเป็นการเอ็กซเรย์แบบ 3 มิติ เพื่อหาหลักฐานว่าอะไรกันแน่ที่คร่าชีวิตกษัตริย์น้อย ซึ่งพระศพมัมมีของตุตันคาเมนที่ยังเหลืออยู่ประกอบด้วย กะโหลก หน้าอก และกระดูกส่วนอื่นๆ โดยจะเคลื่อนย้ายภายปลายเดือน พ.ย.นี้ และเชื่อว่าการตรวจสอบจะเสร็จก่อนสิ้นปี
”พวกเราจะได้รู้กันว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยโรคอะไร และยังจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพระองค์มีพระชนมายุเท่าไหร่ แม้กระทั่งทุกวันนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าพระองค์สิ้นพระชมน์ตามปกติหรือถูกปลงพระชนม์” ฮาวาสส์เผย แต่ว่าพระศพมัมมีของพระองค์ประดิษฐานไว้ในโลงไม้ ซึ่งเมื่อปี 2511 (1968) นักโบราณคดีได้เปิดขึ้นและเอ็กซเรย์พบว่ามีสะเก็ดหินอยู่ในกะโหลกของพระองค์ ซึ่งทำให้น่าเชื่อว่าทรงถูกปลงพระชนม์ด้วยธนู และผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งก็คือนักบวชชั้นสูงซี่งครองตำแหน่งผู้นำทางการทหารด้วย และตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีผู้ใดได้เห็นพระศพมัมมีอีกเลย
สำหรับพระศพของตุตันคาเมนนั้น “โฮเวิร์ด คาร์เตอร์” (Howard Carter) นักโบราณวิทยาชาวอังกฤษและ “ลอร์ด คาร์นาร์วอน” (Lord Carnarvon) ผู้สนับสนุนทางการเงิน เป็นคณะแรกที่ได้เข้าสู่สุสานของพระองค์ในหุบผากษัตริย์ เมืองลักซอร์ (Valley of the Kings) ในวันที่ 4 พ.ย.2465 (ค.ศ.1922) โดยคาร์เตอร์ใช้เวลาถึง 10 ปี ในการขุดค้นสุสานและค้นพบห้องเก็บพระศพ โลงพระศพที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ แม้ตุตันคาเมนจะไม่ใช่กษัตริย์องค์สำคัญ แต่สุสานของพระองค์มีเครื่องประกอบพิธีศพที่หาค่าไม่ได้ และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา การค้นพบในครั้งนี้นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในโลก
“ตุตันคาเมน” (หรือตุตันคามุน : Tutankhamun/Tutankhamen) เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนม์เพียง 10 ชันษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334 - 1323 ก่อนคริสตกาล ก่อนหน้าขึ้นครองราชย์ใช้พระนามว่า “ตุตันคาเตน” (Tutankhaten) อันหมายถึงเทพอาเตน (Athen) หรือสุริยเทพอวตาลลงมา
ทั้งนี้ พระราชบิดาของพระองค์คือ “เอเมนโฮเทปที่ 4” (Amenhotep IV) ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “อาเคนาเตน” (Akhenaten) ด้วยความศรัทธาใน “เทพอาเตน” เป็นอย่างมาก โดยยัดเยียดและปฏิรูปศาสนาอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งแต่เดิมนั้นประชากรอียิปต์นับถือพระเจ้าหลายองค์ (พหุเทวนิยม) โดยมีเหล่านักบวช เป็นผู้ดูแลทำพิธีในวิหารต่างๆ แต่อาเคนาเตน ได้นำเอาศาสนาพระเจ้าองค์เดียว (เอกเทวนิยม) คือ สุริยเทพอาเตนเข้ามา ซึ่งหลังจากอาเคนาเตนสิ้นพระชนม์ลง ศาสนสถานและชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “อาเตน” จึงถูกลบออกไป รวมทั้งพระนามของ “ตุตันคาเตน” ที่เปลี่ยนมาเป็น “ตุตันคาเมน”
ตุตันคาเมนสิ้นพระชนม์เมื่อ 18 ชันษาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อกันว่าฟาโรห์หนุ่มองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์โดยสังฆราชอัย (Ay หรือ Ai) ซึ่งต่อมาสถาปนาตัวเองเป็นฟาโรห์สืบราชสมบัติ และด้วยระยะเวลาอันสั้นในการครองราชย์ของกษัตริย์พระองค์น้อย ทำให้ทรงไม่มีภารกิจใดมากนัก ที่สำคัญหลังสิ้นพระชนม์ทรงถูกกษัตริย์องค์ต่อมาลบทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพระนามของตุตันคาเมนออกจากรายนามพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ทำให้ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใดรู้จักพระนามของพระองค์เลย
ที่สำคัญ เมื่อคาร์เตอร์ และลอร์ด คาร์นาวอน ได้ค้นพบสุสานของตุตันคาเมนในอีก 3,000 ปีให้หลัง ก็พบว่ามีทองคำและของมีค่ามากมาย เนื่องจากพระศพและสุสานที่สร้างขึ้นไม่ได้สลักชื่อว่าเป็นของกษัตริย์ จึงรอดพ้นเงื้อมมือโจรที่คอยปล้นและทำลายสุสานไปได้ และทำให้ทุกอย่างยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
แต่สิ่งที่ร่ำลือกันมากกว่าสิ่งใดสำหรับสุสานฟาโรห์หนุ่มองค์นี้คือ คำสาป ที่นักบวชไอยคุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของตุตันคาเมน “มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์” ข้อความที่ขลังและเปี่ยมด้วยอาถรรพณ์นี้ ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป และนับแต่สุสานถูกเปิดผู้ร่วมพิธีเปิดเสียชีวิตไป 22 คนและนับจากนั้นแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรหากแต่เมื่อครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตันคาเมนถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา รวมถึงลอร์ดคาร์นาร์วอน เจ้าของทุนในการขุดค้นสุสานก็เสีบชีวิตลงหลังจากถูก “ยุงกัด”