xs
xsm
sm
md
lg

Hooke : ศัตรูคนสำคัญของนิวตัน

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน


ใครเอ่ยเมื่อ 300 ปีก่อนนี้ ได้เคยใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาว 20 เมตร ศึกษาวงแหวนของดาวเสาร์ และบุคคลคนเดียวกันนี้ได้วาดภาพของหลุมอุกกาบาตต่างๆ บนดวงจันทร์อย่างละเอียด นอกจากจะมีผลงานด้านดาราศาสตร์แล้ว เขาคนนี้ยังเป็นสถาปนิกผู้ช่วยของ Christopher Wren สร้างกรุงลอนดอนขึ้นใหม่ หลังจากที่เมืองถูกมหาอัคคีภัยทำลายไปเมื่อปี พ.ศ. 2209 ส่วนผลงานที่สำคัญด้านฟิสิกส์ของบุคคลปริศนาผู้นี้ คือได้ประดิษฐ์นาฬิกาที่เดินด้วยสปริงเป็นเครื่องแรกของโลก และเขาผู้นี้ยังได้ใช้กล้องจุลทรรศน์ศึกษาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ตามองเห็นยากเช่น ไร หมัด และแมลงวันด้วย อีกทั้งยังได้กล่าวถึงสาเหตุการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตก่อนที่ Charles Darwin จะเกิดถึง 15 ปี บุคคลผู้สามารถทุกเรื่องจนเปรียบเสมือนเป็น Leonardo da Vinci ของอังกฤษคือใคร

หากคุณตอบว่า เขาชื่อ Robert Hooke (2178-2246) คุณเก่งกว่านักวิทยาศาสตร์หลายคน แต่คำตอบของคุณก็จะนำมาซึ่งคำถามอีกว่า แล้วเหตุใดคนทุกวันนี้ส่วนใหญ่ จึงไม่รู้จัก Hooke ว่ารู้รอบด้านกายวิภาคศาสตร์ เรขาคณิต ธรณีวิทยา ดาราศาสตร์ ทัศนศาสตร์ และแม่เหล็ก แต่กลับรู้จักนักวิทยาศาสตร์ร่วมรุ่นคนอื่นๆ เช่น Robert Boyle (บิดาของวิชาเคมี) Christopher Wren (สถาปนิกผู้สร้างมหาวิหาร St. Paul's) Anton van Leeuwenhock (ผู้ศึกษาเซลล์สิ่งมีชีวิตเป็นคนแรก) Gottfried Leibnitz (ผู้มีส่วนในการสร้างวิชาแคลคูลัส) และ Isaac Newton (นักฟิสิกส์ผู้พบทฤษฎีแรงโน้มถ่วง) คำตอบคือ เพราะ Hooke เป็นศัตรูคู่อาฆาตของ Newton ที่ Newton ได้จงใจทำลายผลงาน และเครดิตทุกรูปแบบของ Hooke ให้สิ้นซาก เพื่อว่าโลกจะได้ไม่รู้จัก และตระหนักในความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้

บัดนี้ก็เป็นเวลานานนับ 301 ปีแล้วที่ Hooke ได้จากโลกไป และวงการวิทยาศาสตร์ก็กำลังศึกษาความคิด และผลงานของ Hooke ที่ได้ทำไว้ ตลอดจนประวัติที่พังพินาศย่อยยับในบั้นปลายชีวิตของ Hooke ด้วย

Hooke เกิดในครอบครัวที่ยากจน ที่เกาะ Isle of Wight ในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2178 (รัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง) เมื่อมีอายุได้ 13 ปี เขาได้เข้าทำงานเป็นผู้ช่วยของ Robert Boyle ที่ลอนดอน ซึ่งขณะนั้น Boyle กำลังศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างความดันของก๊าซ และปริมาตรของก๊าซนั้น โดย Hooke ได้เป็นผู้ออกแบบปั๊มสูบอากาศเข้า-ออก เพื่อเปลี่ยนความดันของก๊าซ จนในที่สุด Boyle ก็ได้พบกฎของ Boyle ซึ่งแถลงว่า ถ้าอุณหภูมิของก๊าซไม่เปลี่ยน ความดันและปริมาตรของก๊าซนั้นจะเป็นปฏิภาคผูกพันกัน นั่นคือ เมื่อความดันเพิ่มปริมาตรจะลด และถ้าความดันลดปริมาตรของก๊าซจะเพิ่ม

และขณะที่ Hooke เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Oxford ในประเทศอังกฤษนั้น เขาก็ได้พบกฎของเขาเอง (Hookes law) ที่นักเรียนรู้จักกันดี ซึ่งกฎนี้แถลงว่าเวลาใช้แรงดึงลวดสปริงให้ยืดออก ความยาวสปริงส่วนที่ยืดออกจะเป็นปฏิภาคโดยตรงกับแรงที่ใช้ดึง นั่นคือ ถ้าออกแรงมาก สปริงจะยืดออกมาก และถ้าอัดแรงน้อย สปริงก็จะหดน้อย เป็นต้น และเมื่อสำเร็จการศึกษา Hooke ได้หันมาสนใจดาราศาสตร์ และก็ได้พบว่าทั้งดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดีมีการหมุนรอบตัวเอง เขายังได้วัดความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของดาวอังคารด้วย เมื่ออายุได้ 30 ปี Hooke ได้เรียบเรียงตำราด้านทัศนศาสตร์ชื่อ Micrographia ซึ่งแสดงภาพวาดของสิ่งต่างๆ ที่เขาเห็น โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ที่เขาสร้างขึ้นเช่น ภาพของเกล็ดหิมะ และภาพสัตว์ขนาดเล็กเช่น หมัด ไร ฯลฯ และ Hooke ก็ยังแสดงให้เห็นอีกว่า แสงมีคุณสมบัติของคลื่น เพราะสามารถเลี้ยวอ้อมสิ่งกีดขวางได้ (ปรากฏการณ์เลี้ยวเบน diffraction) ซึ่งตรงข้ามกับความคิดของ Newton ที่เชื่อว่าแสงมีคุณสมบัติของอนุภาค

การศึกษาธรรมชาติของหินผาที่ Isle of Wight ทำให้ Hooke คิดว่าเหตุการณ์น้ำท่วมโลกตามที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิลไม่จริง เพราะสภาพสึกกร่อนของหน้าผาต้องใช้เวลานานกว่า 40 วัน (ตามคัมภีร์พระเจ้าบันดาลให้ฝนตกนาน 40 วัน) การพบซากฟอสซิล (fossil) ของสัตว์ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สัตว์นั้นๆ ณ วันนี้ไม่มีแล้วทำให้ Hooke รู้ว่าสัตว์โลกมีการสูญพันธุ์

ในวันที่ 2 กันยายน ได้เกิดอัคคีภัยครั้งยิ่งใหญ่ในกรุงลอนดอน ไฟที่ลุกไหม้นาน 4 วันได้ทำให้ 80% ของเมืองเป็นเถ้าถ่าน บ้านเรือน 13,000 หลังถูกไฟเผา และผู้คน 80,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย Hooke ได้ทำงานช่วย Christopher Wren ในการออกแบบสร้างเมืองใหม่ แต่โลกให้เครดิตทั้งหมดแก่ Wren เพราะ Wren มีบุตรที่ช่วยเผยแพร่ความยิ่งใหญ่ของบิดา ส่วน Hooke ผู้ไม่มีครอบครัว จึงไม่มีใครช่วยป่าวร้องให้เลย และยิ่งเมื่อ Hooke ได้ทำตัวเป็นศัตรูคู่อาฆาตของ Newton ด้วยแล้ว เขาก็กลายเป็นบุคคลต้องห้ามที่ไม่มีใคร (ในสมัยนั้น) ปรารถนาจะเป็นมิตรด้วย

ในปี พ.ศ. 2222 ประวัติศาสตร์มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า Hooke ได้เขียนจดหมายถึง Newton เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาโจทย์เรื่องลักษณะวงโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ ขณะถูกแรงที่แปรผกผันกับระยะทางยกกำลังสองกระทำ

และนี่ก็คือความผิดพลาดครั้งสำคัญ เพราะการถาม Newton เรื่องนี้เท่ากับเป็นการเอาปลาไปให้แมวกิน เพราะ Newton เองก็ครุ่นคิด และรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงเช่นกัน แต่ Newton มีความสามารถทางคณิตศาสตร์สูงกว่า Hooke มาก จึงได้ใช้ความสามารถด้านนี้เดินหน้าแก้ปัญหาที่ Hooke ถาม ได้เรียบร้อย และได้เรียบเรียงผลงานลงพิมพ์ใน Principia ในปี พ.ศ. 2230 ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่แปลกที่ Hooke ได้ออกมาโวยวายเสียงลั่นสนั่นเมืองว่า Newton ขโมยความคิดของตน การกล่าวหาเช่นนี้ทำให้ Newton แค้นเคืองมาก และก็ได้แถลงตอบโต้ว่า ไม่เคยขโมย และไม่เคยได้เรียนอะไรๆ จาก Hooke เลย

การพบแรงโน้มถ่วง การพบกฎการเคลื่อนที่ของสสาร การสร้างวิชาแคลคูลัส ล้วนเป็นความสำเร็จที่ทำให้ชื่อของ Newton เป็นอมตนิรันดร์กาล และยิ่ง Newton มีชีวิตที่พุ่งรุ่งโรจน์ ชีวิตของ Hooke ก็ยิ่งมีแต่ลงกับลงเพราะสุขภาพของ Hooke เริ่มทรุดโทรม การดื่มกาแฟจัด การสูบกัญชาเวลาเครียด ก็เพื่อระบายอารมณ์แค้นที่ Hooke มีต่อ Newton เขาเริ่มสิ้นหวังที่จะเรียกชื่อเสียงเขาคืน เพราะคนทั้งโลกขณะนั้นคิดว่า Hooke เป็นคนขี้อิจฉาความสำเร็จของคนอื่น เขาไม่มีเพื่อน และไม่มีครอบครัว เมื่อถึงบั้นปลายของชีวิตตาเขาบอด ร่างกายเป็นอัมพาต หลังโกง การมีอารมณ์ขุ่นมัวตลอดเวลา และต่อต้านสังคมทำให้ Hooke ไม่ต้องการพบใคร และไม่อยากให้ใครพบ เขาไม่อาบน้ำทำให้ร่างกายมีไรไต่ตอม Hooke จบชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในตอนดึกของคืนวันหนึ่ง ขณะมีอายุได้ 67 ปี ผู้ที่บุกเข้าค้นห้องของเขาได้พบหีบเงินที่ Hooke ซุกซ่อนไว้ซึ่งภายในมีเงิน (คิดเป็นเงินปัจจุบัน) 60 ล้านบาท

หลังจากที่สิ้นศัตรูคนสำคัญแล้ว Newton ก็ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ของ Royal Society และได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ Opticks โดยไม่กล่าวอ้างถึงผลงานด้านทัศนศาสตร์ของ Hooke เลย อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่ทำลายอุปกรณ์ต่างๆ ที่ Hooke สร้างให้ Royal Society จนหมด และแม้แต่ภาพเหมือนของ Hooke ที่ติดอยู่ที่ผนังของสมาคมก็ถูกปลดออก และถูกนำไปเผา

ในหนังสือชื่อ The Forgotten Genius : The Biography of Robert Hooke ที่ Stephen Inwood เรียบเรียง และ MacAdam/Cage จัดพิมพ์ในราคา $28.50 Inwood ได้เล่าว่า Hooke รู้ศาสตร์แทบทุกแขนง และเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีพรสวรรค์ด้านการทดลอง เพราะสามารถออกแบบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เทอร์โมมิเตอร์ ปั๊ม กล้องจุลทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์ ฯลฯ และเป็นผู้ที่เชื่ออย่างหนักแน่นว่า กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการใช้ศึกษาธรรมชาติ แต่การมีบุคลิกชอบแข่งขัน ทำให้เวลาไม่ได้รับเครดิตจากผลงานที่ทำ ก็ออกมาโวยวายจนทำให้ผู้คนเบื่อฟัง ถึงแม้ว่า Hooke จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งทดลองผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 17 ก็ตาม

ณ วันนี้ไม่มีใครรู้ว่าศพของ Hooke อยู่ที่ใด ถึงกระนั้น Royal Society แห่งกรุงลอนดอน ก็คิดว่า Hooke สมควรได้รับการยกย่อง จึงได้นำแผ่นศิลาจารึกชื่อของ Hooke วางในมหาวิหาร Westminster ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหลุมฝังศพของศัตรูคู่อาฆาตของเขาครับ

สุทัศน์ ยกส้าน ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสถาน
กำลังโหลดความคิดเห็น